Banking Crises, Capital Mobility, and Financial Liberalization
สอดคล้องกับทฤษฎียุคใหม่ด้วยคือ ความสมพันธ์หลักๆระหว่างอิสระในการเคลื่อนย้ายทุน(freer capital mobility)และเหตุการณ์ของวิกฤตธนาคาร(Banking crises) ซึ่งแสดงในตาราง 10.1 ซึ่งมีผลรวมสูงมากแต่เกิดเหตุขัดข้องต่อข้อมูลระดับภูมิภาคหรือประเทศ ช่วงของการเคลื่อนย้ายทุนระหว่างประเทศมีความอิสระมาก(international capital mobility) ทำให้เกิดวิกฤติการธนาคารระหว่างประเทศอย่างซ้ำซาก สิ่งที่พวกเขาทำในปี1990s ไม่ใช่แค่มีชื่อเสียงแต่เป็นการกระทำแห่งประวัตศาสตร์ โดยเฉลี่ยการเคลื่อนย้ายของส่วนแบ่งประเทศทั้งหมดเรียนรู้จากประสบการณ์วิกฤตการธนาคาร(the right hand scale) และใน(left hand scale) พวกเรามีกราฟตัวชี้ของอิสระในการเคลื่อนย้ายทุนระหว่างประเทศ(International capital mobility)โดยใช้การออกแบบพื้นฐานในแบบเดียวกัน ในขณะที่Obsteld and Taylor ทั้งสองทำให้ทันสมัยและคำนวณเวลากลับไปเพื่อให้ครอบคลุมตัวอย่างช่วงเวลาอย่างสมบูรณ์ของพวกเรา ถึงแม้ว่าตัวชี้วัดของ Obsteld and Taylor อาจข้อจำกัดของมัน เรายังรู้สึกว่ามันให้แค่ใจความสั้นๆของแรงงานที่มีความซับซ้อนโดยเน้นการเคลื่อนย้ายทุน(Capital mobility)ซึ่งเป็นพื้นฐานที่หมุนเวียนได้จริง
สำหรับช่วงหลังปี1970 Kaminsky and Reinhart เสนอหลักฐานซึ่งเป็นชุดที่เป็นทางการของการเชื่อมโยงระหว่างวิกฤตและการปล่อยให้การเงินเป็นไปอย่างเสรี(Financial preralization) พวกเขาศึกษากลุ่มการเงินที่เคยเปิดเสรีภายใน5ปีก่อนหน้านี้ใน18 ของ26วิกฤตธนาคาร ในปี1980 และ1990 ความรุนแรงมากบ้างน้อยบ้างของวิกฤตการเงินส่วนใหญ่เชื่อมโยงกับกรณีที่เปิดเสรี(liberaliaztion) ในกรณีของแคนาดาทำการเปิดเสรีส่วนของการเงินแค่1ส่วนของประเทศและดำเนินการอย่างราบรื่นโดยเฉพาะKaminsky และReinhart บอกชัดเจนว่ามีการเกิดขึ้นของโอกาสความเป็นไปได้บนเงื่อนไขของวิกฤตธนาคาร(Probability of a banking crisis conditional) คือความน่าจะเป็นที่ไม่มีเงื่อนไขของวิกฤตธนาคาร ใช้ตัวอย่าง53 ประเทศในช่วง1980-1995 Demirguc Kunt และ Detragiache ก็แสดงหลักฐานด้วย ในเนื้อหาหลายตัวของlogit model การเปิดเสรีการเงิน(Financial liberalization)อย่างนั้นผลกระทบต่อความมั่นคงของส่วนธนาคารมีผลลบไม่เข้าฝ่ายใด ผลที่ได้นี้คือประสิทธิภาพทั่วทั้งข้อกำหนดต่าง ๆ นานา
Caprio และ Klingebiel ทำให้หลักฐานทันสมัยขึ้นเขาเสนอว่าการควบคุมดูแลในเวลาที่ปล่อยให้เป็นอิสระอาจแสดงบทบาทสำคัญในการอธิบายว่าทำไมดังนั้นการไม่ควบคุมและวิกฤตธนาคารจึงมีความเกี่ยวเนื่องกันมาก นอกจากนี้นี่คือรูปแบบประเทศที่พัฒนาแล้วและตลาดเกิดใหม่เหมือนกัน ในปี2000s ประเทศสหรัฐอเมริกาสำหรับเวลานี้คือมีความโอหังที่แตกต่างกันไม่มีข้อยกเว้นการพิสูจน์สำหรับการพัฒนานวัตกรรมทางการเงินที่เป็นตัวแปรของกระบวนการเปิดเสรี พวกเราเลือกทดสอบลักษณะสำคัญที่เป็นส่วนรวมของวิกฤตธนาคารข้ามประเทศ ภูมิภาค และช่วงเวลา เจาะจงคือความเป็นระเบียบในการไหลของเงินทุนระหว่างประเทศ ความน่าเชื่อถือ และasset price โดยเฉพาะการเคหะและความเสมอภาคทางการเงิน
Capital flow Bonanzas and Banking crises
หนึ่งลักษณะสำคัญที่เป็นส่วนร่วมของการเร่งวิกฤตธนาคารขึ้น คือ ทุนไหลเข้าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วอย่างถาวร Reinhart & Reinhart ข้อตกลง “Capital flow Bonanzas “ พวกเขาอธิบายเกณฑ์การให้คำจำกัดความ “Capital flow Bonanzas “ เกี่ยวพันกันอย่างคร่าวๆในการไหลเข้าหลายเปอร์เซ็นของGDP บนพื้นฐานหลายปี เกี่ยวกับบัญชีรายชื่อ ( ประเทศต่อประเทศ ) Bonanzas แห่งที่ทำให้ร่ำรวยขึ้นในพริบตา กรณี1960-2006 และพิจารณาความเชื่อมโยงระหว่าง Bonanzas และ Banking crises พวกเขาใช้วิกฤตระบุไว้ชัดเจนอย่างเท่าๆกันและแสดงวันที่ในส่วนท้าย A.3
จากยุคของ Banking crises & Capital flow Bonanzas โดยเฉพาะสามารถคาดคะเนความเป็นไปได้ของสองประเทศ คือ ความน่าจะเป็นที่ไม่มีเงื่อนไขของวิกฤตธนาคาร และโอกาสความเป็นไปได้บนเงื่อนไขของวิกฤตธนาคารอยู่ภายในขอบเขตงบการเงินสามปีและหลัง Bonanzas ปีหรือหลายปี กล่าวคือโอกาสความน่าจะเป็นเงื่อนไขของวิกฤต ถ้าการไหลของแหล่งเงินทุนทำให้รวยได้ในพริบตา (Capital flow Bonanzas) ทำให้ประเทศมีแนวโน้มเกิดวิกฤตมาก “The conditional probability of crises” , P (crisis bonanza) ควรใหญ่กว่า “The unconditional probability of crises” , P (crisis)
ตาราง10.7 การทำเซ็ตย่อยซ้ำผลที่ตามมาที่ได้รับมาจาก Reinhart & Reinhart บอกคือ Banking crises สัมพันธ์กัน มันแสดงผลรวมของเงื่อนไขเฉพาะประเทศและไม่น่าจะเป็นเงื่อนไขสำหรับทุกประเทศในสามกลุ่มนี้ คือ ประเทศที่มี high income, middle income, low income โอกาสที่น่าจะเป็นไปได้ของเงื่อนไข Banking crises ใน Capital flow Bonanzas สูงกว่าโอกาสที่เป็นไปไม่ได้ถ้าหากไม่มีเงื่อนไขโดยแถวที่ต่ำที่สุดของตาราง10.7ให้ส่วนแบ่งชองประเทศที่ P (crisis bonanza) = P (crisis) ขณะที่ส่วนที่บ่งบอกว่ามากขึ้นเกิดขึ้นทุกวันได้อย่างไร มันคือการข้ามประเทศเพื่อมองหาแหล่งขุมทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกันกับสภาพแวดล้อมที่มีแนวโน้มเกิดวิกฤต ประทศส่วนใหญ่ (61%) ขึ้นทะเบียนมีแนวโน้มสูงที่จะเกิด Banking crises ตลอดช่วง Bonanzas อัตราร้อยละนี้จะสูงขึ้น สมมุติว่ามีหนึ่งข้อมูลหลักในตารางปี 2007 (หลายประเทศมีประสบการณ์ช่วง Banking crises ที่ส่วนใหญ่มีความรุนแรงภายหลังปี2000s ดำเนินการช่วยเหลือครั้งใหญ่รวบรวมวิกฤตบัญชีขาดดุลที่มีอยู่ในหลายๆประเทศที่พัฒนาแล้ว เช่น Iceland, Ireland, Spain, United Kingdome และ United State)
ผลของการสืบค้นใน Capital flow Bonanzas เป็นความมั่งคงและตัวชี้อื่นๆ ซึ่งได้มาจากประสบการณ์กฎการล้อมรอบบัญชี Mendoza & Terrones เขาพิจารณาความเจริญก้าวหน้าและตลาดเศรษฐกิจเปิดใหม่ทั้งสองกำลังใช้วิธีการทำให้บรรลุเป้าหมายที่แตกต่างกันมาก จากการพูดคุยกันตอนนี้พบตลาดเศรษฐกิจ (emerging market crises) พวกเขาเชื่อว่าการเพิ่ม asset price มีผลต่อ credit booms การตีพิมพ์ออกมาเปลี่ยนสิ่งที่จะตามมา