Maracanã, officially called Estádio

Maracanã, officially called Estádio Mário Filho, was built to serve as the flagship venue for the 1950 World Cup. It was meant to become the biggest football stadium in the world.

Construction began in August 1948 and was completed almost two years later. Maracanã officially opened on 16 June 1950 with a friendly between a selection of players from Rio de Janeiro and São Paulo.

Eight days later, Maracanã hosted the opening match of the 1950 World Cup between Brazil and Mexico (4-0). It would go on to host four more matches in the first round group stage and a further three in the second round stage, among which the deciding final match between Uruguay and Brazil (2-1).

The official attendance of the final was about 173,000 paying spectators, but it is estimated that more than 200,000 witnessed the game live from the stands.

The stadium was officially renamed in 1966 following the death of Brazilian journalist Mário Filho, but most people have kept referring to the stadium as Maracanã.

Maracanã hardly changed until the 1990s, when a deathly accident and resulting safety measures greatly reduced capacity. Shortly later it got converted into an all-seater.

When Brazil got awarded the 2014 World Cup in 2007, it was clear that Maracanã was destined to host the final and would therefore need a massive redevelopment.

Building works started in 2010 and involved the complete rebuilding of the bottom tier and the installation of a new roof with a capacity of 79,000 seats as a result. The stadium reopened on 2 June 2013 with a friendly international between Brazil and England (2-2).

Maracanã is scheduled to host a total of seven matches during the 2014 World Cup, including one quarter-final and the final. It also hosted several matches and the final of the 2013 Confederations Cup.

Maracanã is owned by the state of Rio de Janeiro, but has grown to become the regular home of Flamengo and Fluminense. Other Rio clubs such as Botafogo and Vasco da Gama also occasionally use the stadium for high-profile matches.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Maracanã อย่างเป็นทางการเรียกว่า Estádio Mário Filho ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นสถานที่เรือธงในฟุตบอลโลก 1950 มีหมายความว่า เป็น สนามฟุตบอลที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ก่อสร้างเริ่มขึ้นในเดือน 1948 สิงหาคม และเสร็จเกือบสองปี Maracanã ทางเปิดบน 16 1950 มิถุนายน ด้วยเป็นกันเองระหว่างการเลือกผู้เล่นจากริโอเดอจาเนโรและเซาเปาลู

แปดวันต่อมา Maracanã โฮสต์ตรงเปิดของฟุตบอลโลก 1950 ระหว่างบราซิลและเม็กซิโก (4-0) มันจะไปยังโฮสต์ 4 คู่แรกรอบเวทีกลุ่ม และเป็นที่สามในสองรอบระยะ ระหว่างการตัดสินใจขั้นสุดท้ายตรงกับระหว่างอุรุกวัยและบราซิล (2 - 1) .

เข้าทางสุดท้ายเกี่ยวกับ 173,000 ที่ผู้ชม การจ่ายเงิน แต่คาดว่า กว่า 200000 เห็นเกมสดจากยืน

สนามแห่งนี้ได้เปลี่ยนชื่ออย่างเป็นทางใน 1966 ต่อการตายของนักข่าวบราซิล Mário Filho แต่คนส่วนใหญ่มีเก็บไว้อ้างอิงสนามเป็น Maracanã

Maracanã แทบไม่เปลี่ยนแปลงจนถึงปี 1990 เมื่ออุบัติเหตุอวกาศและมาตรการด้านความปลอดภัยได้มากลดกำลังการผลิต ในไม่ช้าหลังจากนั้นได้แปลงเป็นทั้งหมด-นั่ง

เมื่อบราซิลได้รับรางวัลฟุตบอลโลก 2014 ใน 2007 เป็นชัดเจนว่า Maracanã ถูกกำหนดเป็นเจ้าภาพสุดท้าย และดังนั้นจึงต้องมีขนาดใหญ่พัฒนาขื้นใหม่การ

สร้างงานเริ่มในปี 2553 และที่สมบูรณ์ฟื้นฟูระดับล่างและติดตั้งหลังคาใหม่ ด้วยความจุที่นั่ง 79,000 เป็นผลที่เกี่ยวข้อง สนามแห่งนี้เปิดในวันที่ 2 2556 มิถุนายนกับนานาชาติเป็นมิตรระหว่างบราซิลและอังกฤษ (2-2)

Maracanã กำหนดการจัดจำนวนเจ็ดตรงกับช่วงฟุตบอลโลก 2014 ไตรมาสที่หนึ่งสุดท้ายและสุดท้าย นอกจากนี้ยังโฮสต์หลายรายการและสุดท้ายของปี 2013 ชันส์คัพ

Maracanã เป็นเจ้าของรัฐริโอเดอจาเนโร แต่ได้เติบโตขึ้นเป็นบ้านปกติ Flamengo Fluminense ริโออื่น ๆ คลับเช่นโบตาโฟโกและไฟวาสโกดากามาบางใช้สนามแห่งนี้ทรงสูงตรง.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Maracanãที่เรียกว่าอย่างเป็นทางการEstádioMário Filho ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นสถานที่สำหรับเรือธง 1950 ฟุตบอลโลก มันหมายถึงการเป็นสนามฟุตบอลที่ใหญ่ที่สุดในโลกในการก่อสร้างเริ่มสิงหาคม 1948 และเสร็จสมบูรณ์เกือบสองปีต่อมา Maracanãเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 1950 ด้วยความเป็นมิตรระหว่างการเลือกผู้เล่นจากริโอเดอจาเนโรและเซาเปาโลแปดวันต่อมาMaracanãเป็นเจ้าภาพการแข่งขันนัดเปิดสนามของ 1950 เวิลด์คัพระหว่างบราซิลและเม็กซิโก (4-0) มันจะไปในที่จะเป็นเจ้าภาพในอีกสี่การแข่งขันในรอบแรกเวทีกลุ่มและอีกสามในขั้นตอนที่สองรอบในหมู่ที่นัดสุดท้ายในการตัดสินใจระหว่างอุรุกวัยและบราซิล (2-1) เข้าร่วมประชุมอย่างเป็นทางการของสุดท้ายประมาณ 173,000 จ่ายเงินผู้ชม แต่ก็เป็นที่คาดกันว่ากว่า 200,000 เห็นเกมที่ถ่ายทอดสดจากอัฒจันทร์สนามกีฬาถูกเปลี่ยนชื่ออย่างเป็นทางการในปี 1966 ต่อไปนี้การตายของนักข่าวชาวบราซิลMário Filho แต่คนส่วนใหญ่ยังคงหมายถึงสนามกีฬาที่เป็นMaracanã Maracanãแทบจะไม่เปลี่ยนแปลง จนถึงปี 1990 เมื่อเกิดอุบัติเหตุเหมือนคนตายและมาตรการด้านความปลอดภัยที่เกิดขึ้นลดลงอย่างมากความสามารถ ไม่นานหลังจากนั้นมันก็แปลงเป็นทั้งหมดที่นั่งเมื่อบราซิลได้รับรางวัลเวิลด์คัพ 2014 ในปี 2007 มันเป็นที่ชัดเจนว่าMaracanãถูกลิขิตมาให้เป็นเจ้าภาพรอบสุดท้ายและดังนั้นจึงจะต้องมีขนาดใหญ่ป็นผลงานก่อสร้างเริ่มต้นในปี 2010 และมีส่วนร่วมที่สมบูรณ์ สร้างใหม่ของชั้นล่างและติดตั้งหลังคาใหม่ที่มีความจุ 79,000 ที่นั่งเป็นผล สนามกีฬาเปิดอยู่ 2 มิถุนายน 2013 ที่เป็นมิตรระหว่างบราซิลและอังกฤษ (2-2) Maracanãมีกำหนดจะเป็นเจ้าภาพทั้งหมดเจ็ดการแข่งขันในช่วงฟุตบอลโลกปี 2014 รวมทั้งไตรมาสสุดท้ายและครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ยังเป็นเจ้าภาพการแข่งขันหลายคนและสุดท้ายของปี 2013 สหพันธ์ฟุตบอลMaracanãเป็นเจ้าของโดยรัฐริโอเดอจาเนโร แต่ได้เติบโตขึ้นเป็นปกติของบ้านและฟลูมิฟลาเมนโก คลับโออื่น ๆ เช่น Botafogo และวาสโกดากามาบางครั้งก็ใช้สนามกีฬาสำหรับการแข่งขันสูงโปรไฟล์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มีฮาอิล บาคูนินอย่างเป็นทางการที่เรียกว่า EST . kgm dio M . kgm ริโอ ลูกคิดว่า ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นสถานที่สำคัญสำหรับ 2493 ฟุตบอลโลก มันหมายถึงการเป็นสนามฟุตบอลที่ใหญ่ที่สุดในโลก

เริ่มก่อสร้างในเดือนสิงหาคมพ.ศ. 2491 และเสร็จเกือบสองปีต่อมา มีฮาอิล บาคูนินเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 16 มิถุนายน 2493 ด้วยเป็นกันเองระหว่างการเลือกผู้เล่นจากริโอ เดอ จาเนโร และเซาเปาลู .

8 วันต่อมา มีฮาอิล บาคูนินเป็นเจ้าภาพการแข่งขันเปิด 2481 ฟุตบอลโลกระหว่างบราซิลและเม็กซิโก ( 4-0 ) มันจะไปเป็นเจ้าภาพอีก 4 แมตช์ในรอบเวทีกลุ่มแรก และอีกสามในเวทีรอบสอง ระหว่างที่ตัดสินใจสุดท้ายคู่ระหว่าง อุรุกวัย และบราซิล ( 2-1 ) .

เข้าอย่างเป็นทางการของสุดท้ายคือเรื่อง 173000 จ่ายผู้ชมแต่มันคือประมาณว่ามากกว่า 200000 เห็นเกมถ่ายทอดสดจากยืน

สนามกีฬาอย่างเป็นทางการเปลี่ยนชื่อในปี 1966 ต่อไปนี้การตายของนักข่าว M . kgm บราซิล ริโอ ลูกคิดว่า แต่คนส่วนใหญ่ก็หมายถึงสนามกีฬา เช่น มีฮาอิล บาคูนิน

มีฮาอิล บาคูนินไม่ค่อยเปลี่ยน จนกระทั่งปี 1990 , เมื่อเกิดอุบัติเหตุเป็นอย่างยิ่ง และ ซึ่งมาตรการความปลอดภัยความจุลดลงอย่างมากไม่นานต่อมามันถูกแปลงเป็นทุกตัว

เมื่อบราซิลได้รับรางวัลเวิลด์ คัพ 2014 ในปี 2007 , มันชัดเจนว่า มีฮาอิล บาคูนินถูกกำหนดเป็นเจ้าภาพรอบสุดท้ายจึงต้องพัฒนาขื้นใหม่ขนาดใหญ่ อาคาร

งานเริ่มต้นในปี 2010 และที่เกี่ยวข้องกับการฟื้นฟูสมบูรณ์ของชั้นล่างและการติดตั้งของ หลังคาใหม่ที่มีความจุ 79 ที่นั่ง เป็นผลสนามเปิดใหม่วันที่ 2 มิถุนายน 2013 ที่เป็นมิตรระหว่างประเทศระหว่างบราซิลและอังกฤษ ( 2-2 ) .

มีฮาอิล บาคูนินถูกกำหนดให้โฮสต์รวม 7 นัดในเวิลด์ คัพ 2014 รวมถึงไตรมาสสุดท้ายและสุดท้าย มันก็ยังเป็นเจ้าภาพหลายรายการและสุดท้ายของ 2013 สหพันธ์ฟุตบอล

มีฮาอิล บาคูนินเป็นเจ้าของโดยรัฐริโอ เดอ จาเนโรแต่ได้เติบโตกลายเป็นบ้านปกติของฟลาเมงกู และ ฟลูมิเนนเซ่ . คลับริโออื่น ๆเช่น โบตาโฟโก้ และ วาสโก ดา กามาบางครั้งใช้สนามกีฬา
สูงตรง