การสูบบุหรี่เป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญ โดยเฉพาะกลุ่มของวัยรุ่นที่อัตราการสูบบุหรี่ยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น (สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ, ม.ป.ป.) จากรายงานขององค์การอนามัยโลก แจ้งว่าขณะนี้ทั่วโลกมีผู้สูบบุหรี่ประมาณ 1,300 ล้านคน โดยกว่าร้อยละ 54.5 ของผู้สูบบุหรี่ทั้งหมด อยู่ในทวีปเอเชีย (สํานักงานสถิติแห่งชาติ, 2550) คณะผู้วิจัยจึงทำศึกษาเพื่อหาอัตราการสูบบุหรี่และปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการสูบบุหรี่ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายในอำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 332 คน เก็บขอมูลโดยใช้แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพรรณนา และChi-square test (χ²)
ผลการศึกษาพบว่า อัตราการสูบบุหรี่ของวัยรุ่นคือ ร้อยละ 20.2 โดยกลุ่มตัวอย่างที่มีพฤติกรรมสูบบุหรี่ส่วนใหญ่เป็นเพศชาย ผลการวิเคราะห์ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อพฤติกรรมการสูบบุหรี่ พบว่า เพศ การมีเพื่อนสูบบุหรี่ การมีบุคคลในครอบครัวสูบบุหรี่ การมีเครือญาติสูบบุหรี่ และทัศนคติที่มีต่อการสูบบุหรี่ มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการสูบบุหรี่อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระดับ .05
การสูบบุหรี่ยังคงเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญในสังคมไทย วัยรุ่นที่เริ่มต้นสูบบุหรี่ตั้งแต่อายุยังน้อยจะมีโอกาสกลายเป็นผู้ใหญ่ที่ติดบุหรี่สูงและมีโอกาสเลิกสูบบุหรี่ได้ยาก ข้อมูลในการวิจัยในครั้งนี้ไปใช้เป็นแนวทางในการเฝ้าระวัง การวางแผน ไปจนถึงการกำหนดมาตรการการส่งเสริม ป้องกัน ควบคุมไม่ให้กลุ่มวัยรุ่นเหล่านี้เริ่มสูบบุหรี่ หรือทำให้ผู้ที่สูบอยู่แล้วเลิกหรือลดปริมาณการสูบบุหรี่ และยังเป็นการลดจำนวนผู้สูบบุหรี่ให้น้อยลงได้ในอนาคต