In many cases scientists and health

In many cases scientists and health professionals need to identify a microbe in a given environment. Learning the members of a population of microbes present in nature can give us new insights into biochemical processes that are taking place. This leads to a better understanding of environments and the role microbes play in them. Identifying a microbe growing in a patient will identify the disease and the treatments that are effective at eliminating it. Identification tests can also be used to monitor and eliminate microbes present in the food supply, increasing food safety by eliminating pathogens and decreasing spoilage. These are just a few of the many reasons for identifying microbes.
For decades, microbial identification had dependent upon determining the biochemical capacity of the microbe by growing in various test media. These tests probe the metabolic capacity of the strain under study, determining what the microbe could use as a carbon source (fermentation broth), its relationship to oxygen (thioglycollate medium), cell wall structure (Gram stain), and many other properties. Hundreds of media and tests have been developed to help identify microbes. These tests can be fairly accurate, but because many depend upon growth of the microbe, they often require a one day incubation before they can be read. This can be a serious detriment, especially in the food and health field, rapid diagnosis is especially critical.

A search for more rapid methods lead to the development of tests based on antibodies and DNA methods. Antibody methods depend upon the reaction of a specially prepared antibody against an antigen that is unique to the target microbe. The most common DNA methods utilize the short DNA sequences called primers that hybridize to distinct sequences in the target microbe. The primers are then used as a template in PCR reactions, producing a detectible PCR fragment, that indicated the presence of the target microbe. Antibody and DNA-based methods are more rapid than classic biochemical tests, but they tend to be specialized for the presence of specific microbes.

Due to the large body of information that has been gathered on most cultured micorbes, it is now possible to design a set of tests to determine the identity of almost any microbe.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในหลายกรณี นักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจำเป็นต้องระบุ microbe ในสภาพแวดล้อมที่กำหนด เรียนสมาชิกของประชากรจุลินทรีย์ในธรรมชาติสามารถให้ลึกกระบวนการชีวเคมีที่มีการทำใหม่ นี้นำไปสู่ความเข้าใจดีของสภาพแวดล้อม และจุลินทรีย์บทบาทเล่นได้ ระบุ microbe ที่เติบโตในผู้ป่วยจะระบุโรคและการรักษาที่มีประสิทธิภาพในการกำจัดมัน ยังสามารถใช้รหัสทดสอบเพื่อตรวจสอบ และกำจัดจุลินทรีย์ที่อยู่ในการจัดหาอาหาร เพิ่มความปลอดภัยของอาหาร โดยการกำจัดโรค และลดการเน่าเสีย เหล่านี้เป็นเพียงไม่กี่หลายสาเหตุระบุจุลินทรีย์สำหรับทศวรรษที่ผ่านมา รหัสจุลินทรีย์ได้ขึ้นกำหนดกำลังการผลิตของ microbe การชีวเคมีโดยเติบโตในสื่อทดสอบต่าง ๆ ทดสอบเหล่านี้โพรบเผาผลาญกำลังการผลิตของสายพันธุ์ภายใต้การศึกษา การกำหนดสิ่งที่ microbe สามารถใช้เป็นแหล่งคาร์บอน (หมักซุป), ความสัมพันธ์ของออกซิเจน (thioglycollate medium), โครงสร้างผนังเซลล์ (คราบกรัม), และคุณสมบัติอื่น ๆ ได้รับการพัฒนาสื่อและการทดสอบเพื่อช่วยระบุจุลินทรีย์ ทดสอบเหล่านี้ได้อย่างถูกต้องเป็นธรรม แต่ เพราะมากขึ้นเจริญเติบโตของการ microbe พวกเขามักจะจำเป็นต้องบ่มหนึ่งวันก่อนที่พวกเขาสามารถอ่าน นี้สามารถเป็นร้ายที่ร้ายแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฟิลด์อาหารและสุขภาพ วินิจฉัยอย่างรวดเร็วเป็นสิ่งสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งหาวิธีขึ้นนำไปสู่การพัฒนาตามแอนตี้และดีเอ็นเอวิธีการทดสอบ แอนติบอดีวิธีขึ้นอยู่กับปฏิกิริยาของแอนติบอดีที่เตรียมไว้เป็นพิเศษกับการตรวจหาที่เฉพาะ microbe เป้าหมาย ดีเอ็นเอวิธีใช้ลำดับดีเอ็นเอสั้น ๆ ที่เรียกว่าไพรเมอร์ที่คือการลำดับความแตกต่างใน microbe เป้าหมาย ไพรเมอร์ที่มีการใช้เป็นแม่แบบในปฏิกิริยา PCR ผลิตส่วน PCR detectible ที่ระบุของ microbe เป้าหมาย แอนติบอดีและวิธีใช้ดีเอ็นเอได้อย่างรวดเร็วมากขึ้นกว่าการทดสอบชีวเคมีคลาสสิก แต่พวกเขามักจะมีความของจุลินทรีย์เฉพาะเนื่องจากร่างกายขนาดใหญ่ของข้อมูลที่รวบรวมมาในอ่างสุด micorbes ตอนนี้สามารถได้ออกแบบชุดทดสอบเพื่อตรวจสอบข้อมูลประจำตัวของ microbe เกือบทุก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในกรณีที่นักวิทยาศาสตร์หลายคนและผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพต้องระบุจุลินทรีย์ในสภาพแวดล้อมที่กำหนด การเรียนรู้ที่สมาชิกของประชากรของจุลินทรีย์ที่มีอยู่ในธรรมชาติสามารถให้เราเข้าใจใหม่ในกระบวนการทางชีวเคมีที่มีการวาง นี้นำไปสู่ความเข้าใจที่ดีของสภาพแวดล้อมและจุลินทรีย์บทบาทในพวกเขา ระบุจุลินทรีย์ที่เพิ่มขึ้นในผู้ป่วยจะระบุโรคและการรักษาที่มีประสิทธิภาพในการกำจัดมัน การทดสอบประจำตัวนอกจากนี้ยังสามารถนำมาใช้ในการตรวจสอบและกำจัดจุลินทรีย์ที่อยู่ในแหล่งอาหารที่เพิ่มขึ้นความปลอดภัยของอาหารโดยการกำจัดเชื้อโรคและลดการเน่าเสีย เหล่านี้เป็นเพียงไม่กี่ของหลายเหตุผลสำหรับการระบุจุลินทรีย์.
สำหรับทศวรรษที่ผ่านประจำตัวประชาชนของจุลินทรีย์ได้ขึ้นอยู่กับการกำหนดความจุทางชีวเคมีของจุลินทรีย์โดยการปลูกทดสอบในสื่อต่างๆ การทดสอบเหล่านี้ตรวจสอบความสามารถในการเผาผลาญอาหารของสายพันธุ์ภายใต้การศึกษา, การกำหนดสิ่งที่จุลินทรีย์สามารถใช้เป็นแหล่งคาร์บอน (น้ำหมัก) ความสัมพันธ์กับออกซิเจน (กลาง thioglycollate) โครงสร้างผนังเซลล์ (กรัมสี) และคุณสมบัติอื่น ๆ อีกมากมาย ร้อยของสื่อและการทดสอบได้รับการพัฒนาเพื่อช่วยระบุจุลินทรีย์ การทดสอบเหล่านี้ได้ถูกต้องเป็นธรรม แต่เพราะหลายขึ้นอยู่กับการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ที่พวกเขามักจะต้องมีการบ่มหนึ่งวันก่อนที่พวกเขาสามารถอ่านได้ นี้อาจจะเป็นความเสียหายอย่างรุนแรงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในอาหารและสาขาสุขภาพการวินิจฉัยอย่างรวดเร็วเป็นสิ่งสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่ง. ค้นหาวิธีการอย่างรวดเร็วมากขึ้นนำไปสู่การพัฒนาของการทดสอบบนพื้นฐานของแอนติบอดีและวิธีการตรวจดีเอ็นเอ วิธีแอนติบอดีขึ้นอยู่กับปฏิกิริยาของแอนติบอดีที่เตรียมไว้เป็นพิเศษกับแอนติเจนที่เป็นเอกลักษณ์ของจุลินทรีย์เป้าหมาย ที่พบมากที่สุดวิธีการใช้ดีเอ็นเอดีเอ็นเอสั้นที่เรียกว่าไพรเมอร์ที่ผสมจะแตกต่างกันในลำดับจุลินทรีย์เป้าหมาย ไพรเมอร์ถูกนำมาใช้เป็นแม่แบบในปฏิกิริยา PCR การผลิตชิ้นส่วน PCR detectible ที่ชี้ให้เห็นการปรากฏตัวของจุลินทรีย์เป้าหมาย แอนติบอดีและวิธีการตรวจดีเอ็นเอที่ใช้มีมากขึ้นอย่างรวดเร็วกว่าการทดสอบทางชีวเคมีคลาสสิก แต่พวกเขามีแนวโน้มที่จะมีความเชี่ยวชาญการปรากฏตัวของจุลินทรีย์ที่เฉพาะเจาะจง. เนื่องจากร่างกายขนาดใหญ่ของข้อมูลที่ได้รับการรวบรวมใน micorbes เพาะเลี้ยงมากที่สุดก็คือตอนนี้ที่เป็นไปได้ในการออกแบบ ชุดทดสอบเพื่อตรวจสอบตัวตนของจุลินทรีย์เกือบใด ๆ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในหลายกรณี นักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพที่ต้องระบุให้จุลินทรีย์ในสิ่งแวดล้อม เรียนสมาชิกของประชากรของจุลินทรีย์ที่มีอยู่ในธรรมชาติสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกใหม่ในกระบวนการทางชีวเคมีที่เกิดขึ้น นี้จะนำไปสู่ความเข้าใจที่ดีขึ้นของสภาพแวดล้อม และบทบาทของจุลินทรีย์ในพวกเขาการระบุจุลินทรีย์เติบโตในผู้ป่วยจะระบุโรคและการรักษาที่มีประสิทธิภาพในการกำจัดมัน การทดสอบตัวนี้ยังสามารถใช้เพื่อตรวจสอบและกำจัดเชื้อโรคในอาหาร เพิ่มความปลอดภัยของอาหารโดยการขจัดเชื้อโรค และลดการเน่าเสีย เหล่านี้เป็นเพียงไม่กี่ของหลายเหตุผลสำหรับการระบุจุลินทรีย์ .
สำหรับทศวรรษการจำแนกจุลินทรีย์ได้ขึ้นอยู่กับการกำหนดความจุทางชีวเคมีของจุลินทรีย์ โดยการเติบโตในสื่อทดสอบต่าง ๆ การทดสอบวัดความสามารถการเผาผลาญอาหารของความเครียดในการศึกษาการเกิดจุลินทรีย์สามารถใช้เป็นแหล่งคาร์บอน ( น้ำหมัก ) , ความสัมพันธ์ของออกซิเจน ( thioglycollate ขนาดกลาง ) โครงสร้างของผนังเซลล์ ( Gram stain ) , และคุณสมบัติอื่น ๆอีกมากมายหลายสื่อและการทดสอบได้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยระบุเชื้อจุลินทรีย์ การทดสอบเหล่านี้สามารถที่ถูกต้องเป็นธรรม แต่เนื่องจากหลายขึ้นอยู่กับการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ พวกเขามักจะต้องใช้ระยะเวลาหนึ่งวันก่อนที่พวกเขาสามารถอ่าน นี้สามารถเป็นอันตรายมาก โดยเฉพาะในด้านอาหารและสุขภาพ การวินิจฉัยอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะวิกฤต

ค้นหาวิธีการอย่างรวดเร็วมากขึ้น นำไปสู่การพัฒนาบนพื้นฐานของแอนติบอดีและวิธีการทดสอบดีเอ็นเอ วิธีการขึ้นอยู่กับปฏิกิริยาของแอนติบอดีที่เตรียมเป็นพิเศษ แอนติบอดีต่อแอนติเจนที่เป็นเอกลักษณ์ของจุลินทรีย์เป้าหมาย วิธีที่พบมากที่สุดที่ใช้ดีเอ็นเอลำดับดีเอ็นเอเรียกว่าไพรเมอร์ผสมสั้นที่แตกต่างกันลำดับในจุลินทรีย์เป้าหมายไพรเมอร์จะใช้เป็นแม่แบบในปฏิกิริยา PCR , การผลิตชิ้นส่วนดีเอ็นเอ detectible ที่แสดงตนของจุลินทรีย์เป้าหมาย แอนติบอดีและดีเอ็นเอโดยวิธีรวดเร็วกว่าการทดสอบทางชีวเคมี คลาสสิก แต่พวกเขามีแนวโน้มที่จะเป็นผู้เชี่ยวชาญในการแสดงตนของจุลินทรีย์โดยเฉพาะ

เนื่องจากการขนาดใหญ่ที่ร่างกายของข้อมูลที่ได้ถูกรวบรวมไว้ใน micorbes เลี้ยงมากที่สุดคือตอนนี้สามารถที่จะออกแบบชุดของการทดสอบเพื่อตรวจสอบตัวตนของเกือบจุลินทรีย์ใด ๆ