ConclusionAny culture of leadership

Conclusion
Any culture of leadership cannot be built without a basic link between given ethical
theories and specific representations of reality. Some authors believed that a
combination of ethical theories could be the most relevant perspective for defining
ethical leadership (Knights and O’Leary, 2006; Ncube and Washburn, 2006). We have
seen how the eight leadership approaches are connected with one of the ethical
theories. But above all, what we have suggested is that a given ethical theory (such as
philosophical egoism) could be suited to the components of various leadership
approaches. Ethical leadership does not imply that a given leadership approach reflects
only one ethical theory. For different reasons, various leadership approaches could
agree with the same ethical theory.
Future research should emphasize cultural and religious conditionings that are
behind social expectations of ethical leadership. Indeed, very little research has been
carried out about the spiritual and religious background (for instance, Hinduism,
Buddhism, Confucianism, Judaism, Christianity, Islam) that is closely linked to various
ethical leadership styles. If we do not take into account spiritual and religious
beliefs/values (and even the philosophical and theological concepts which are involved
in such beliefs systems), we will distort the way ethical leadership could be practiced in
many parts of the world.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทสรุป
ไม่สามารถสร้างภาวะผู้นำวัฒนธรรมใด ๆ โดยไม่มีพื้นฐานการเชื่อมโยงระหว่างให้จริยธรรม
ทฤษฎีและนำเสนอเฉพาะของความเป็นจริงได้ บางอย่างผู้เขียนเชื่อว่าการ
ชุดของทฤษฎีจริยธรรมอาจเป็นมุมมองที่เกี่ยวข้องมากที่สุดสำหรับการกำหนด
ภาวะผู้นำจริยธรรม (อัศวินและซี 2006 Ncube ก Washburn, 2006) เรามี
เห็นว่าการเชื่อมต่อวิธีนำแปดกับจริยธรรม
ทฤษฎี แต่เหนือสิ่งอื่นใด ที่เราได้แนะนำว่า ทฤษฎีจริยธรรมที่กำหนด (เช่น
ปรัชญา egoism) ไม่เหมาะสมกับส่วนประกอบของภาวะผู้นำต่าง ๆ
วิธีการ จริยธรรมเป็นผู้นำได้เป็นผู้กำหนดวิธีการแสดง
จริยธรรมทฤษฎีเดียวกัน ด้วยเหตุผลที่แตกต่างกัน สามารถนำวิธีการต่าง ๆ
เห็นด้วยกับเดียวจริยธรรมทฤษฎี.
วิจัยในอนาคตควรเน้นวัฒนธรรม และศาสนาโรงแรมในบันติ้งที่
หลังความคาดหวังทางสังคมเป็นผู้นำจริยธรรมได้ แน่นอน มีการวิจัยน้อยมาก
ดำเนินเกี่ยวกับเบื้องหลังของจิตวิญญาณ และทางศาสนา (เช่น ศาสนาฮินดู,
พุทธ Confucianism ศาสนายูดาย ศาสนา คริสต์ อิสลาม) ที่อยู่ใกล้ชิดกับต่าง ๆ
ลักษณะภาวะผู้นำจริยธรรม ถ้าเราไม่คำนึงถึงศาสนา และจิตวิญญาณ
ความเชื่อ/ค่า (และแนวคิดปรัชญา และศาสนศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง
ในระบบความเชื่อ), เราจะทำแบบที่สามารถฝึกฝนภาวะผู้นำจริยธรรมใน
หลายส่วนของโลก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สรุป
วัฒนธรรมของความเป็นผู้นำใด ๆ ที่ไม่สามารถสร้างขึ้นได้โดยไม่ต้องเชื่อมโยงขั้นพื้นฐานระหว่างจริยธรรมที่กำหนด
ทฤษฎีที่เฉพาะเจาะจงและเป็นตัวแทนของความเป็นจริง นักเขียนบางคนเชื่อว่า
การรวมกันของทฤษฎีทางจริยธรรมอาจจะมีมุมมองที่เกี่ยวข้องมากที่สุดสำหรับการกำหนด
ความเป็นผู้นำทางจริยธรรม (อัศวินและแลร์รี่ส์ 2006; Ncube และ Washburn, 2006) เราได้
เห็นวิธีการที่วิธีการเป็นผู้นำที่แปดมีการเชื่อมต่อกับหนึ่งในจริยธรรม
ทฤษฎี แต่เหนือสิ่งอื่นใดสิ่งที่เราได้ชี้ให้เห็นว่าทฤษฎีทางจริยธรรมที่กำหนด (เช่น
เห็นแก่ตัวปรัชญา) อาจจะเหมาะกับองค์ประกอบของความเป็นผู้นำที่แตกต่างกัน
วิธีการ ความเป็นผู้นำทางจริยธรรมไม่ได้หมายความว่าวิธีการเป็นผู้นำที่ได้รับสะท้อนให้เห็นถึง
เพียงหนึ่งทฤษฎีจริยธรรม ด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันวิธีการเป็นผู้นำที่แตกต่างกันอาจจะ
เห็นด้วยกับทฤษฎีเดียวกันจริยธรรม
การวิจัยในอนาคตควรเน้น conditionings วัฒนธรรมและศาสนาที่มี
ความคาดหวังของสังคมที่อยู่เบื้องหลังของความเป็นผู้นำทางจริยธรรม อันที่จริงการวิจัยน้อยมากที่ได้รับการ
ดำเนินการเกี่ยวกับภูมิหลังทางจิตวิญญาณและทางศาสนา (เช่นศาสนาฮินดู
พุทธศาสนาขงจื้อยูดายคริสต์อิสลาม) ที่มีการเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับหลากหลาย
รูปแบบความเป็นผู้นำทางจริยธรรม ถ้าเราไม่ได้คำนึงถึงจิตวิญญาณและทางศาสนา
ความเชื่อ / ค่า (และแม้แนวคิดปรัชญาและเทววิทยาที่มีส่วนร่วม
ในระบบความเชื่อดังกล่าว) เราจะบิดเบือนความเป็นผู้นำทางจริยธรรมที่อาจจะได้รับการฝึกฝนใน
หลายส่วนของโลก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สรุป
วัฒนธรรมใด ๆไม่สามารถจะสร้างผู้นำโดยไม่มีพื้นฐานการเชื่อมโยงระหว่างทฤษฎีจริยธรรม
และเฉพาะเจาะจงให้เป็นตัวแทนของความเป็นจริง บางคนเขียนเชื่อกันว่า
การรวมกันของทฤษฎีจริยธรรมอาจจะเป็นมุมมองที่เกี่ยวข้องมากที่สุดสำหรับการกำหนด
ผู้นำจริยธรรม ( อัศวิน และ โอ ' เลียรี่ , 2006 ; และ ncube วอชเบิร์น , 2006 ) เรามี
เห็นแล้วแนวแปดผู้นำมีการเชื่อมต่อกับหนึ่งของจริยธรรม
ทฤษฎี แต่เหนือสิ่งอื่นใด สิ่งที่เราได้พบคือ ว่า จากทฤษฎีทางจริยธรรม ( เช่น
มมังการปรัชญา ) อาจจะเหมาะกับองค์ประกอบของภาวะผู้นำ
วิธีต่าง ๆ ภาวะผู้นำเชิงจริยธรรม ไม่ได้หมายความว่าให้สะท้อนให้เห็นถึงภาวะผู้นำแบบจริยธรรม
เพียงทฤษฎี สำหรับเหตุผลที่แตกต่างกันวิธีการที่ผู้นำต่าง ๆอาจ
เห็นด้วยกับทฤษฎีทางจริยธรรมเดียวกัน
การวิจัยในอนาคตควรเน้นเงื่อนไขทางวัฒนธรรมและศาสนาที่
หลังความคาดหวังของภาวะผู้นำเชิงจริยธรรม แน่นอน , วิจัยน้อยมากได้รับ
ดําเนินการเกี่ยวกับจิตวิญญาณทางศาสนาและภูมิหลัง ( เช่น ฮินดู
พุทธศาสนา ลัทธิขงจื๊อ ศาสนายูดาย ศาสนาคริสต์ศาสนาอิสลาม ) ที่ถูกเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับรูปแบบภาวะผู้นำเชิงจริยธรรมต่างๆ

ถ้าเราไม่พิจารณาทางจิตวิญญาณและทางศาสนา
ความเชื่อ / ค่า ( และแม้แต่ปรัชญา และเทววิทยา แนวคิดที่เกี่ยวข้อง
ในระบบความเชื่อดังกล่าว ) เราจะบิดเบือนทางภาวะผู้นำทางจริยธรรมอาจจะฝึก
หลายส่วนของโลก