Mount St. Helens' eruption on May 1

Mount St. Helens' eruption on May 18, 1980, was one of the most destructive volcanic eruptions in U.S. history. With an eruption column — the cloud of volcanic ash emitted during an explosive eruption — that measured 80,000 feet (24 kilometers) and that deposited ash in 11 states, the eruption caused damages estimated to cost $1.1 billion, according to the International Trade Commission. The eruption killed more than 57 people and destroyed more than 200 homes, according to the U.S. Geological Survey (USGS).

The new findings could help predict when the volcano will blow again and could be applied to other volcanoes, the researchers said, adding that their method will work on only some volcanoes. [The 11 Biggest Volcanic Eruptions in History]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วงษ์บน 18 พฤษภาคม 1980 เป็นหนึ่งในภูเขาไฟระเบิดทำลายมากที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา มีคอลัมน์การปะทุ — ระบบคลาวด์ของเถ้าภูเขาไฟที่ปล่อยออกมาในระหว่างการปะทุระเบิด — ที่วัด 80,000 ฟุต (24 กิโลเมตร) และที่ฝากเถ้าในอเมริกา 11 ประเมินความเสียหายที่เกิดจากการปะทุไป $1.1 พันล้าน ต้นทุนตามที่คณะกรรมการการค้านานาชาติ การระเบิดฆ่ามากกว่า 57 คน และทำลายบ้านมากกว่า 200 ตามสหรัฐฯ ที่ทางธรณีวิทยาการสำรวจ (USGS)ผลการวิจัยใหม่อาจช่วยทำนายเมื่อภูเขาไฟจะระเบิดอีกครั้ง และสามารถใช้ได้กับภูเขาไฟอื่น ๆ นักวิจัยกล่าวว่า เพิ่มวิธีการพวกเขาจะทำงานบนภูเขาไฟเฉพาะบาง [11 ภูเขาไฟระเบิดในประวัติศาสตร์]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การระเบิดภูเขาไฟเซนต์เฮเลน 'วันที่ 18 พฤษภาคม 1980 เป็นหนึ่งในภูเขาไฟระเบิดทำลายล้างมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐ กับคอลัมน์ระเบิด - เมฆเถ้าภูเขาไฟที่ปล่อยออกมาในระหว่างการปะทุระเบิด - ที่วัด 80,000 ฟุต (24 กิโลเมตร) และเถ้าฝากใน 11 รัฐ, การระเบิดที่เกิดจากความเสียหายที่คาดว่าจะมีค่าใช้จ่าย 1.1 พันล้าน $ ตามที่คณะกรรมาธิการการค้าระหว่างประเทศ ระเบิดฆ่ามากกว่า 57 คนและถูกทำลายมากกว่า 200 บ้านตามการสำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐ (USGS). การค้นพบใหม่จะช่วยให้คาดการณ์เมื่อภูเขาไฟจะระเบิดอีกครั้งและสามารถนำไปใช้ภูเขาไฟอื่น ๆ นักวิจัยกล่าวเพิ่มว่า วิธีการของพวกเขาจะทำงานบนภูเขาไฟเพียงบางส่วน [11 ใหญ่ที่สุดภูเขาไฟปะทุในประวัติศาสตร์]