numbers are expected to increase wi

numbers are expected to increase with the increasing number
of chemicals in use. Skin and inhalation are the two most common occupational routes of chemical exposure. Historically,
efforts have been aimed at regulating respiratory exposures;
however, the contribution of skin exposure in the development
of systemic disease is gaining increased recognition. In particular, studies are beginning to demonstrate the contribution
of skin exposure to the development of respiratory sensitization and altered pulmonary function. The skin is the largest
organ of the body, and while less volatile chemicals are known
to directly penetrate the skin to induce toxicity, there is also
evidence of a contribution from vapors or aerosolized chemicals that should not be overlooked. While contact dermatitis
is one of the most common and well-understood occupational
diseases, increasing the awareness about potential systemic
effects following skin exposure to chemicals is also of occupational importance. Not only does skin exposure have the
potential to contribute to total body burden of a chemical but
also the skin is a highly biologically active organ capable of
chemical metabolism and the initiation of a cascade of immunological events, potentially leading to adverse outcomes in
other organ systems.
Workers should be aware not only of the hazards associated with the chemicals in their environment but also of conditions that are likely to enhance the systemic absorption of
these chemicals. Factors such as excessive hand washing, use
of hand sanitizers, high frequency of wet work, exposure to
chemical mixtures, or wearing occlusive gloves can change the
integrity or function of the skin and play a role in enhancing
chemical penetration or sensitization by influencing additional
biological responses.
Author contributions
Wrote the first draft of the manuscript: SEA. Contributed
to the writing of the manuscript: SEA, BJM. Made critical
revisions and approved final version: SEA, BJM. Both authors
reviewed and approved of the final manuscript. SEA, BJM.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ตัวเลขคาดว่าจะเพิ่ม มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น สารเคมีใช้ ผิวและดมมีเส้นทางอาชีพมากที่สุดสองของการสัมผัสสารเคมี ประวัติ มีการมุ่งความพยายามที่ควบคุมระบบหายใจภาพ อย่างไรก็ตาม ส่วนของการสัมผัสผิวหนังในการพัฒนา โรคระบบจะได้รู้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะ การเริ่มต้นการศึกษาแสดงให้เห็นถึงสัดส่วน ของการสัมผัสผิวการพัฒนา sensitization หายใจและฟังก์ชันเปลี่ยนแปลงระบบทางเดินหายใจ เป็นใหญ่ที่สุด อวัยวะ ของร่างกาย และใน ขณะที่เป็นที่รู้จักน้อยระเหยสารเคมี โดยตรงเจาะผิวหนังเพื่อก่อให้เกิดความเป็นพิษ มีมี หลักฐานของความผันแปรจากไอระเหยหรือสารเคมีที่ป่วยที่ไม่ควรมองข้าม ในขณะที่ผิวหนังอักเสบติดต่อ เป็นหนึ่งทั่วไปมากที่สุด และเข้าใจดีอาชีว โรค การเพิ่มการรับรู้เกี่ยวกับศักยภาพระบบ ผลต่อผิวหนังสัมผัสกับสารเคมียังเป็นอาชีพสำคัญ ไม่เพียงแต่ ผิวสัมผัสมีการ ศักยภาพในการมีส่วนร่วมของแต่เคมีมวลรวมร่างกาย นอกจากนี้ ผิวหนังเป็นอวัยวะสูงชิ้นงานที่สามารถ เมแทบอลิซึมของสารเคมีและการเริ่มต้นของการเรียงซ้อนของภูมิคุ้มกัน อาจนำไปสู่ผลร้ายใน ระบบอวัยวะอื่น ๆผู้ปฏิบัติงานควรระวังไม่เพียง แต่อันตรายที่เกี่ยวข้องกับสารเคมีในสภาพแวดล้อมของพวกเขา แต่เงื่อนไขที่จะเพิ่มการดูดซึมของระบบ สารเคมีเหล่านี้ ใช้ปัจจัยต่าง ๆ เช่นซักผ้า มือมากเกินไป ของมือ sanitizers ความถี่สูงงานเปียก สัมผัส น้ำยาผสมเคมี หรือสวมถุงมือ occlusive สามารถเปลี่ยนแปลงการ ความสมบูรณ์หรือฟังก์ชันของผิวและเล่นบทบาทในการเพิ่ม เจาะเคมีหรือ sensitization โดยชักเพิ่มเติม การตอบสนองทางชีวภาพผลงานผู้เขียนเขียนร่างแรกของต้นฉบับ: ซี ส่วน การเขียนของต้นฉบับ: ทะเล ลิซ ทำสำคัญ ปรับปรุงและอนุมัติรุ่น: ทะเล ลิซ ผู้เขียนทั้งสอง ตรวจทาน และอนุมัติฉบับสุดท้าย ทะเล ลิซ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ตัวเลขที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นตามจำนวนที่เพิ่มขึ้น
ของสารเคมีในการใช้งาน ผิวหนังและการสูดดมเป็นสองเส้นทางอาชีพที่พบมากที่สุดของการสัมผัสสารเคมี ในอดีต
มีความพยายามมุ่งเป้าไปที่การควบคุมความเสี่ยงทางเดินหายใจ
แต่การมีส่วนร่วมของการสัมผัสผิวในการพัฒนา
ของโรคระบบจะดึงดูดการรับรู้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการศึกษาเป็นจุดเริ่มต้นที่จะแสดงให้เห็นถึงการมีส่วนร่วม
ของการสัมผัสผิวไปสู่การพัฒนาของอาการแพ้ทางเดินหายใจและการเปลี่ยนแปลงการทำงานของปอด ผิวที่ใหญ่ที่สุดเป็น
อวัยวะของร่างกายและในขณะที่สารเคมีที่ผันผวนน้อยเป็นที่รู้จักกัน
โดยตรงผ่านเข้าไปในผิวหนังเพื่อก่อให้เกิดความเป็นพิษนอกจากนี้ยังมี
หลักฐานของการมีส่วนร่วมจากไอระเหยหรือสารเคมีละอองที่ไม่ควรมองข้าม ในขณะที่การติดต่อโรคผิวหนัง
เป็นหนึ่งในที่พบมากที่สุดและเป็นที่เข้าใจการประกอบอาชีพ
โรค, การเพิ่มความตระหนักเกี่ยวกับระบบที่มีศักยภาพ
การเปิดรับผลกระทบต่อไปนี้เพื่อผิวสารเคมีนอกจากนี้ยังมีความสำคัญในการประกอบอาชีพ ไม่เพียง แต่การสัมผัสผิวหนังจะมี
ศักยภาพที่จะนำไปสู่ภาระร่างกายรวมของสารเคมี แต่
ยังผิวหนังเป็นอวัยวะที่ใช้งานทางชีวภาพสูงความสามารถในการ
เผาผลาญสารเคมีและการเริ่มต้นของน้ำตกที่เกิดจากเหตุการณ์ภูมิคุ้มกันอาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์ใน
ระบบอวัยวะอื่น ๆ .
คนงานควรจะตระหนักถึงไม่เพียง แต่อันตรายที่เกี่ยวข้องกับสารเคมีในสภาพแวดล้อมของพวกเขา แต่ยังของเงื่อนไขที่มีแนวโน้มที่จะเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมของระบบ
สารเคมีเหล่านี้ ปัจจัยต่างๆเช่นการล้างมือมากเกินไป, การใช้งาน
ของมือ sanitizers ความถี่สูงในการทำงานเปียกการสัมผัสกับ
สารเคมีที่ผสมหรือสวมถุงมืออุดตันสามารถเปลี่ยน
ความสมบูรณ์หรือการทำงานของผิวและมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้าง
การเจาะสารเคมีหรืออาการแพ้ที่มีอิทธิพลต่อเพิ่มเติม
ทางชีวภาพ . การตอบสนอง
ผลงานผู้เขียน
เขียนร่างแรกของต้นฉบับ: SEA ส่วนร่วมใน
การเขียนต้นฉบับ: SEA, BJM ทำที่สำคัญ
การแก้ไขและได้รับการอนุมัติรุ่นสุดท้าย: SEA, BJM ทั้งผู้เขียน
ตรวจสอบและอนุมัติจากต้นฉบับสุดท้าย SEA, BJM

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ตัวเลขจะเพิ่มขึ้นด้วยการเพิ่มหมายเลข
ของสารเคมีที่ใช้ ผิวหนังและการสูดดมเป็นสองเส้นทางที่พบมากที่สุดในการเคมี ในอดีต
ความพยายามได้มุ่งควบคุมการหายใจการ ;
แต่ผลงานของการสัมผัสผิวในการพัฒนา
ของโรคสามารถรับรู้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการศึกษาเป็นจุดเริ่มต้นเพื่อแสดงให้เห็นถึงการสนับสนุน
ผิวเปิดรับการพัฒนาของระบบทางเดินหายใจและสมรรถภาพปอดพบการเปลี่ยนแปลง . ผิวหนังเป็นอวัยวะที่ใหญ่ที่สุด
ของร่างกาย และในขณะที่สารเคมีระเหยน้อยลง รู้จัก
ตรงเจาะผิวหนังเพื่อก่อให้เกิดความเป็นพิษ ยังมี
หลักฐานสนับสนุนจากไอระเหยหรือสารเคมีละอองที่ไม่ควรมองข้าม ในขณะที่ผิวหนังอักเสบติดต่อ
เป็นหนึ่งในที่พบมากที่สุดและดีเข้าใจ โรคจากการประกอบอาชีพ
, การเพิ่มความตระหนักเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อระบบ
ผิวสัมผัสกับสารเคมีเป็นอาชีพสำคัญ ไม่เพียงไม่สัมผัสผิวหนังมี
ศักยภาพในการมีส่วนร่วมในภาระของร่างกายทั้งหมดของสารเคมีแต่
ยังผิวเป็นอวัยวะที่ใช้งานทางชีวภาพสูงความสามารถในการเผาผลาญทางเคมีและการเริ่มต้นของ
น้ำตกของเหตุการณ์ทางภูมิคุ้มกัน อาจนำไปสู่ผลที่ไม่พึงประสงค์ใน

ระบบอวัยวะอื่น ๆคนงานควรตระหนักไม่เพียง แต่อันตรายที่เกี่ยวข้องกับสารเคมีในสิ่งแวดล้อมของพวกเขา แต่ยังเงื่อนไขที่มีแนวโน้มที่จะเพิ่มการดูดซึม systemic ของ
สารเคมีเหล่านี้ ปัจจัย เช่น การล้างมือ ใช้
ของมือ sanitizers , ความถี่สูงทำงานเปียก เปิดรับ
ผสมสารเคมี หรือสวมถุงมือทันตกรรมบดเคี้ยวสามารถเปลี่ยน
ความสมบูรณ์หรือการทำงานของผิวและมีบทบาทในการส่งเสริม
เจาะหรือพบเคมีมีอิทธิพลต่อการตอบสนองทางชีวภาพเพิ่มเติม

.
ผลงานผู้เขียนเขียนร่างแรกของต้นฉบับ : ทะเล ส่วน
เพื่อเขียนต้นฉบับ : ทะเล , bjm . ทำให้การแก้ไขวิกฤต
และได้รับรุ่นสุดท้าย : ทะเล , bjm . ทั้งผู้เขียน
ตรวจสอบและยอมรับของบทความสุดท้ายทะเล , bjm .