• Pre- civil war African- American

• Pre- civil war African- American slavery
African Americans had been enslaved in what became the United States since early in the 17th century. Even so, by the time of the American Revolution and eventual adoption of the new Constitution in 1787, slavery was actually a dying institution. As part of the compromises that allowed the Constitution to be written and adopted, the founders agreed to end the importation of slaves into the United States by 1808.
By 1800 or so, however, African American slavery was once again a thriving institution, especially in the Southern United States. One of the primary reasons for the reinvigoration of slavery was the invention and rapid widespread adoption of the cotton gin. This machine allowed Southern planters to grow a variety of cotton--short staple cotton--that was especially well suited to the climate of the Deep South. The bottle neck in growing this crop had always been the labor needed to remove the seeds from the cotton fibers. But Eli Whitney's gin made it much easier and more economical to do. This fact made cotton production much more profitable and hence very attractive to planters and farmers in the South. Still, growing cotton was very labor intensive and cotton growers needed a large supply of labor to tend the fields. African American slaves supplied this labor.
It is important to remember, however, that not all slaves worked on large cotton plantations. African American slaves also worked in many other types of agriculture, including tobacco, hemp (for rope-making), corn, and livestock. Many slaves also worked in Southern cities, working at a variety of skilled trades as well as common laborers. It was not unusual for slaves working in the cities to put away enough money to buy their freedom. Indeed, Southern cities, as well as many in the North, had large so-called free black populations.
A slave's day usually consisted of long hours of physical labor. For a field hand, the workday usually began before dawn and ended well after sunset, often with a two-hour break for the noon meal. Many free white farmers in the South (and North) also put in very long work-days, but the great difference was they were working for themselves and controlled their own work time. African American slaves had no such control and they worked under constant supervision and the threat of physical punishment by their overseers. Indeed, no matter how kindly a slave owner might have been, the slaves did not possess that which Americans most prizedãtheir freedom.
Despite overall harsh conditions and the absence of freedom, slaves were not just powerless victims of their owners and the slave system. Slave families and communities became very important institutions. Slaves on large plantations also lived in a community that extended well beyond the family and in many cases beyond the single plantation or farm. The slave cabins (or "quarters") provided one of the few places where slaves could be more or less free from constant supervision by slave overseers. There the slaves created a vibrant social and cultural life beyond the reach of their masters.
While no rational person would wish to be a slave, the slaves were active agents in their own lives. And though their lives were circumscribed in many significant ways, they sought to make the best of their circumstances. They succeeded to a remarkable extent, a testimonial to the endurance of the human spirit.
When searching American Memory for additional primary sources on this topic, use such terms as slave(s), slavery, plantation(s), and Negro, among others.
top of page

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

•ทาสก่อนสงครามกลางเมืองแอฟริกันอเมริกันมีการ enslaved ชาวอเมริกันแอฟริกันในสิ่งกลายเป็นสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ในช่วงศตวรรษที่ 17 ดังนั้นแม้ เวลาของการปฏิวัติอเมริกันและยอมรับที่สุดของรัฐธรรมนูญใหม่ใน 1787 ทาสถูกจริงสถาบันตาย เป็นส่วนหนึ่งของรับที่อนุญาตให้เขียน และนำรัฐธรรมนูญ ผู้ก่อตั้งเห็นการสิ้นสุดการนำทาสในสหรัฐอเมริกา โดย 1808โดย 1800 หรือเช่นนั้น อย่างไรก็ตาม ทาสแอฟริกันอเมริกันได้อีกสถาบันเจริญรุ่งเรือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศสหรัฐอเมริกา หนึ่งในเหตุผลหลักสำหรับ reinvigoration ทาสถูกประดิษฐ์และยอมรับอย่างแพร่หลายอย่างรวดเร็วของหีบฝ้าย แพลนเตอร์ภาคใต้เติบโตความหลากหลายของผ้าฝ้าย - ผ้าฝ้ายหลักสั้น - ที่ถูกเหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศของภาคใต้ลึกอย่างเช่น เครื่องนี้ได้ คอขวดในการเจริญเติบโตพืชนี้จะได้ค่าแรงที่ต้องเอาเมล็ดออกจากเส้นใยฝ้าย แต่เอลีวิทนีย์กินทำให้มันง่ายมาก และประหยัดมากขึ้นจะทำ ความจริงทำฝ้ายผลิตมีกำไรมาก และดังนั้นจึงน่าสนใจมากแพลนเตอร์และเกษตรกรในภาคใต้ ยังคง ปลูกฝ้ายได้มากแรงที่เร่งรัด และฝ้ายเกษตรกรจำเป็นต้องจัดหาใหญ่ของแรงงานการฟิลด์ ทาสแอฟริกันอเมริกันให้แรงงานนี้จำ อย่างไรก็ตาม ว่า ทาสไม่ทำงานในไร่ฝ้ายขนาดใหญ่ได้ ทาสแอฟริกันอเมริกันยังทำงานในชนิดต่าง ๆ ของเกษตร ยาสูบ ป่าน (สำหรับทำเชือก), ข้าวโพด และปศุสัตว์ ทาสมากยังทำงานในเมืองภาคใต้ ทำงานที่หลากหลายเทรดมีทักษะเป็นแรงของการบุกเบิกทั่วไป ไม่ผิดปกติสำหรับทาสที่ทำงานในเมืองเก็บเงินพอซื้อเสรีภาพของพวกเขา แน่นอน เมืองใต้ เช่นเดียวกับชาวเหนือ มีขนาดใหญ่เรียกว่าประชากรดำฟรีวันของทาสมักจะประกอบด้วยยาวชั่วโมงแรงงานทางกายภาพ มือฟิลด์ วันทำงานมักจะเริ่มก่อนรุ่งอรุณ และสิ้นสุดหลังพระอาทิตย์ตก มักจะมีการหยุดพัก 2 ชั่วโมงสำหรับอาหารเที่ยงดี หลายเกษตรกรขาวฟรีในใต้ (เหนือ) ทำให้ในวันทำงานนาน แต่ความแตกต่างมากพวกเขากำลังทำงานด้วยตนเอง และควบคุมเวลาการทำงานของตนเอง ควบคุมดังกล่าวไม่มีทาสแอฟริกันอเมริกัน และพวกเขาทำงานภายใต้การดูแลอย่างต่อเนื่องและภัยคุกคามของการลงโทษทางกายภาพโดย overseers ของพวกเขา แน่นอน ไม่ว่าอย่างไรกรุณาเจ้าทาสอาจได้รับ ทาสไม่มีที่ที่ชาวอเมริกันส่วนใหญ่ prizedãtheir เสรีภาพแม้ มีเงื่อนไขที่รุนแรงโดยรวมและขาดเสรีภาพ ทาสได้ไม่เพียงใช้เหยื่อของเจ้าและระบบทาส ครอบครัวทาสและชุมชนเป็น สถาบันที่สำคัญมาก ทาสในไร่ขนาดใหญ่อาศัยอยู่ ในชุมชนที่เพิ่มเติมนอกเหนือจากครอบครัวดี และ ในหลายกรณีเกินกว่าหนึ่งไร่หรือฟาร์ม เคบินทาส (หรือ "ไตรมาส") ให้สถานไม่กี่ที่ที่ทาสอาจน้อยฟรีจากคงที่ดูแลโดย overseers ทาสอย่างใดอย่างหนึ่ง มีทาสสร้างระดับสังคม และวัฒนธรรมชีวิตไกลเกินเอื้อมแน่ต้นแบบของพวกเขาในขณะที่คนไม่มีเหตุผลจะต้องเป็น ทาส ทาสได้ตัวแทนที่ใช้งานอยู่ในชีวิตของตนเอง และแม้ว่าชีวิตของพวกเขาถูก circumscribed ในสำคัญ พวกเขาพยายามที่จะทำให้ดีสุดของสถานการณ์ที่พวกเขา พวกเขาประสบความสำเร็จระดับน่าทึ่ง บทสัมภาษณ์เพื่อความทนทานของจิตใจมนุษย์ค้นหาหน่วยความจำอเมริกันแหล่งหลักเพิ่มเติมในหัวข้อนี้ ใช้เงื่อนไขเช่น slave(s) ทาส plantation(s) และ Negro หมู่คนอื่น ๆด้านบนของหน้า

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

• Pre-
สงครามกลางเมืองแอฟริกันอเมริกันทาสชาวอเมริกันแอฟริกันได้รับการกดขี่ในสิ่งที่กลายเป็นประเทศสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ในช่วงต้นศตวรรษที่17 ดังนั้นแม้ตามเวลาของการปฏิวัติอเมริกาและการยอมรับในที่สุดของรัฐธรรมนูญใหม่ 1787 ที่เป็นทาสเป็นจริงสถาบันการศึกษาที่กำลังจะตาย ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของการประนีประนอมที่ได้รับอนุญาตรัฐธรรมนูญที่จะเขียนและนำมาใช้ในผู้ก่อตั้งตกลงที่จะยุติการนำเข้าทาสในสหรัฐอเมริกาโดย 1808
โดย 1,800 หรือมากกว่านั้น แต่การเป็นทาสแอฟริกันอเมริกันเป็นอีกครั้งหนึ่งที่สถาบันการศึกษาที่เจริญรุ่งเรืองโดยเฉพาะอย่างยิ่งใน ภาคใต้ของสหรัฐอเมริกา หนึ่งในเหตุผลหลักสำหรับ reinvigoration ของการเป็นทาสเป็นสิ่งประดิษฐ์อย่างรวดเร็วและยอมรับอย่างกว้างขวางของโรงงานฝ้าย เครื่องนี้ได้รับอนุญาตให้ชาวสวนภาคใต้ที่จะเติบโตหลากหลายของผ้าฝ้าย - ผ้าฝ้ายหลักสั้น - ที่เหมาะอย่างยิ่งกับสภาพภูมิอากาศของภาคใต้ คอขวดในการปลูกพืชนี้เคยเป็นแรงงานที่จำเป็นในการเอาเมล็ดจากเส้นใยฝ้าย แต่จินอีไลวิทนีย์ทำให้มันมากขึ้นและประหยัดมากขึ้นที่จะทำ การผลิตผ้าฝ้ายความจริงเรื่องนี้ทำกำไรได้มากขึ้นและด้วยเหตุนี้ที่น่าสนใจมากที่จะปลูกต้นไม้และเกษตรกรในภาคใต้ ยังคงมีการปลูกฝ้ายเป็นแรงงานเข้มข้นมากและเกษตรกรผู้ปลูกฝ้ายที่จำเป็นในการจัดหาที่มีขนาดใหญ่ของการใช้แรงงานที่จะมีแนวโน้มที่ทุ่งนา ทาสแอฟริกันอเมริกันที่จัดแรงงานนี้.
มันเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้ แต่ที่ไม่ได้เป็นทาสทั้งหมดทำงานในไร่ฝ้ายขนาดใหญ่ ทาสแอฟริกันอเมริกันยังทำงานอยู่ในประเภทอื่น ๆ ของภาคเกษตรรวมทั้งยาสูบ, ป่าน (เชือกทำ) ข้าวโพดและปศุสัตว์ ทาสหลายคนยังทำงานอยู่ในเมืองใต้การทำงานที่หลากหลายของธุรกิจการค้าที่มีฝีมือเช่นเดียวกับแรงงานที่พบบ่อย มันเป็นเรื่องปกติสำหรับทาสทำงานในเมืองที่จะนำไปเงินพอที่จะซื้อเสรีภาพของพวกเขา อันที่จริงเมืองใต้เป็นจำนวนมากในภาคเหนือมีขนาดใหญ่ที่เรียกว่าประชากรสีดำฟรี.
วันทาสมักจะประกอบไปด้วยเป็นเวลานานของการใช้แรงงานทางกายภาพ สำหรับมือฟิลด์วันทำงานมักจะเริ่มก่อนรุ่งสางและจบลงด้วยดีหลังจากพระอาทิตย์ตกมักจะมีการแบ่งสองชั่วโมงสำหรับการรับประทานอาหารเที่ยง เกษตรกรจำนวนมากสีขาวฟรีในภาคใต้ (และภาคเหนือ) ยังใส่นานมากในการทำงานวัน แต่ความแตกต่างที่ยิ่งใหญ่ได้รับพวกเขากำลังทำงานสำหรับตัวเองและควบคุมเวลาการทำงานของตัวเอง ทาสแอฟริกันอเมริกันไม่มีการควบคุมดังกล่าวและพวกเขาทำงานภายใต้การดูแลอย่างต่อเนื่องและการคุกคามของการลงโทษทางร่างกายโดยการคุมของพวกเขา อันที่จริงไม่ว่ากรุณาเจ้าของทาสอาจจะเป็นทาสไม่ได้มีสิ่งที่ชาวอเมริกันส่วนใหญ่เสรีภาพprizedãtheir.
แม้จะมีเงื่อนไขที่รุนแรงโดยรวมและการขาดของเสรีภาพทาสไม่ได้ตกเป็นเหยื่อเพียงอำนาจของเจ้าของของพวกเขาและระบบทาส ครอบครัวและชุมชนทาสกลายเป็นสถาบันที่สำคัญมาก ทาสในไร่ขนาดใหญ่ยังมีชีวิตอยู่ในชุมชนที่ยื่นออกมาดีกว่าทุกคนในครอบครัวและในหลายกรณีเกินไร่เดียวหรือฟาร์ม กระท่อมทาส (หรือ "สี่") ให้เป็นหนึ่งในไม่กี่แห่งที่ทาสอาจจะมากหรือน้อยเป็นอิสระจากการดูแลอย่างต่อเนื่องโดยการคุมทาส มีทาสที่สร้างชีวิตทางสังคมและวัฒนธรรมที่มีชีวิตชีวาไกลเกินเอื้อมของโทของพวกเขา.
ในขณะที่ไม่มีคนที่มีเหตุผลจะต้องการที่จะเป็นทาสทาสเป็นตัวแทนการใช้งานในชีวิตของตัวเอง และแม้ว่าชีวิตของพวกเขาถูก circumscribed ในรูปแบบที่สำคัญจำนวนมากที่พวกเขาพยายามที่จะทำให้ดีที่สุดของสถานการณ์ของพวกเขา เขาประสบความสำเร็จในระดับที่น่าทึ่งรับรองเพื่อความอดทนของจิตวิญญาณมนุษย์.
เมื่อค้นหาหน่วยความจำอเมริกันสำหรับแหล่งที่มาหลักเพิ่มเติมเกี่ยวกับหัวข้อนี้ให้ใช้ข้อตกลงดังกล่าวเป็นทาส (s), ทาสไร่ (s), และนิโกรอื่น ๆ ในกลุ่ม .
ด้านบนของหน้า

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

- pre - สงครามแอฟริกัน - อเมริกันทาส
แอฟริกาอเมริกันได้รับทาสในสิ่งที่กลายเป็นสหรัฐอเมริกาเนื่องจากในช่วงต้นศตวรรษที่ 17 ดังนั้นแม้โดยเวลาของการปฏิวัติและการยอมรับสุดท้ายของรัฐธรรมนูญใน 1787 เป็นทาส คือ ตาย สถาบัน เป็นส่วนหนึ่งของการประนีประนอมที่อนุญาตให้รัฐธรรมนูญเป็นลายลักษณ์อักษร และบุญธรรมผู้ก่อตั้งตกลงที่จะยุตินำเข้าของทาสในประเทศสหรัฐอเมริกาโดย 1808 .
โดย 1800 หรือดังนั้น แต่ทาสชาวอเมริกันเป็นอีกครั้งที่เฟื่องฟู สถาบันการศึกษา โดยเฉพาะในภาคใต้ของสหรัฐอเมริกา หนึ่งในเหตุผลหลักสำหรับ reinvigoration ความเป็นทาสคือสิ่งประดิษฐ์และการยอมรับแพร่หลายอย่างรวดเร็วของเครื่องปั่นฝ้าย .เครื่องนี้อนุญาตให้ภาคใต้ชาวสวนปลูกความหลากหลายของผ้าฝ้าย -- ฝ้ายปุยสั้น . . . มันเป็นโดยเฉพาะอย่างยิ่งเหมาะกับภูมิอากาศของภาคใต้ตอนล่าง คอขวดในการปลูกพืชนี้มักจะเป็นแรงงานต้องเอาเมล็ดจากใยฝ้าย . แต่อีไลวิทนีย์จินทำได้ง่ายขึ้น และประหยัดมากขึ้นในการทำข้อเท็จจริงนี้ทำให้การผลิตฝ้ายทำกำไรมากขึ้นและดังนั้นจึงน่าสนใจมากให้กับชาวสวนและชาวนาในภาคใต้ แต่การปลูกฝ้าย คือ แรงงานที่เข้มข้นมาก และเกษตรกรผู้ปลูกฝ้ายต้องการอุปทานขนาดใหญ่ของแรงงานมักเขตข้อมูล แอฟริกันอเมริกันทาสจัดหาแรงงานนี้ .
มันเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้ , อย่างไรก็ตาม , ที่ทาสไม่ทำงานบนฝ้ายขนาดใหญ่แอฟริกันอเมริกันทาสยังทำงานในประเภทอื่น ๆของการเกษตร ได้แก่ ยาสูบ ปอ ( สำหรับทำเชือก ) , ข้าวโพดและปศุสัตว์ ทาสหลายคนยังทำงานในเมืองภาคใต้ การทำงานที่หลากหลายของงานช่างฝีมือเช่นเดียวกับแรงงานทั่วไป มันไม่ได้ผิดปกติสำหรับทาสทำงานในเมืองเพื่อเอาเงินไปพอซื้ออิสรภาพ แน่นอน ใต้เมืองเช่นเดียวกับหลาย ในภาคเหนือมีขนาดใหญ่เรียกว่าฟรีสีดำประชากร .
ของทาสวันมักจะมีความยาวชั่วโมงของแรงงานทางกายภาพ สำหรับมือนา มักจะเริ่มวันทำงานก่อนรุ่งอรุณ และจบลงด้วยดี หลังพระอาทิตย์ตก มักพักสองชั่วโมงกับเที่ยงมื้อ เกษตรกรไทย สีขาวฟรีในภาคใต้ ( และเหนือ ) ยังใส่ในวันงานที่ยาวมากแต่ที่ต่างกันมากคือพวกเขาทำงานให้ตัวเอง และควบคุมเวลาในการทำงานของตนเอง ทาสชาวอเมริกันมีไม่มีการควบคุมและพวกเขาทำงานภายใต้การดูแลอย่างสม่ำเสมอและการคุกคามของการลงโทษทางร่างกาย โดยผู้ดูแลของพวกเขา แน่นอน ไม่ว่าอย่างไรกรุณาเจ้าของทาสอาจจะ ทาสไม่ครอบครอง prized ที่สุดที่คนอเมริกัน
ฮัล เสรีภาพของพวกเขาแม้จะมีเงื่อนไขที่รุนแรงโดยรวมและการขาดเสรีภาพ ทาส ไม่ใช่อ่อนแอ เหยื่อของเจ้าของของพวกเขาและระบบทาส ครอบครัวทาสและชุมชนเป็นสถาบันที่สำคัญมาก ทาสในไร่ใหญ่ยังอาศัยอยู่ในชุมชนที่ขยายดีเกินครอบครัวและในหลายกรณีนอกเหนือจากแปลงเดียวหรือฟาร์มทาสกระท่อม ( หรือ " ไตรมาส " ) ให้หนึ่งในสถานที่ไม่กี่ที่ทาสอาจจะมากกว่าหรือน้อยกว่าคงที่การนิเทศโดยทาสฟรีจากผู้ดูแล . นั่นทาสสร้างประกายสังคมวัฒนธรรมและชีวิตเกินเอื้อมของเจ้านายของตน ในขณะที่ไม่เชือดคน
จะต้องการเป็นทาส ทาสถูกใช้งานตัวแทนในชีวิตของตัวเองและถึงแม้ว่าชีวิตของพวกเขามีพื้นที่ที่ จํากัด ในวิธีที่สำคัญมากที่พวกเขาพยายามที่จะทำให้ดีที่สุดของสถานการณ์ของพวกเขา พวกเขาประสบความสำเร็จในระดับที่น่าทึ่ง รับรองถึงความอดทนของจิตวิญญาณมนุษย์ .
เมื่อค้นหาหน่วยความจำสำหรับแหล่งข้อมูลเบื้องต้นเพิ่มเติมในหัวข้อนี้ชาวอเมริกัน ใช้เงื่อนไข เช่น ทาส ( s ) , ความเป็นทาส , สวนป่า ( s ) และโกร , หมู่คนอื่น ๆ .

ที่ด้านบนสุดของหน้า