CHAPTER IILONDON TRANSIT BOMBING On

CHAPTER II
LONDON TRANSIT BOMBING
On July 7, 2005, during the morning commute, four separate bombs were detonated on the London mass transit system, killing 56 people(including the 4 suicide bombers) and injuring over 700 others. It marked the deadliest attack on British soil since World War II. The coordinated attack was carried out by four British citizens, allegedly in retaliation for British involvement in the U.S. invasions of Iraq and Afghanistan. Lack of effective intelligence and insufficient deterrence and detection strategies were blamed for allowing this disaster to occur.
……….By the end of the twentieth century, the United Kingdom and the city of London had become familiar with the threat of terrorism from decades of violence over the political status of Northern Ireland. The attacks against the United States on September 11, 2001, however, presented British authorities with the prospect of internationally based, mass-casualty terrorism, a threat encountered only once before in the United Kingdom, with the 1988 bombing of Pan Am Flight 103 over Lockerbie, Scotland.
………British officials quickly began altering the nation's intelligence, law enforcement, and emergency response systems in an effort to ensure the safety of its citizens under the new paradigm of Islamist terrorism. Several pieces of legislation were ratified by the British Parliament and members of the British intelligence community, such as the Security

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทที่สองการทิ้งระเบิดขนส่งลอนดอน บน 7 กรกฎาคม 2005 ในระหว่างการเดินทางเช้า สี่แยกระเบิดได้ระเบิดในระบบขนส่งมวลชนลอนดอน ฆ่า 56 คน (รวมถึงเครื่องบินทิ้งระเบิดฆ่าตัวตาย 4) และบาดเจ็บมากกว่า 700 คน จะทำเครื่องหมายโจมตีพรึงดินอังกฤษตั้งแต่สงครามโลก การโจมตีประสานดำเนินการ โดยชาวอังกฤษสี่ กล่าวในแก้แค้นอังกฤษมีส่วนร่วมในการรุกรานสหรัฐอเมริกาอิรักและอัฟกานิสถาน ขาดปัญญาที่มีประสิทธิภาพ และพอผ่าน และตรวจสอบกลยุทธ์ถูกตำหนิสำหรับการอนุญาตนี้ภัยพิบัติเกิดขึ้น... .By ปลายศตวรรษที่ยี่สิบ สหราชอาณาจักรและเมืองลอนดอนได้กลายเป็นคุ้นเคยกับภัยคุกคามของการก่อการร้ายจากทศวรรษความรุนแรงมากกว่าสถานะทางการเมืองของไอร์แลนด์เหนือ การโจมตีสหรัฐเมื่อ 11 กันยายน 2001 อย่างไรก็ตาม แสดงอำนาจของอังกฤษ ด้วยโอกาสของประเทศจาก วินาศภัยมวลการก่อการร้าย การคุกคามที่พบเพียงครั้งเดียวก่อนในสหราชอาณาจักร กับ 1988 การทิ้งระเบิดของ Pan Am เที่ยวบิน 103 ผ่าน Lockerbie สกอตแลนด์……… เจ้าหน้าที่อังกฤษขึ้นอย่างรวดเร็วเปลี่ยนข่าวกรองของประเทศ กฎหมาย และระบบฉุกเฉินเพื่อความปลอดภัยของพลเมืองภายใต้กระบวนทัศน์ใหม่ของการก่อการร้ายอิสลาม กฎหมายหลายชิ้นได้ลงสัตยาบัน โดยรัฐสภาอังกฤษและสมาชิกของชุมชนข่าวกรองอังกฤษ เช่นความปลอดภัย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทที่สอง
LONDON TRANSIT ระเบิด
7 กรกฏาคม 2005 ในระหว่างการเดินทางตอนเช้าระเบิดสี่แยกเป็นระเบิดบนลอนดอนระบบขนส่งมวลชนฆ่า 56 คน (รวมทั้ง 4 ระเบิดพลีชีพ) และบาดเจ็บกว่า 700 คนอื่น ๆ มันเป็นเรื่องคอขาดบาดตายโจมตีบนแผ่นดินอังกฤษตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง การโจมตีประสานงานได้ดำเนินการโดยสี่ชาวอังกฤษที่ถูกกล่าวหาว่าในการตอบโต้การมีส่วนร่วมของอังกฤษในการรุกรานอิรักของสหรัฐและอัฟกานิสถาน ขาดปัญญาที่มีประสิทธิภาพและเพียงพอป้องปรามและการตรวจสอบกลยุทธ์การถูกกล่าวหาว่าเพื่อให้ภัยพิบัตินี้จะเกิดขึ้น.
......... .By ท้ายของศตวรรษที่ยี่สิบ, สหราชอาณาจักรและเมืองลอนดอนได้กลายเป็นที่คุ้นเคยกับภัยคุกคามของการก่อการร้ายจากทศวรรษที่ผ่านมาของ ความรุนแรงมากกว่าสถานะทางการเมืองของไอร์แลนด์เหนือ การโจมตีกับสหรัฐอเมริกาในวันที่ 11 กันยายน 2001 แต่นำเสนอเจ้าหน้าที่ตำรวจอังกฤษกับโอกาสของการตามต่างประเทศก่อการร้ายมวลอุบัติเหตุเป็นภัยคุกคามที่พบเพียงครั้งเดียวก่อนในสหราชอาณาจักรกับ 1988 การระเบิดของแพนแอมเที่ยวบินที่ 103 เหนือ Lockerbie สกอตแลนด์.
......... เจ้าหน้าที่อังกฤษได้อย่างรวดเร็วเริ่มเปลี่ยนแปลงหน่วยสืบราชการลับของประเทศที่การบังคับใช้กฎหมายและระบบการตอบสนองฉุกเฉินในความพยายามที่จะมั่นใจในความปลอดภัยของประชาชนที่อยู่ภายใต้กระบวนทัศน์ใหม่ของการก่อการร้ายอิสลาม หลายชิ้นของกฎหมายที่ได้รับการยอมรับจากรัฐสภาอังกฤษและสมาชิกของชุมชนข่าวกรองอังกฤษเช่นการรักษาความปลอดภัย