2.2 The crosscutting impact of labo

2.2 The crosscutting impact of labor market vulnerability and education on social policy preferences Our theoretical arguments are based on the premise that welfare state preferences are mainly shaped by economic self-interest. Hence, the main reason for diverging preferences lies in the distributive implications of social policies.5 Social rights are either based on employment or on need (social insurance versus redistribution) and have different goals (activation versus passive protection). In this section, we discuss how labor market vulnerability and education affect social policy preferences. In particular, we argue that the effect of labor market vulnerability on support for social policy should be even stronger among the high-skilled than among the low-skilled: among the low-skilled, generalized support for the welfare state is likely to be high for insiders and outsiders for a number of reasons (such as lower levels of income and wealth), with labor market vulnerability being just one more factor that pushes in the same direction. However, among the high-skilled, general support for welfare state generosity is lower. Hence, they should be less inclined toward expansive policies, unless they are in a vulnerable labor market situation.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

2.2 crosscutting ผลกระทบของช่องโหว่ของตลาดแรงงานและการศึกษาในการกำหนดลักษณะนโยบายสังคมที่อาร์กิวเมนต์ของเราทางทฤษฎีตามสถานที่ที่กำหนดลักษณะรัฐสวัสดิการส่วนใหญ่มีรูปร่าง โดยเศรษฐกิจประโยชน์ส่วนตนของเรา ด้วยเหตุนี้ แตกลักษณะอยู่ในผลกระทบของสังคม policies.5 สังคมสิทธิแจกแจงเหตุผลหลักได้ทั้งตามงาน หรือจำเป็น (ประกันสังคมเทียบกับซอร์ส) และมีเป้าหมายที่แตกต่างกัน (เปิดใช้งานเมื่อเทียบกับการป้องกันแฝง) ในส่วนนี้ เราอธิบายว่าช่องโหว่ของตลาดแรงงานและการศึกษามีผลต่อการกำหนดลักษณะของนโยบายทางสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เราเถียงว่า ผลกระทบของช่องโหว่ของตลาดแรงงานการสนับสนุนนโยบายทางสังคมควรจะแข็งแกร่งท่ามกลางการชำนาญสูงกว่าหมู่ต่ำฝีมือ: ระหว่างต่ำฝีมือ ทั่วไปสนับสนุนรัฐสวัสดิการเป็นแนวโน้มที่จะสูงสำหรับบุคคลภายในและบุคคลภายนอกสำหรับจำนวนของเหตุผล (เช่นระดับของรายได้และความมั่งคั่ง), กับช่องโหว่ตลาดแรงงานเป็นปัจจัยเพิ่มเติมเพียงหนึ่งที่ผลักดันในทิศทางเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ในการสนับสนุนฝีมือ ทั่วไป สำหรับรัฐสวัสดิการ ความเอื้ออาทรจะต่ำกว่า ดังนั้น พวกเขาควรจะอพยพไปสู่นโยบายที่กว้างขวาง เว้นแต่จะเป็นในสถานการณ์ตลาดแรงงานที่มีความเสี่ยง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

2.2 ผลกระทบของความเสี่ยงกรุย​​ทางตลาดแรงงานและการศึกษากับการตั้งค่านโยบายทางสังคมข้อโต้แย้งทางทฤษฎีเราจะขึ้นอยู่บนสมมติฐานที่ว่าการตั้งค่าของรัฐสวัสดิการมีรูปทรงส่วนใหญ่โดยเศรษฐกิจประโยชน์ของตนเอง ดังนั้นเหตุผลหลักสำหรับการแยกการตั้งค่าอยู่ในความหมายของการจำหน่าย policies.5 สังคมสิทธิทางสังคมจะขึ้นทั้งในการจ้างงานหรือเกี่ยวกับความจำเป็น (ประกันสังคมเมื่อเทียบกับการกระจาย) และมีเป้าหมายที่แตกต่างกัน (เปิดใช้งานเมื่อเทียบกับการป้องกันเรื่อย ๆ ) ในส่วนนี้เราจะหารือถึงวิธีการที่ช่องโหว่ตลาดแรงงานและการศึกษาผลกระทบต่อการตั้งค่านโยบายทางสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรายืนยันว่าผลกระทบของความเสี่ยงของตลาดแรงงานในการสนับสนุนนโยบายสังคมควรจะแข็งแกร่งยิ่งขึ้นในหมู่ผู้ที่มีทักษะสูงกว่าในหมู่ผู้ที่มีทักษะต่ำ: ในบรรดาผู้ที่มีทักษะต่ำสนับสนุนทั่วไปสำหรับรัฐสวัสดิการมีแนวโน้มที่จะสูง สำหรับภายในและภายนอกสำหรับจำนวนของเหตุผล (เช่นลดระดับของรายได้และความมั่งคั่ง) กับช่องโหว่ตลาดแรงงานเป็นเพียงปัจจัยหนึ่งที่ผลักดันให้ไปในทิศทางเดียวกัน แต่ในหมู่ผู้ที่มีทักษะสูง, การสนับสนุนทั่วไปสำหรับความเอื้ออาทรรัฐสวัสดิการจะต่ำกว่า ดังนั้นพวกเขาควรจะน้อยแนวโน้มที่มีต่อนโยบายการขยายตัวจนกว่าพวกเขาจะอยู่ในสถานการณ์ที่ตลาดแรงงานมีความเสี่ยง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

2.2 ผลกระทบของตลาดแรงงาน ขวาง ช่องโหว่และการศึกษานโยบายสังคมการตั้งค่าอาร์กิวเมนต์ทฤษฎีของเราจะขึ้นอยู่กับหลักฐานว่าลักษณะรัฐสวัสดิการส่วนใหญ่รูปโดยผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ดังนั้น เหตุผลหลักสำหรับการตั้งค่าการกระจายอยู่ในความหมายของนโยบายสังคม 5 สิทธิทางสังคมมีทั้งบนพื้นฐานของการจ้างงานหรือต้องการ ( การประกันสังคมและการกระจาย ) และมีเป้าหมายที่แตกต่างกัน ( การเปิดใช้งานเมื่อเทียบกับการป้องกันเรื่อยๆ ) ในส่วนนี้ เรากล่าวว่าตลาดแรงงาน การศึกษาต่อความเปราะบางและการตั้งค่านโยบายสังคม โดยเฉพาะ เรายืนยันว่าผลของความอ่อนแอในตลาดแรงงาน เพื่อสนับสนุนนโยบายสังคมควรจะแข็งแกร่งท่ามกลางฝีมือสูงต่ำกว่าในฝีมือ : ระหว่างต่ำที่มีทักษะสนับสนุนทั่วไป สำหรับสวัสดิการของรัฐมีแนวโน้มที่จะสูงสำหรับภายในและภายนอกสำหรับจำนวนของเหตุผล ( เช่น ระดับของรายได้ และ ความมั่งคั่ง ) กับตลาดแรงงานช่องโหว่เป็นอีกปัจจัยที่ผลักดันไปในทิศทางเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางฝีมือสูง การสนับสนุนทั่วไปสำหรับความเอื้ออาทรรัฐสวัสดิการจะต่ำกว่า ดังนั้น พวกเขาควรจะน้อยเอียงนโยบายไพศาล , จนกว่าพวกเขาจะอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงต่อตลาดแรงงาน .