Many institutions began to research

Many institutions began to research the algae, including the Carnegie Institution, the Rockefeller Foundation, the NIH, UC Berkeley, the Atomic Energy Commission, and Stanford University. Following World War II, many Europeans were starving, and many Malthusians attributed this not only to the war, but also to the inability of the world to produce enough food to support the increasing population. According to a 1946 FAO report, the world would need to produce 25 to 35% more food in 1960 than in 1939 to keep up with the increasing population, while health improvements would require a 90 to 100% increase.[3] Because meat was costly and energy-intensive to produce, protein shortages were also an issue. Increasing cultivated area alone would go only so far in providing adequate nutrition to the population. The USDA calculated that, to feed the U.S. population by 1975, it would have to add 200 million acres (800,000 km²) of land, but only 45 million were available. One way to combat national food shortages was to increase the land available for farmers, yet the American frontier and farm land had long since been extinguished in trade for expansion and urban life. Hopes rested solely on new agricultural techniques and technologies. Because of these circumstances, an alternative solution was needed.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หลายสถาบันเริ่มวิจัยสาหร่าย สถาบันคาร์เนกี มูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์ NIH เบิร์ กลีย์ UC คณะกรรมาธิการพลังงานปรมาณู และ มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ต่อไปนี้สงครามโลก ชาวยุโรปจำนวนมากถูกอดอยาก และ Malthusians ในบันทึกนี้ไม่เพียงแต่สงคราม แต่ยังไม่ในโลกสามารถผลิตอาหารให้เพียงพอเพื่อรองรับประชากรที่เพิ่มขึ้น รายงาน FAO 1946 โลกจะต้องผลิตอาหารเพิ่มมากขึ้น 25-35% ใน 1960 กว่าในการติดตามประชากรเพิ่มขึ้น ในขณะที่ปรับปรุงสุขภาพจะต้องมีการเพิ่มขึ้น 90-100% [3] เนื่องจากเนื้อมีค่าใช้จ่าย และพลังงานมากในการผลิต ขาดแคลนโปรตีนก็ยังเป็นปัญหา พื้นที่ปลูกเพิ่มขึ้นเพียงอย่างเดียวจะไปเพียงเพื่อให้ห่างไกลในการให้สารอาหารเพียงพอแก่ประชากร จากการคำนวณที่ เลี้ยงประชากรสหรัฐฯ โดย 1975 มันจะต้องเพิ่ม 200 ล้านเอเคอร์ (800000 km²) แต่เพียง 45 ล้านมี วิธีหนึ่งในการต่อสู้กับการขาดแคลนอาหารแห่งชาติคือการ เพิ่มที่ดินว่างสำหรับเกษตรกร ยังแผ่นดินชายแดนและฟาร์มอเมริกันได้ถูกยกเลิกในการค้าการขยายตัวเมืองนาน ความหวังคัดสรรแยกจากเทคนิคใหม่ทางการเกษตรและเทคโนโลยี ในโซลูชันสำรองจำเป็นเนื่องจากสถานการณ์เหล่านี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สถาบันการศึกษาหลายเริ่มการวิจัยสาหร่ายรวมทั้งสถาบันคาร์เนกีมูลนิธิกี้เฟลเลอร์, NIH, UC Berkeley, คณะกรรมาธิการพลังงานปรมาณูและ Stanford University หลังสงครามโลกครั้งที่สองเป็นชาวยุโรปจำนวนมากที่หิวโหยและอีกหลาย Malthusians มาประกอบนี้ไม่เพียง แต่จะทำสงคราม แต่ยังไร้ความสามารถของโลกในการผลิตอาหารเพียงพอที่จะรองรับประชากรที่เพิ่มขึ้น ตามการรายงานของ FAO 1946 โลกจะต้องผลิต 25-35% อาหารมากขึ้นกว่าในปี 1960 ในปี 1939 เพื่อให้ทันกับประชากรที่เพิ่มขึ้นในขณะที่การปรับปรุงสุขภาพจะต้องมีการเพิ่มขึ้น 90-100%. [3] เพราะเป็นเนื้อสัตว์ ค่าใช้จ่ายและพลังงานมากในการผลิต, การขาดแคลนโปรตีนนอกจากนี้ยังมีปัญหา การเพิ่มพื้นที่เพาะปลูกเพียงอย่างเดียวจะไปเพียงเพื่อให้ห่างไกลในการให้สารอาหารที่เพียงพอกับจำนวนประชากร USDA คำนวณว่าจะเลี้ยงประชากรสหรัฐโดยปี 1975 ก็จะมีการเพิ่ม 200 ล้านเอเคอร์ (800,000 กิโลเมตร²) แต่มีเพียง 45 ล้านที่มีอยู่ วิธีการหนึ่งที่จะต่อสู้กับปัญหาการขาดแคลนอาหารของชาติเพื่อเพิ่มที่ดินที่มีอยู่สำหรับเกษตรกรยังชายแดนอเมริกันและพื้นที่เพาะปลูกมานานตั้งแต่ดับในการค้าสำหรับการขยายตัวและการใช้ชีวิตในเมือง วางความหวัง แต่เพียงผู้เดียวในเทคนิคการเกษตรและเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพราะสถานการณ์เช่นนี้โซลูชั่นทางเลือกที่ถูกต้อง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หลายสถาบันเริ่มวิจัยสาหร่าย รวมทั้งสถาบันคาร์เนกีมูลนิธิทางการแพทย์ , ยา , UC Berkeley , คณะกรรมาธิการพลังงานปรมาณูและ Stanford University หลังจากสงครามโลกครั้งที่สอง ชาวยุโรปหลายคนอดอยาก และหลาย malthusians บันทึกนี้ไม่เพียง แต่เพื่อสงคราม แต่ยังไร้ความสามารถของโลกที่จะผลิตอาหารได้เพียงพอที่จะสนับสนุนการเพิ่มประชากรตามการรายงานของ FAO 1946 ที่ โลกจะต้องผลิตอาหาร 25 ถึง 35 % ในปี 1960 กว่าใน 2482 เพื่อให้ทันกับการเพิ่มประชากร ขณะที่การปรับปรุงสุขภาพจะต้องเป็น 90 100 % เพิ่มขึ้น . [ 3 ] เนื่องจากเนื้อมันแพง และพลังงานที่เข้มข้นในการผลิต ขาดโปรตีน คือ ยังเป็นปัญหาอยู่เพิ่มพื้นที่ปลูกคนเดียวมันจะไปเท่านั้น ดังนั้นไกลในการให้สารอาหารที่เพียงพอกับจำนวนประชากร USDA ได้นั้น เพื่อดึงประชากรสหรัฐโดย 1975 มันจะต้องเพิ่ม 200 ล้านเอเคอร์ ( 800000 km พนักงานขาย ) ของที่ดิน แต่เพียง 45 ล้านมี วิธีหนึ่งในการต่อสู้กับปัญหาการขาดแคลนอาหารแห่งชาติเพื่อเพิ่มที่ดินของเกษตรกรยังชายแดนอเมริกาและที่ดินมีความยาวตั้งแต่ถูกดับแสงในการค้าสำหรับการขยายตัวและชีวิตในเมือง หวังไว้เพียงเทคนิคทางการเกษตร และเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพราะสถานการณ์เหล่านี้โซลูชั่นทางเลือกที่เป็นที่ต้องการ