OverviewMedications can play a role

Overview

Medications can play a role in treating several mental disorders and conditions. Treatment may also include psychotherapy (also called “talk therapy”) and brain stimulation therapies (less common). In some cases, psychotherapy alone may be the best treatment option. Choosing the right treatment plan should be based on a person's individual needs and medical situation, and under a mental health professional’s care.

The National Institute of Mental Health (NIMH), a Federal research agency, does not provide medical advice or referrals. Resources that may help you find treatment services in your area are listed on our Help for Mental Illnesses web page.

NIMH also does not endorse or recommend any particular drug, herb, or supplement. Results from NIMH-supported clinical research trials (What are Clinical Research Trials?) that examine the effectiveness of treatments, including medications, are reported in the medical literature. This health topic webpage is intended to provide basic information about mental health medications. It is not a complete source for all medications available and should not be used as a guide for making medical decisions.

Information about medications changes frequently. Check the U.S. Food and Drug Administration (FDA) website for the latest warnings, patient medication guides, or newly approved medications. Brand names are not referenced on this page, but you can search by brand name on MedlinePlus Drugs, Herbs and Supplements Drugs website. The MedlinePlus website also provides additional information about each medication, including side effects and FDA warnings.

Understanding Your Medications

If you are prescribed a medication, be sure that you:

Tell the doctor about all medications and vitamin supplements you are already taking.
Remind your doctor about any allergies and any problems you have had with medicines.
Understand how to take the medicine before you start using it and take your medicine as instructed.
Don't take medicines prescribed for another person or give yours to someone else.
Call your doctor right away if you have any problems with your medicine or if you are worried that it might be doing more harm than good. Your doctor may be able to adjust the dose or change your prescription to a different one that may work better for you.
Report serious side effects to the FDA MedWatch Adverse Event Reporting program online at http://www.fda.gov/Safety/MedWatch ] or by phone [1-800-332-1088]. You or your doctor may send a report.
Antidepressants

What are antidepressants?

Antidepressants are medications commonly used to treat depression. Antidepressants are also used for other health conditions, such as anxiety, pain and insomnia. Although antidepressants are not FDA-approved specifically to treat ADHD, antidepressants are sometimes used to treat ADHD in adults.

The most popular types of antidepressants are called selective serotonin reuptake inhibitors (SSRIs). Examples of SSRIs include:

Fluoxetine
Citalopram
Sertraline
Paroxetine
Escitalopram
Other types of antidepressants are serotonin and norepinephrine reuptake inhibitors (SNRIs). SNRIs are similar to SSRIs and include venlafaxine and duloxetine.

Another antidepressant that is commonly used is bupropion. Bupropion is a third type of antidepressant which works differently than either SSRIs or SNRIs. Bupropion is also used to treat seasonal affective disorder and to help people stop smoking.

SSRIs, SNRIs, and bupropion are popular because they do not cause as many side effects as older classes of antidepressants, and seem to help a broader group of depressive and anxiety disorders. Older antidepressant medications include tricyclics, tetracyclics, and monoamine oxidase inhibitors (MAOIs). For some people, tricyclics, tetracyclics, or MAOIs may be the best medications.

How do people respond to antidepressants?

According to a research review by the Agency for Healthcare Research and Quality , all antidepressant medications work about as well as each other to improve symptoms of depression and to keep depression symptoms from coming back. For reasons not yet well understood, some people respond better to some antidepressant medications than to others.

Therefore, it is important to know that some people may not feel better with the first medicine they try and may need to try several medicines to find the one that works for them. Others may find that a medicine helped for a while, but their symptoms came back. It is important to carefully follow your doctor’s directions for taking your medicine at an adequate dose and over an extended period of time (often 4 to 6 weeks) for it to work.

Once a person begins taking antidepressants, it is important to not stop taking them without the help of a doctor. Sometimes people taking antidepressants feel better and stop taking the medication too soon, and the depression may return. When it is time to stop the medication, the doctor will help the person sl

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ภาพรวมยามีบทบาทในการรักษาความผิดปกติทางจิตและเงื่อนไขต่าง ๆ การรักษาอาจรวมถึงจิตแพทย์ที่ (เรียกว่า "สารบำบัด") และสมองกระตุ้นบำบัด (ไม่นิยม) ในบางกรณี จิตแพทย์คนเดียวอาจเป็นตัวเลือกการรักษาที่ดีที่สุด เลือกแผนการรักษาที่เหมาะสมควรหยุดใช้ของคนแต่ละคนและสถานการณ์ทางการแพทย์ และภาย ใต้การดูแลของมืออาชีพด้านสุขภาพจิตสุขภาพแห่งชาติสถาบันของจิต (NIMH), หน่วยงานแบบงานวิจัย ไม่มีการแนะนำหรืออ้างอิง ทรัพยากรที่อาจช่วยคุณค้นหาการรักษาและบริการในพื้นที่ของคุณอยู่บนวิธีโรคจิตเว็บเพจNIMH ยังไม่รับรอง หรือแนะนำใด ๆ เฉพาะยา สมุนไพร หรืออาหารเสริม ผลลัพธ์จากการทดลองวิจัยทางคลินิกสนับสนุน NIMH (ทดลองวิจัยมีอะไรบ้าง) ที่ตรวจสอบประสิทธิผลของการรักษา ยา รวมทั้ง มีรายงานในเอกสารข้อมูลทางการแพทย์ หน้าเว็บหัวข้อสุขภาพนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับยาสุขภาพจิต มันไม่ใช่แหล่งที่สมบูรณ์สำหรับการใช้ยาทั้งหมด และไม่ควรใช้เป็นแนวทางการตัดสินใจทางการแพทย์ข้อมูลเกี่ยวกับยาที่เปลี่ยนแปลงบ่อย ตรวจสอบอาหารและยา (FDA) เว็บไซต์สำหรับคำเตือนล่าสุด แนะนำการใช้ยาผู้ป่วย หรือยาใหม่อนุมัติ ชื่อแบรนด์ไม่ได้อ้างถึงในหน้านี้ แต่คุณสามารถค้นหา โดยชื่อตราสินค้าบนเว็บไซต์ MedlinePlus ยา สมุนไพร และอาหารเสริมยา นอกจากนี้เว็บไซต์ MedlinePlus นอกจากนี้ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแต่ละยา ผลข้างเคียงและ FDA เตือนทำความเข้าใจเกี่ยวกับยาของคุณถ้าคุณมีกำหนดยา ที่คุณ:แจ้งแพทย์เกี่ยวกับยาและวิตามินได้ถ่ายทั้งหมดเตือนแพทย์เกี่ยวกับอาการแพ้ใด ๆ และปัญหาใด ๆ ที่คุณมีกับยาเข้าใจวิธีการใช้ยาก่อนที่คุณเริ่มใช้ และแพทย์ของคุณตามคำแนะนำไม่ใช้ยาที่กำหนดสำหรับบุคคลอื่น หรือให้คุณแก่คนอื่นติดต่อแพทย์ทันที ถ้าคุณมีปัญหาใด ๆ กับแพทย์ของคุณ หรือ ถ้าคุณเป็นห่วงว่า มันอาจทำอันตรายมากกว่าดี แพทย์อาจปรับขนาดยา หรือเปลี่ยนใบสั่งยาไปอื่นที่อาจทำงานได้ดีสำหรับคุณรายงานผลข้างเคียงร้ายแรงให้ FDA MedWatch ร้ายเหตุการณ์รายงานโปรแกรม http://www.fda.gov/Safety/MedWatch] หรือ ทางโทรศัพท์ [1-800-332-1088] คุณหรือแพทย์อาจส่งรายงานผู้ป่วยผู้ป่วยมีอะไรบ้างผู้ป่วยมียาที่ใช้รักษาภาวะซึมเศร้า ผู้ป่วยยังใช้เงื่อนไขสุขภาพอื่น ๆ เช่นความวิตกกังวล ความเจ็บปวด และนอนไม่หลับ แม้ว่าผู้ป่วยจะไม่ FDA อนุมัติโดยเฉพาะการรักษาเด็กสมาธิสั้น ผู้ป่วยบางครั้งใช้รักษาสมาธิสั้นในผู้ใหญ่ชนิดที่นิยมมากที่สุดของผู้ป่วยเรียกว่าสารยับยั้งติเลือกเลือกเก็บโปรตีน (กลุ่ม SSRIs) ตัวอย่างของกลุ่ม SSRIs:๑ Citalopram เซอร์ทราลีน Paroxetine Escitalopram ชนิดอื่น ๆ ของผู้ป่วยมี serotonin และ norepinephrine เลือกเก็บโปรตีนสารยับยั้ง (SNRIs) SNRIs จะคล้ายกับกลุ่ม SSRIs และ venlafaxine และ duloxetine ต้านอาการซึมเศร้าอื่นที่ใช้บ่อยคือ bupropion Bupropion เป็นชนิดที่สามของการต้านอาการซึมเศร้าซึ่งทำงานต่างกลุ่ม SSRIs หรือ SNRIs Bupropion ยังใช้ใน การรักษาโรค affective ตามฤดูกาล และ เพื่อช่วยให้ผู้ที่หยุดสูบบุหรี่กลุ่ม SSRIs, SNRIs และ bupropion เป็นที่นิยมเนื่องจากจะไม่เกิดผลข้างเคียงมากเป็นชั้นเก่าของผู้ป่วย และดูเหมือนจะ ช่วยกลุ่มกว้างขึ้นของโรคซึมเศร้าและความวิตกกังวล ยาต้านอาการซึมเศร้าเก่าได้แก่ tricyclics, tetracyclics และ monoamine oxidase inhibitors (MAOIs) สำหรับบางคน tricyclics, tetracyclics หรือ MAOIs อาจเป็นยาที่ดีที่สุดวิธีทำตอบคนผู้ป่วยได้อย่างไรตามรีวิววิจัยโดยหน่วยงานวิจัยสุขภาพและคุณภาพ ยาต้านอาการซึมเศร้าทั้งหมดทำงานเกี่ยวกับการรวมกัน เพื่อปรับปรุงอาการของภาวะซึมเศร้า และทำให้อาการซึมเศร้าอีก เหตุผลดี ยังไม่เข้าใจ บางคนตอบสนองดีกว่าไปบางยาต้านอาการซึมเศร้ามากกว่าผู้อื่นดังนั้น คุณจึงทราบว่า บางคนอาจไม่รู้สึกดีขึ้น ด้วยยาแรกพวกเขาลอง และอาจต้องลองยาหลายเพื่อค้นหาวิธีที่ดีสำหรับพวกเขา คนอื่น ๆ อาจพบว่า ยาช่วยในขณะ แต่อาการของพวกเขากลับมา จะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์สำหรับการแพทย์ของคุณ ที่มีปริมาณเพียงพอ และมีระยะเวลา (มักจะ 4-6 สัปดาห์) ให้ขยายทำงานเมื่อคนเริ่มรับผู้ป่วย มันจะต้องหยุดการถ่ายภาพ โดยความช่วยเหลือของแพทย์ บางครั้งผู้คนผู้ป่วยรู้สึกดีขึ้น และหยุดใช้ยาเร็วเกินไป และภาวะซึมเศร้าอาจส่งคืน เมื่อถึงเวลาหยุดยา แพทย์จะช่วยให้บุคคล sl

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ภาพรวมของยาสามารถมีบทบาทในการรักษาความผิดปกติทางจิตหลายและเงื่อนไข การรักษายังอาจรวมถึงจิตบำบัด (ที่เรียกว่า "พูดคุยบำบัด") และการบำบัดกระตุ้นสมอง (น้อย) ในบางกรณีจิตบำบัดเพียงอย่างเดียวอาจเป็นตัวเลือกที่รักษาที่ดีที่สุด เลือกวางแผนการรักษาที่เหมาะสมควรอยู่บนพื้นฐานความต้องการของแต่ละบุคคลและสถานการณ์ทางการแพทย์และภายใต้การดูแลมืออาชีพสุขภาพจิตของ. สถาบันสุขภาพจิตแห่งชาติ (NIMH) ซึ่งเป็นหน่วยงานวิจัยแห่งชาติไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์หรือการอ้างอิง ทรัพยากรที่อาจช่วยให้คุณค้นหาบริการการรักษาในพื้นที่ของคุณมีการระบุไว้ในการช่วยเหลือของเราสำหรับหน้าเว็บจิตโรค. NIMH ยังไม่รับรองหรือแนะนำยาเสพติดโดยเฉพาะอย่างยิ่งสมุนไพรหรืออาหารเสริมใด ๆ ผลจากการ NIMH สนับสนุนการทดลองวิจัยทางคลินิก (อะไรคือการทดลองวิจัยทางคลินิก?) ที่ตรวจสอบประสิทธิภาพของการรักษารวมทั้งยาที่มีการรายงานในวรรณกรรมทางการแพทย์ หน้าเว็บหัวข้อสุขภาพนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับยาสุขภาพจิต มันไม่ได้เป็นที่สมบูรณ์สำหรับยาทั้งหมดที่มีอยู่และไม่ควรนำมาใช้เป็นแนวทางในการตัดสินใจทางการแพทย์. ข้อมูลเกี่ยวกับยาเปลี่ยนแปลงบ่อย ตรวจสอบเว็บไซต์อาหารและยาสหรัฐ (FDA) สำหรับคำเตือนล่าสุด, คู่มือการใช้ยาของผู้ป่วยหรือได้รับการอนุมัติยาใหม่ ชื่อแบรนด์ไม่ได้อ้างถึงในหน้านี้ แต่คุณสามารถค้นหาโดยใช้ชื่อแบรนด์ยาเสพติด MedlinePlus สมุนไพรและอาหารเสริมยาเสพติดเว็บไซต์ เว็บไซต์ MedlinePlus ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้ยาแต่ละครั้งรวมถึงผลข้างเคียงและคำเตือนองค์การอาหารและยา. ทำความเข้าใจเกี่ยวกับยาของคุณหากคุณกำลังกำหนดยาให้แน่ใจว่าคุณ: . แจ้งให้แพทย์เกี่ยวกับยาและอาหารเสริมวิตามินคุณมีอยู่แล้วการเตือนแพทย์ของคุณ เกี่ยวกับอาการแพ้ใด ๆ และปัญหาใด ๆ ที่คุณมีกับยา. เข้าใจวิธีการใช้ยาก่อนที่จะเริ่มใช้มันและใช้ยาตามคำสั่งของคุณ. ไม่ได้ใช้ยาที่กำหนดไว้สำหรับบุคคลอื่นหรือให้คุณกับคนอื่น. โทรเรียกหมอขวาของคุณ ไปถ้าคุณมีปัญหาใด ๆ กับยาของคุณหรือถ้าคุณมีความกังวลว่ามันอาจจะทำอันตรายมากกว่าดี แพทย์ของคุณอาจจะสามารถปรับขนาดยาหรือเปลี่ยนตามใบสั่งของคุณเป็นคนหนึ่งที่แตกต่างกันที่อาจทำงานได้ดีขึ้นสำหรับคุณ. รายงานผลข้างเคียงร้ายแรงไปยังโปรแกรม FDA MedWatch รายงานเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ทางออนไลน์ที่ http://www.fda.gov/Safety/ MedWatch] หรือทางโทรศัพท์ [1-800-332-1088] คุณหมอของคุณอาจส่งรายงาน. Antidepressants อะไรคือซึมเศร้า? ซึมเศร้าจะมียาที่ใช้กันทั่วไปในการรักษาภาวะซึมเศร้า ซึมเศร้านอกจากนี้ยังใช้สำหรับเงื่อนไขสุขภาพอื่น ๆ เช่นความวิตกกังวลปวดและนอนไม่หลับ แม้ว่าซึมเศร้าไม่ได้รับอนุมัติจาก FDA โดยเฉพาะในการรักษาโรคซึมเศร้าบางครั้งจะใช้ในการรักษาโรคสมาธิสั้นในผู้ใหญ่. ประเภทที่นิยมที่สุดของซึมเศร้าจะเรียกว่า serotonin เลือกเก็บโปรตีน (SSRIs) ตัวอย่างของกลุ่ม SSRIs รวมถึง: Fluoxetine Citalopram Sertraline Paroxetine escitalopram ประเภทอื่น ๆ ซึมเศร้าจะ serotonin และ norepinephrine reuptake ยับยั้ง (SNRIs) SNRIs มีความคล้ายคลึงกับกลุ่ม SSRIs และรวมถึง venlafaxine และ duloxetine. ยากล่อมประสาทที่ใช้กันทั่วไปก็คือ bupropion bupropion เป็นชนิดที่สามของยากล่อมประสาทที่ทำงานแตกต่างกันกว่าทั้งกลุ่ม SSRIs หรือ SNRIs bupropion นอกจากนี้ยังใช้ในการรักษาโรคอารมณ์ตามฤดูกาลและจะช่วยให้คนเลิกสูบบุหรี่. SSRIs, SNRIs และ bupropion เป็นที่นิยมเพราะพวกเขาไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงมากที่สุดเท่าที่เป็นชั้นเรียนเก่าของซึมเศร้าและดูเหมือนจะช่วยให้กลุ่มที่กว้างขึ้นของภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวล ความผิดปกติ ยากล่อมประสาทที่เก่ากว่า ได้แก่ tricyclics, tetracyclics และสารยับยั้งเอนไซม์ monoamine (MAOIs) สำหรับบางคน tricyclics, tetracyclics หรือ MAOIs อาจจะเป็นยาที่ดีที่สุด. ทำอย่างไรคนตอบสนองต่อการซึมเศร้า? ตามการทบทวนการวิจัยโดยหน่วยงานเพื่อการวิจัยสุขภาพและคุณภาพยากล่อมประสาททุกคนทำงานเกี่ยวกับการเช่นเดียวกับแต่ละอื่น ๆ เพื่อปรับปรุงอาการ ของภาวะซึมเศร้าและเพื่อให้อาการซึมเศร้าจากการกลับมา สำหรับเหตุผลที่ยังไม่เข้าใจกันดีบางคนตอบสนองดีกว่ายากล่อมประสาทบางกว่าคนอื่น ๆ . ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะรู้ว่าบางคนอาจไม่รู้สึกดีขึ้นด้วยยาเป็นครั้งแรกที่พวกเขาพยายามและอาจต้องลองยาหลายที่จะหาคนที่ ที่ทำงานสำหรับพวกเขา คนอื่น ๆ อาจพบว่าเป็นยาช่วยในขณะที่ แต่อาการของพวกเขากลับมา มันเป็นสิ่งสำคัญอย่างรอบคอบทำตามคำแนะนำของแพทย์สำหรับการกินยาของคุณในปริมาณที่เพียงพอและในระยะเวลานานของเวลา (มักจะ 4-6 สัปดาห์) เพื่อให้การทำงาน. เมื่อคนเริ่มการซึมเศร้ามันเป็นสิ่งสำคัญที่จะไม่หยุดการ พวกเขาโดยปราศจากความช่วยเหลือของแพทย์ บางครั้งคนสละซึมเศร้ารู้สึกดีขึ้นและหยุดใช้ยาเร็วเกินไปและภาวะซึมเศร้าอาจจะกลับ เมื่อมันเป็นเวลาที่จะหยุดยาที่แพทย์จะช่วยให้คนที่ SL