At enrollment in 1992 – 1993, parti

At enrollment in 1992 – 1993, participants who were long-term daily aspirin users were, on average, older and slightly more likely to be white than participants who reported no aspirin use ( Table 1) , although nearly all participants in this cohort were white and older than age 50 years, regardless of aspirin use.

Long-term daily aspirin users were slightly more likely than nonusers to be highly educated, to be former smokers rather than never smokers, to have a high BMI, and to use nonaspirin NSAIDs. In addition, long-term daily aspirin users were considerably more likely than nonusers to have had a history of heart attack, diabetes, or hypertension, presumably refl ecting the use of aspirin to prevent cardiovascular disease.

Among women, long-term daily aspirin users were more likely than nonusers to use hormone replacement therapy (41% versus 30%) but were not more likely to have reported a mammogram in the last year (64% in both groups).

Information on PSA testing and colorectal endoscopy was fi rst collected in 1997.

At that time, long-term daily aspirin users were slightly more likely than nonusers to have ever had a PSA test (77% versus 71% among men) or a colorectal endoscopy (61% versus 55% among men, 52% versus 50% among women).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในการลงทะเบียนในปี 1992 – 1993 ผู้เข้าร่วมที่มีผู้ใช้ยาแอสไพรินทุกวันระยะยาวได้ เฉลี่ย เล็กน้อยยิ่งน่าจะขาวขึ้นกว่าร่วมที่รายงานแอสไพรินไม่ใช้ (ตารางที่ 1), แม้ว่าจะเกือบทุกคนในงานนี้สีขาว และมีอายุมากกว่า 50 ปี โดยไม่คำนึงถึงแอสไพริน ใช้ และรุ่นเก่า ผู้ใช้ยาแอสไพรินทุกวันระยะยาวได้เล็กน้อยโน้มกว่า nonusers จะมีการศึกษาสูง เป็น อดีตผู้สูบบุหรี่มากกว่าไม่เคยสูบบุหรี่ มี BMI สูง และใช้ nonaspirin NSAIDs นอกจากนี้ ผู้ใช้ยาแอสไพรินทุกวันระยะยาวมีมากโอกาสกว่า nonusers มีประวัติหัวใจวาย โรคเบาหวาน ความดันโลหิต สูง สันนิษฐานว่าดั้ง ecting การใช้แอสไพรินเพื่อป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด ในหมู่ผู้หญิง ผู้ใช้แอสไพรินทุกวันระยะยาวมีแนวโน้มมากกว่า nonusers การใช้ฮอร์โมนทดแทน (41% เมื่อเทียบกับ 30%) แต่ก็ไม่น่าจะมีรายงานเป็นแมมในปี (64% ในกลุ่ม) ข้อมูลเกี่ยวกับการทดสอบ PSA และการส่องกล้องลำไส้ใหญ่ถูกรวบรวมไว้ในปี 1997 ด้าน ในเวลานั้น ผู้ใช้ยาแอสไพรินทุกวันระยะยาวได้เล็กน้อยโน้มกว่า nonusers ไปเคยมีการทดสอบ PSA (77% เทียบกับ 71% ในผู้ชาย) หรือการส่องกล้องลำไส้ใหญ่ (61% เมื่อเทียบกับร้อยละ 55 ในหมู่ผู้ชาย 52% เมื่อเทียบกับ 50% ผู้หญิง)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ที่ลงทะเบียนใน 1992 - 1993 ผู้เข้าร่วมที่เป็นระยะยาวผู้ใช้ยาแอสไพรินในชีวิตประจำวันได้โดยเฉลี่ยมีอายุมากกว่าเล็กน้อยและมีแนวโน้มที่จะเป็นสีขาวกว่าผู้เข้าร่วมที่ไม่มีการรายงานการใช้ยาแอสไพริน (ตารางที่ 1) แม้ว่าเกือบทั้งหมดมีส่วนร่วมในการศึกษาครั้งนี้มีสีขาว และมีอายุมากกว่า 50 ปีโดยไม่คำนึงถึงการใช้ยาแอสไพริน. ระยะยาวผู้ใช้ยาแอสไพรินประจำวันเล็กน้อยมีแนวโน้มมากกว่า nonusers จะได้รับการศึกษาสูงที่จะสูบบุหรี่ในอดีตมากกว่าไม่เคยสูบบุหรี่จะมีค่าดัชนีมวลกายสูงและการใช้ยากลุ่ม NSAIDs non-aspirin นอกจากนี้ในระยะยาวผู้ใช้ยาแอสไพรินในชีวิตประจำวันเป็นอย่างมากจะมีโอกาสมากกว่า nonusers จะมีประวัติของโรคหัวใจ, โรคเบาหวานหรือความดันโลหิตสูงสันนิษฐานอีกชั้น ecting การใช้ยาแอสไพรินเพื่อป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด. ในกลุ่มผู้หญิงในระยะยาวผู้ใช้ยาแอสไพรินเป็นประจำทุกวัน มีแนวโน้มมากกว่า nonusers การใช้ฮอร์โมนทดแทน (41% เมื่อเทียบกับ 30%) แต่ก็ไม่ได้มีแนวโน้มที่จะได้มีการรายงานการคัดกรองในปีที่ผ่านมา (64% ในทั้งสองกลุ่ม). ข้อมูลเกี่ยวกับ PSA การทดสอบและลำไส้ใหญ่การส่องกล้องเป็น Fi รวบรวม RST ในปี 1997 ในขณะที่ในระยะยาวผู้ใช้ยาแอสไพรินประจำวันเล็กน้อยจะมีโอกาสมากกว่าที่จะมี nonusers เคยมีการทดสอบ PSA (77% เมื่อเทียบกับ 71% ในหมู่มนุษย์) หรือการส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่และทวารหนัก (61% เมื่อเทียบกับ 55% ในหมู่มนุษย์ 52% เมื่อเทียบกับ 50% ในหมู่ผู้หญิง)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ที่ลงทะเบียนในปี 1992 และ 1993 , ผู้ถูกในระยะยาวผู้ใช้แอสไพรินทุกวัน มีอายุเฉลี่ยมากกว่า และมีโอกาสเล็กน้อยที่จะขาวกว่า ผู้แจ้งไม่ใช้แอสไพริน ( ตารางที่ 1 ) , แม้ว่าเกือบทั้งหมดเข้าร่วมในการติดตามนี้เป็นสีขาว และอายุมากกว่า อายุ 50 ปี ไม่ใช้แอสไพริน .ในระยะยาวผู้ใช้แอสไพรินทุกวัน มีแนวโน้มลดลงมากกว่า nonusers เป็นคนมีการศึกษา เป็นอดีตผู้สูบบุหรี่มากกว่าไม่เคย smokers มี BMI สูง และใช้ nonaspirin อร . นอกจากนี้ ในระยะยาวผู้ใช้แอสไพรินทุกวัน ถูกมากมีโอกาสมากขึ้นกว่า nonusers มีประวัติหัวใจวาย เบาหวาน หรือความดันโลหิตสูง ซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นfl ecting ใช้ยาแอสไพรินเพื่อป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดของผู้หญิงในระยะยาวผู้ใช้แอสไพรินทุกวัน มีแนวโน้มมากกว่า nonusers ใช้ฮอร์โมนทดแทน ( 41 % และ 30 % ) แต่ไม่ได้มีแนวโน้มที่จะมีการรายงานราชการในปีที่ผ่านมาร้อยละ 64 ของกลุ่ม 2 )ข้อมูลเกี่ยวกับการทดสอบ PSA และส่องกล้องลำไส้ใหญ่ได้จึงตัดสินใจเดินทางไปเก็บใน พ.ศ. 2540ตอนนั้น ในระยะยาวผู้ใช้แอสไพรินทุกวัน มีแนวโน้มลดลงมากกว่า nonusers ได้เคยทดสอบ PSA ( 77% เมื่อเทียบกับ 71 % ของผู้ชาย ) หรือการส่องกล้องลำไส้ใหญ่ ( 61% เมื่อเทียบกับ 55% ในหมู่ผู้ชาย ร้อยละ 52 เมื่อเทียบกับร้อยละ 50 ในผู้หญิง )