Health-conscious people often eat f

Health-conscious people often eat fish. Some eat fish every day at every meal. However, due to the radiation scare in Japan and reports of possible water contamination, people have started to doubt whether fish is safe, and some have even given up eating fish altogether. Both cases are examples of going to extremes.

Heath organisations say that fish is good for the heart. A study done by Harvard University said that eating fish regularly can help reduce deaths from heart disease by 36% - a better result than that achieved by many patent medicines. However, this doesn't mean that you should throw your heart medication in the rubbish bin and go for fish.

It is not immediately obvious why fish can help the heart. Fish has more good fat than red meat does and it has a lot of omega-3 fatty acid which can help reduce heart-rate irregularities, blood clotting and inflammation of the artery wall. It can also decrease one's triglyceride level. It is recommended to include fish in at least two meals a week.

Omega-3 fatty acid in fish is not only good for the heart but also beneficial for the brain, especially in infants and young children. It has also been proven to help with memory and emotions in older people. Joint pain in rheumatoid patients can also be alleviated by this fatty acid because of its anti-inflammatory property.

News reports about fish contamination were doing the rounds even before the nuclear scare. Fish can contain mercury and other toxins, due to improperly treated wastewater from industrial complexes. When small fish eat bacteria in the water, toxins accumulate. When bigger fish eats the small fish, the toxins get transferred to the big fish. Eventually they end up in our bodies. The older the fish, the more toxins it tends to contain.

Mercury, even in small amounts, can damage the nervous system of a foetus or infant. If too much mercury is consumed, the brain and eyes can be damaged. Even adults can be seriously harmed by an excessive intake of mercury.

Levels of mercury can vary from species to species. In the US, small children, pregnant women and nursing mothers are advised to avoid tilefish and king mackerel because these can be high in mercury

Due to the nature of their habitat, farmed fish tend to have higher levels of mercury than fish caught in the wild. Small fish from the ocean is used by commercial canneries, while many restaurants serve fish bought from farms.

Other toxin found in fish include PCB, DDT and dioxin. These poisons accumulate in the fish's fat layers and liver. Freshwater fish have more of these toxins than saltwater fish.

Consuming fish oil, in liquid or tablet form, is is not as good as eating whole fish whose flesh contains other useful nutrients. So far there have been no reports of contamination in the oily fish sold in markets here. Still, too much fish oil may be just as unhealthy as too much fish.

My advice regarding fish is to eat moderate amounts. Choose short-lived fish such as sardines and herrings. If possible, eat fish that come from the wild in preference to farmed fish. Try not to eat fat layers and the skin as these are where toxins accumulate in fish.

A patient of mine was obese and her triglyceride level was high. I told her to change her diet to fish and white meat (such as chicken, without skin). Three months later, she came back even heavier, with a higher triglyceride level. She told me she had eaten breaded deep-fried fish and chicken at every meal, every day.

Prof Nithi Mahanonda is a heart specialist at Perfect Heart, Piyavate Hospital

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ใส่ใจสุขภาพคนมักกินปลา บางคนกินปลาทุกวันทุกมื้อ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากแผลการฉายรังสีในประเทศญี่ปุ่นและรายงานการปนเปื้อนของน้ำได้ คนได้เริ่มสงสัยว่า ปลามีความปลอดภัย และบางส่วนยังให้ค่ากินปลาทั้งหมด ทั้งสองกรณีเป็นตัวอย่างจะไปสุดขั้วองค์กรสุขภาพบอกว่า ปลาดีสำหรับหัวใจ การศึกษาโดยมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดกล่าวว่า ที่ กินปลาเป็นประจำสามารถช่วยลดการตายจากโรคหัวใจ โดย 36% - ผลที่ดีกว่าโดยในสิทธิบัตรยา อย่างไรก็ตาม นี้ไม่หมายความ ว่า คุณควรโยนยาหัวใจของคุณในช่องเก็บขยะ และหาปลามันไม่ได้ชัดเจนทันทีทำไมปลาสามารถช่วยหัวใจ ปลามีไขมันดีมากขึ้น กว่าเนื้อแดงไม่มีกรดไขมันโอเมก้า-3 ซึ่งจะช่วยลดความผิดปกติอัตราการเต้นหัวใจ เลือดแข็งตัวและการอักเสบของผนังหลอดเลือด มาก นอกจากนี้มันยังสามารถลดระดับไตรกลีเซอไรด์ของ แนะนำการรวมปลาในอาหารน้อยสองสัปดาห์ กรดไขมันโอเมก้า 3 ในปลาจะไม่ดีสำหรับหัวใจ แต่ยังประโยชน์ต่อสมอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กทารกและเด็ก มันได้รับการพิสูจน์เพื่อช่วยให้ มีหน่วยความจำและอารมณ์ในคนสูงอายุ อาการปวดข้อในผู้ป่วย rheumatoid ยังสามารถ alleviated ด้วยกรดไขมันนี้เนื่องจาก มีคุณสมบัติแก้อักเสบรายงานข่าวเกี่ยวกับปลาปนได้ทำรอบได้ก่อนแผลนิวเคลียร์ ปลาประกอบด้วยสารปรอทและสารพิษอื่น ๆ เนื่องจากไม่ถูกต้องบำบัดน้ำเสียจากอุตสาหกรรมคอมเพล็กซ์ เมื่อปลาขนาดเล็กกินแบคทีเรียในน้ำ สารพิษสะสม เมื่อปลาใหญ่กินปลาเล็กปลาน้อย สารพิษที่ได้รับโอนย้ายปลาขนาดใหญ่ ในที่สุดจนร่างกายของเรา ปลาที่เก่า สารพิษเพิ่มมากขึ้นก็มีแนวโน้มมีพุธ แม้ในเงิน สามารถทำลายระบบประสาทของ foetus หรือทารก ถ้าใช้ปรอทมากเกินไป สมองและสายตาสามารถเสียหาย แม้แต่ผู้ใหญ่สามารถถูกทำลาย โดยการบริโภคมากเกินไปของปรอทอย่างจริงจังระดับปรอทสามารถเปลี่ยนจากชนิดพันธุ์ ในสหรัฐอเมริกา เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ และการพยาบาลมารดาควรหลีกเลี่ยงการ tilefish และปลาคิง เพราะอาจมีปรอทสูง เนื่องจากถิ่นที่อยู่ของพวกเขา ปลา farmed มักจะ มีระดับที่สูงขึ้นของปรอทมากกว่าปลาที่ติดอยู่ในป่า ปลาเล็กปลาน้อยจากทะเลถูกใช้ โดย canneries ค้า ในขณะที่ปลาที่ซื้อจากฟาร์มให้บริการร้านอาหารสารพิษอื่น ๆ ที่พบในปลามี PCB, DDT และ dioxin Poisons เหล่านี้สะสมอยู่ในชั้นไขมันและตับของปลา ปลามีสารพิษเหล่านี้กว่าปลาน้ำเค็มบริโภคปลาน้ำมัน ของเหลวหรือแท็บเล็ตฟอร์ม คือไม่เหมือนกินปลาทั้ง เนื้อซึ่งประกอบด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์อื่น ๆ จนมีรายงานการปนเปื้อนในปลามันที่ขายในตลาดที่นี่ไม่ ยังคง น้ำมันปลามากเกินไปอาจจะเพียงเป็นไม่แข็งแรงเป็นปลามากเกินไปได้คำแนะนำของฉันเกี่ยวกับปลาจะกินจำนวนปานกลาง เลือกปลาทูน่าและ herrings อาชญา ถ้าเป็นไปได้ กินปลาที่มาจากป่า in preference to ปลา farmed พยายามที่ไม่กินผิวหนังและชั้นไขมันเหล่านี้มีที่สารพิษสะสมอยู่ในปลาผู้ป่วยของฉันอ้วน และระดับของไตรกลีเซอไรด์สูง ฉันบอกเธอเปลี่ยนอาหารของปลาและเนื้อขาว (เช่นไก่ โดยผิว) สามเดือนต่อมา เธอกลับมาแม้หนัก ด้วยระดับไตรกลีเซอไรด์สูง เธอบอกเธอก็กินปลาชุบเกล็ดขนมปังทอดและไก่ทุกมื้อ ทุกวันศาสตราจารย์นิธิ Mahanonda เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านหัวใจที่หัวใจโก ปิยะ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

คนที่ใส่ใจสุขภาพมักจะกินปลา กินปลาทุกวันทุกมื้อ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากกลัวรังสีในญี่ปุ่น และรายงานการปนเปื้อนของน้ำเป็นไปได้ คนเริ่มสงสัยว่าปลาจะปลอดภัย และบางคนยังได้เลิกกินปลาทั้งหมด ทั้งสองกรณี เป็นตัวอย่างของจะไปสุดขั้ว

สุขภาพองค์กรกล่าวว่า ปลาเป็นสิ่งที่ดีสำหรับหัวใจการศึกษาทำโดยมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด กล่าวว่า การรับประทานปลาเป็นประจำสามารถช่วยลดการตายจากโรคหัวใจ โดย 36% - ดีกว่า ผลที่ได้รับจากสิทธิบัตรยามากมาย แต่นี้ไม่ได้หมายความว่าคุณควรโยนยาหัวใจของคุณในถังขยะและไปสำหรับปลา

มันไม่ชัดเจนทันที ทำไมปลาช่วยหัวใจปลามีไขมันที่ดีกว่าเนื้อแดง และมันมีกรดไขมันโอเมก้า - 3 ซึ่งช่วยลดอัตราการเต้นของหัวใจผิดปกติ การแข็งตัวของเลือด และการอักเสบของผนังหลอดเลือดแดง . นอกจากนี้ยังสามารถลดระดับของไตรกลีเซอไรด์ . โดยการรวมปลาอย่างน้อย 2 มื้อต่อสัปดาห์

กรดไขมันโอเมก้า 3 ในปลาไม่ได้เป็นเพียงที่ดีสำหรับหัวใจ แต่ยังมีประโยชน์สำหรับสมองโดยเฉพาะในทารกและเด็กเล็ก มันได้รับการพิสูจน์แล้วว่าช่วยความจำและอารมณ์ในผู้สูงอายุ ปวดข้อในผู้ป่วยรูมาตอยด์สามารถ alleviated โดยกรดไขมันนี้เนื่องจากคุณสมบัติต้านการอักเสบของ .

ข่าวรายงานเกี่ยวกับการปนเปื้อนในปลาทำรอบก่อนกลัวนิวเคลียร์ ปลาสามารถมีสารปรอทและสารพิษอื่น ๆเนื่องจากไม่ปฏิบัติ น้ำเสียจากอุตสาหกรรม complexes . เมื่อปลาขนาดเล็กกินแบคทีเรียในน้ำ สารพิษสะสม เมื่อปลาใหญ่กินปลาเล็ก สารพิษที่ได้รับ ย้ายปลาขนาดใหญ่ ในที่สุดพวกเขาจบลงในร่างกายของเรา พี่ปลา ยิ่งสารพิษมีแนวโน้มที่จะมี

ปรอทแม้ในปริมาณขนาดเล็ก สามารถทำลายระบบประสาทของทารกในครรภ์หรือทารกถ้าปรอทมากเกินไปจะทำลายสมอง และตา อาจเสียหายได้ หรือผู้ใหญ่สามารถอันตรายอย่างจริงจัง โดยมีการบริโภคที่มากเกินไปของปรอท

ระดับปรอทจะแตกต่างจากสายพันธุ์ชนิด ในสหรัฐอเมริกา , เด็กเล็ก , หญิงตั้งครรภ์และการพยาบาลมารดาควรหลีกเลี่ยงการ tilefish กษัตริย์ปลาทูเพราะเหล่านี้จะสูงในปรอท

เนื่องจากลักษณะของที่อยู่อาศัยของพวกเขาฟาร์มปลามักจะมีระดับที่สูงขึ้นของปรอทกว่าปลาที่จับได้ในป่า ขนาดเล็กปลาจากทะเลจะใช้โรงงานบรรจุอาหารกระป๋องเชิงพาณิชย์ ในขณะที่หลายร้านใช้ปลาซื้อจากฟาร์ม

อื่นๆ สารพิษที่พบในปลา ได้แก่ สารไดออกซินและ PCB . สารพิษเหล่านี้สะสมในชั้นไขมันของปลา และตับ ปลาน้ำจืดมีสารพิษเหล่านี้กว่าปลาน้ำเค็ม .

การบริโภคปลาน้ำมันในรูปแบบของเหลว หรือ แท็บเล็ต เป็นไม่ดีเท่าที่กินทั้งเนื้อ ปลา ซึ่งประกอบด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์อื่นๆ ตอนนี้ยังไม่มีรายงานของการปนเปื้อนในปลาที่ขายในตลาดที่นี่ ยังมากเกินไป น้ำมันปลาอาจจะไม่แข็งแรงเป็นปลามากเกินไป

คำแนะนำของฉันเกี่ยวกับปลาจะกินปริมาณปานกลาง เลือกที่สั้น เช่น ปลาซาร์ดีน และปลาปลาเฮอริ่ง ถ้าเป็นไปได้กินปลาที่ได้มาจากป่าในการตั้งค่าฟาร์มปลา พยายามไม่กินชั้นไขมันและผิวหนังเป็นเหล่านี้ที่สารพิษสะสมในปลา

คนไข้ของฉันเป็นโรคอ้วน และระดับไตรกลีเซอร์ไรด์ของเธอสูง ฉันบอกให้เธอเปลี่ยนอาหารให้ปลาและเนื้อสีขาว ( เช่น ไก่ ไร้ริ้วรอย ) สามเดือนต่อมา เธอกลับมา แม้จะหนัก ด้วยระดับไตรกลีเซอไรด์สูงเธอบอกฉันว่าเธอกินปลาชุบเกล็ดขนมปังทอด และไก่ทุกมื้อ ทุกๆวัน

ดร นิธิ mahanonda เป็นหัวใจที่สมบูรณ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านหัวใจ โรงพยาบาลปิยะเวท