For many students in the U.S., stud

For many students in the U.S., studying in high school today is easier than, say, a hundred years ago. Indeed, due to advanced technologies which can be used for studying, being a student today is hardly a dilemma. In addition, high school students do not have to rush into choosing their future fields of expertise and entering a university; instead, they can take a so-called gap year, to relax, earn some money, and see what they would like to be doing before studying further. And in my opinion, one of the best ways to spend a gap year (at least half of it) is to travel around different countries.

Travelling is not about simply having fun; in fact, it is a serious survival school, especially for a young person who got used to being taken care of by his or her parents. It does not mean that a teen must cook food on n open fire or sleep in dire woods; actually, in the 21st century, Master Card allows a person to comfortably live almost in any country of the world. By survival, I mean the necessity to make independent decisions and take responsibility for them by facing the consequences. Where to eat or what to cook; which transport is cheaper; how to buy something you need when the retailer does not speak any language you know; where to stay for the night; how to get from point A to point B – these, as well as many other questions a traveler solves every day, and there is no one around to tell them whether their decision is true or false. For a young person, the ability to make life-affecting decisions can be invaluable (TravelStudentsF).

Travelling not only makes a teen more decisive, but also more communicative. When you go to a foreign country, you know almost nothing about it. Even if you have searched some information about it, 90% of it is useless when you arrive to the new place. Therefore, you need help, and the only assistance you can get in a foreign country is from locals; in case if you travel to a non English-speaking country, you should also be prepared for the fact that people will not understand you. This can easily become an emergency case, because even basic communication phrases like “I need a doctor” or “I need help” suddenly become a challenge; therefore, a traveller has either to learn phrases of the local language, or try to explain what they need with gestures. Both ways are fun, and contribute to making a person more easygoing and able to communicate with almost anyone. For a person who has lived for half a year in, for example, Nepal, communicating with English-speaking people after returning back home is easier (IFR).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สำหรับนักเรียนจำนวนมากในสหรัฐอเมริกา ศึกษาต่อในโรงเรียนมัธยมในวันนี้ กล่าวว่า ร้อยปีง่ายกว่า จริง เนื่องจากเทคโนโลยีขั้นสูงซึ่งสามารถใช้สำหรับการศึกษา การเป็นนักศึกษาวันนี้เป็นแทบไม่คายไม่ออก นอกจากนี้ นักเรียนไม่ต้องรีบเร่งในการเลือกเขตข้อมูลในอนาคตของพวกเขาความเชี่ยวชาญ และเข้ามหาวิทยาลัย แทน พวกเขาสามารถใช้ปีช่องว่างเรียกว่า ได้รับเงินบางส่วน และดูสิ่งที่พวกเขาต้องการจะทำก่อนไปเรียนต่อเพิ่มเติม และในความคิดของฉัน หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดจะใช้จ่ายปีช่องว่าง (อย่างน้อยครึ่งหนึ่งของมัน) คือการเดินทางทั่วประเทศการเดินทางไม่ได้เกี่ยวกับแค่สนุก ในความเป็นจริง มันเป็นโรงเรียนอยู่รอดที่รุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนรุ่นใหม่เคยได้รับการดูแลจากพ่อแม่ของเขา หรือเธอ มันไม่ได้หมายความ ว่า วัยรุ่นที่ต้องปรุงอาหารบน n เปิดไฟหรือนอนหลับในป่าเลวร้าย จริง ในศตวรรษที่ 21 มาสเตอร์การ์ดช่วยให้คนสบายอยู่เกือบทุกประเทศของโลก โดยอยู่รอด ผมหมายถึง ความจำเป็นในการตัดสินใจอิสระ และรับผิดชอบสำหรับพวกเขา โดยหันหน้าเข้าหาผล การกินหรืออะไรเด็ด ๆ ขนส่งซึ่งมีราคาถูกกว่า วิธีการซื้อสิ่งที่คุณต้องการเมื่อผู้ค้าปลีกพูดภาษาใด ๆ คุณทราบ พักสำหรับคืน แก้ทางจากจุด A ไปจุด B – เหล่านี้ เป็นหลายคำถามอื่น ๆ ผู้เดินทางทุกวัน และไม่มีใครใกล้เคียงจะบอกพวกเขาตัดสินใจว่าจริง หรือเท็จ สำหรับคนหนุ่มสาว ความสามารถในการตัดสินใจมีผลกระทบต่อชีวิตได้ทรงคุณค่า (TravelStudentsF)การเดินทางไม่เพียงทำให้วัยรุ่นเพิ่มเติมเด็ดขาด แต่ยังสื่อสารมากขึ้น เมื่อคุณไปต่างประเทศ คุณรู้ว่าแทบไม่มีอะไรเลย แม้ว่าคุณได้ค้นหาข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับมัน 90% ของที่มันมีประโยชน์เมื่อคุณมาถึงที่ใหม่ ดังนั้น ช่วยเหลือ และขอความช่วยเหลือเท่าที่คุณสามารถได้รับในต่างประเทศจากชาวบ้าน ในกรณีถ้าคุณเดินทางไปยังประเทศที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ คุณควรยังเตรียมความจริงที่ว่า คนจะไม่เข้าใจคุณ นี้สามารถกลายเป็นกรณีเร่งด่วน เนื่องจากการสื่อสารพื้นฐานแม้แต่วลีเช่น "ฉันต้องการหมอ" หรือ "ตอบ" ก็กลายเป็นความท้าทาย ดังนั้น ผู้เดินทางมีให้เรียนภาษาของภาษาท้องถิ่น หรือพยายามที่จะอธิบายสิ่งที่พวกเขาต้องการ ด้วยท่าทาง ทั้งสองวิธีจะสนุก และนำไปสู่การทำสบาย ๆ มากขึ้น และสามารถสื่อสารกับเกือบทุกคน สำหรับคน ที่เคยอยู่ครึ่งปี เช่น เนปาล สื่อสารกับคนที่พูดภาษาอังกฤษหลังจากกลับกลับบ้าน ง่าย (IFR)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สำหรับนักเรียนหลายแห่งในสหรัฐที่กำลังศึกษาอยู่ในโรงเรียนมัธยมในวันนี้เป็นเรื่องง่ายกว่าการพูด, ร้อยปีที่ผ่านมา แท้จริงเนื่องจากเทคโนโลยีขั้นสูงที่สามารถนำมาใช้ในการศึกษาเป็นนักเรียนในวันนี้คือแทบจะไม่ขึ้นเขียง นอกจากนี้นักเรียนโรงเรียนมัธยมไม่ต้องรีบเร่งในการเลือกสาขาอนาคตของพวกเขาของความเชี่ยวชาญและการป้อนมหาวิทยาลัย; แต่พวกเขาสามารถใช้ช่องปีที่เรียกว่าจะผ่อนคลายรับเงินบางส่วนและดูสิ่งที่พวกเขาต้องการที่จะทำก่อนที่จะศึกษาต่อไป และในความคิดของฉันเป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดที่จะใช้จ่ายปีช่องว่าง (อย่างน้อยครึ่งหนึ่งของมัน) คือการเดินทางที่แตกต่างกันทั่วประเทศ.

ท่องเที่ยวไม่เกี่ยวกับเพียงแค่มีความสนุกสนาน; ในความเป็นจริงมันเป็นโรงเรียนอยู่รอดอย่างจริงจังโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนหนุ่มสาวที่ได้ใช้ในการได้รับการดูแลจากพ่อแม่ของเขาหรือเธอ มันไม่ได้หมายความว่าวัยรุ่นต้องปรุงอาหารบน n เปิดไฟหรือนอนหลับอยู่ในป่าที่เลวร้าย; ที่จริงในศตวรรษที่ 21, มาสเตอร์การ์ดช่วยให้คนที่จะมีชีวิตอยู่อย่างสบายเกือบจะอยู่ในประเทศใดของโลก โดยการอยู่รอดของผมหมายถึงความจำเป็นในการตัดสินใจที่เป็นอิสระและมีความรับผิดชอบต่อพวกเขาโดยหันหน้าไปทางผลที่ตามมา ที่กินหรือสิ่งที่จะปรุงอาหาร; ซึ่งมีราคาถูกกว่าการขนส่ง; วิธีการที่จะซื้อสิ่งที่คุณต้องการเมื่อร้านค้าปลีกที่ไม่ได้พูดภาษาใด ๆ ที่คุณรู้ ที่จะเข้าพักในคืนนี้; วิธีการที่จะได้รับจากจุด A ไปยังจุด B - เหล่านี้เช่นเดียวกับคำถามอื่น ๆ อีกมากมายนักท่องเที่ยวแก้ทุกวันและไม่มีใครอยู่รอบ ๆ จะบอกพวกเขาว่าตัดสินใจของพวกเขาเป็นจริงหรือเท็จ สำหรับคนหนุ่มสาวที่มีความสามารถในการตัดสินใจที่มีผลต่อชีวิตสามารถล้ำค่า (TravelStudentsF).

การเดินทางไม่เพียง แต่ทำให้วัยรุ่นที่เด็ดขาดมากขึ้น แต่ยังการสื่อสารมากขึ้น เมื่อคุณไปต่างประเทศคุณรู้ว่าเกือบไม่มีอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ แม้ว่าคุณจะมีการสืบค้นข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับมัน 90% ของมันจะไม่ได้ผลเมื่อคุณมาถึงไปยังสถานที่ใหม่ ดังนั้นคุณต้องการความช่วยเหลือและให้ความช่วยเหลือเพียงคุณเท่านั้นที่จะได้รับในต่างประเทศจากชาวบ้าน; ในกรณีที่หากคุณเดินทางไปยังประเทศที่ไม่ได้พูดภาษาอังกฤษคุณควรจะเตรียมไว้สำหรับความจริงที่ว่าคนจะไม่เข้าใจคุณ นี้สามารถกลายเป็นกรณีฉุกเฉินเพราะแม้แต่วลีการสื่อสารขั้นพื้นฐานเช่น "ฉันต้องการหมอ" หรือ "ฉันต้องการความช่วยเหลือ" ก็กลายเป็นความท้าทาย; จึงเดินทางได้อย่างใดอย่างหนึ่งในการเรียนรู้ของวลีภาษาท้องถิ่นหรือพยายามที่จะอธิบายสิ่งที่พวกเขาต้องการด้วยท่าทาง ทั้งสองวิธีมีความสนุกสนานและนำไปสู่การทำให้คนที่พิถีพิถันมากขึ้นและสามารถสื่อสารกับเกือบทุกคน สำหรับคนที่มีอยู่สำหรับครึ่งปีในตัวอย่างเช่นเนปาลสื่อสารกับคนที่พูดภาษาอังกฤษหลังจากที่กลับมากลับบ้านเป็นเรื่องง่าย (IFR)