Beijing resumed its seat in the Uni

Beijing resumed its seat in the United Nations in October 1971, and U.S. President Richard Nixon visited China in 1972, so a Sino-U.S. alliance against the Soviet Union emerged as a foreign strategy in China. Chairman Mao set forth the Three Worlds Theory in 1974, which, regarding the Soviet Union as another hegemonic superpower besides the United States, sought to “treat the Soviet and U.S. hegemonism differently,” that is, official doctrine was to oppose the hegemony of both superpowers, but to concentrate more on that of the Soviet Union.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ปักกิ่งกลับมาของที่นั่งในสหประชาชาติในปี 1971 ตุลาคม และประธานาธิบดีสหรัฐริชาร์ดนิกสันเยือนประเทศจีนในปี 1972 เพื่อพันธมิตรจีนกับสหรัฐฯ กับสหภาพโซเวียตกลายเป็นกลยุทธ์ต่างประเทศจีน ประธานเหมาไว้ทฤษฎีสามโลกใน 1974 ซึ่ง เกี่ยวกับสหภาพโซเวียตเป็นมหาอำนาจ hegemonic อื่นนอกจากสหรัฐอเมริกา ต้องการเพื่อ "รักษา hegemonism โซเวียตและสหรัฐอเมริกาต่างกัน" ที่ ถูกสอนอย่างเป็นทาง การต่อต้านชิงของประเทศมหาอำนาจทั้งสอง แต่ การมีสมาธิมากขึ้นในที่สหภาพโซเวียต

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ปักกิ่งกลับมานั่งในสหประชาชาติในเดือนตุลาคมปี 1971 และประธานาธิบดีสหรัฐริชาร์ดนิกสันไปเยี่ยมประเทศจีนในปี 1972 เพื่อให้เป็น Sino-US พันธมิตรกับสหภาพโซเวียตกลายเป็นกลยุทธ์ที่ต่างประเทศในประเทศจีน ประธานเหมาที่กำหนดไว้ทฤษฎีสามโลกในปี 1974 ซึ่งเกี่ยวกับสหภาพโซเวียตอีกมหาอำนาจ hegemonic นอกเหนือจากสหรัฐอเมริกาพยายามที่จะ "รักษาโซเวียตและสหรัฐอเมริกา hegemonism แตกต่างกัน" นั่นคือคำสอนอย่างเป็นทางการที่จะต่อต้านอำนาจของทั้งสอง มหาอำนาจ แต่สมาธิมากขึ้นในที่ของสหภาพโซเวียต

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ปักกิ่งต่อที่นั่งในสหประชาชาติ ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2514 และสหรัฐอเมริกาประธานาธิบดี ริชาร์ด นิกสัน เยือนจีนในเดือน ดังนั้น sino-u.s. พันธมิตรกับสหภาพโซเวียตกลายเป็นกลยุทธ์ต่างประเทศในประเทศจีน ท่านประธานเหมามาตั้งสามภพทฤษฎีในปี 1974 ซึ่งในสหภาพโซเวียตเป็นอื่นนอกจากเจ้ามหาอำนาจสหรัฐอเมริกา พยายามที่จะ " รักษา สหภาพโซเวียต และสหรัฐอเมริกา hegemonism แตกต่าง " นั่นคือ ลัทธิอย่างเป็นทางการเพื่อต่อต้านอำนาจของมหาอำนาจ แต่สมาธิมากขึ้นในที่ของสหภาพโซเวียต