ไหว้ครูรำมวยจากวิกิพีเดีย สารานุกรม

ไหว้ครูรำมวย
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี


การรำไหว้ครูในกีฬามวยไทย
ไหว้ครูรำมวย เป็นการร่ายรำในกีฬามวยไทยเพื่อแสดงถึงความกตัญญูรู้คุณและความเคารพต่อครูมวย เป็นประเพณีที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาช้านาน เช่นเดียวกับวิชาการหลายแขนงของไทย ที่มักทำการไหว้ครูก่อน[1] และให้มีการสวมมงคลขณะทำการร่ายรำไหว้ครู เนื่องจากถือเป็นของศักดิ์สิทธิ์[2] ท่าที่นิยมทำการไหว้ครูมากที่สุดคือ พรหมสี่หน้า[1], หงส์เหิร, ยูงฟ้อนหาง, สอดสร้อยมาลา, พระรามแผลงศร, พยัคฆ์ตามกวาง, เสือลากหาง, สาวน้อยประแป้ง[2], ลับหอกโมกขศักดิ์ และกวางเหลียวหลัง ฯลฯ

การรำไหว้ครูเริ่มจากนั่ง กราบเบญจางคประดิษฐ์ คุกเข่าถวายบังคม ขึ้นพรหมนั่ง-ยืน ท่ารำมวย (อาจมีการเดินแปลง ย่างสามขุม การรูดเชือก การบริกรรมคาถา) เพื่อสำรวจ ทักทายหรือข่มขวัญซึ่งแตกต่างกันไปตามแต่ละค่าย หรือสำนัก โดยมีการบรรเลงดนตรีให้จังหวะในการต่อสู้ซึ่งใช้ "เพลงสะหระหม่าแขก" ใช้ในการไหว้ครู "เพลงบุหลันชกมวย" และ "เพลงเชิด" ใช้ในการต่อสู้ ส่วนเครื่องดนตรีไทยที่ใช้บรรเลงประกอบด้วย ปี่ชวา, กลองแขก และฉิ่ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ไหว้ครูรำมวยจากวิกิพีเดียสารานุกรมเสรีการรำไหว้ครูในกีฬามวยไทยไหว้ครูรำมวยเป็นการร่ายรำในกีฬามวยไทยเพื่อแสดงถึงความกตัญญูรู้คุณและความเคารพต่อครูมวยเป็นประเพณีที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาช้านานเช่นเดียวกับวิชาการหลายแขนงของไทยที่มักทำการไหว้ครูก่อน [1] และให้มีการสวมมงคลขณะทำการร่ายรำไหว้ครู [2] เนื่องจากถือเป็นของศักดิ์สิทธิ์ท่าที่นิยมทำการไหว้ครูมากที่สุดคือพรหมสี่หน้า [1], หงส์เหิร ยูงฟ้อนหาง สอดสร้อยมาลา พระรามแผลงศร พยัคฆ์ตามกวาง เสือลากหาง สาวน้อยประแป้ง [2] ลับหอกโมกขศักดิ์และกวางเหลียวหลังฯลฯการรำไหว้ครูเริ่มจากนั่งกราบเบญจางคประดิษฐ์คุกเข่าถวายบังคมขึ้นพรหมนั่งยืนท่ารำมวย (อาจมีการเดินแปลงย่างสามขุมการรูดเชือกการบริกรรมคาถา) เพื่อสำรวจทักทายหรือข่มขวัญซึ่งแตกต่างกันไปตามแต่ละค่ายหรือสำนักโดยมีการบรรเลงดนตรีให้จังหวะในการต่อสู้ซึ่งใช้ "เพลงสะหระหม่าแขก" ใช้ในการไหว้ครู "เพลงบุหลันชกมวย" และ "เพลงเชิด" ใช้ในการต่อสู้ส่วนเครื่องดนตรีไทยที่ใช้บรรเลงประกอบด้วยปี่ชวา กลองแขกและฉิ่ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

รำมวยไหว้ครูจากเนชั่วิกิพีเดีย เช่นเดียวกับวิชาการหลายแขนงของไทยที่มักทำการไหว้ครูก่อน [1] เนื่องจากถือเป็นของศักดิ์สิทธิ์ [2] พรหมสี่หน้า [1], หงส์เหิร, ยูงฟ้อนหาง, สอดสร้อยมาลา, พระรามแผลงศร, พยัคฆ์ตามกวาง, เสือลากหาง, สาวน้อยประแป้ง [2], ลับหอกโมกขศักดิ์และกวางเหลียวหลัง ฯลฯหัวเรื่อง: การรำไหว้ครูเริ่มจากเนชั่นั่งกราบเบญจางคประดิษฐ์คุกเข่า ถวายบังคมขึ้นพรหมนั่ง - ยืนท่ารำมวย (อาจมีการเดินแปลงย่างสามขุมการรูดเชือกการบริกรรมคาถา) เพื่อสำรวจ หรือสำนัก "เพลงสะหระหม่าแขก" ใช้ในการไหว้ครู "เพลงบุหลันชกมวย" และ "เพลงเชิด" ใช้ในการต่อสู้ ปี่ชวา, กลองแขกและฉิ่ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ไหว้ครูรำมวย




การรำไหว้ครูในกีฬามวยไทยจากวิกิพีเดียสารานุกรมเสรีไหว้ครูรำมวยเป็นการร่ายรำในกีฬามวยไทยเพื่อแสดงถึงความกตัญญูรู้คุณและความเคารพต่อครูมวยเป็นประเพณีที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาช้านานเช่นเดียวกับวิชาการหลายแขนงของไทยที่มักทำการไหว้ครูก่อน [ 1 ]เนื่องจากถือเป็นของศักดิ์สิทธิ์ [ 2 ] ท่าที่นิยมทำการไหว้ครูมากที่สุดคือพรหมสี่หน้า [ 1 ]หงส์เหิรยูงฟ้อนหางสอดสร้อยมาลาพระรามแผลงศร , , , พยัคฆ์ตามกวางเสือลากหางสาวน้อยประแป้ง , , , [ 2 ] , ลับหอกโมกขศักดิ์และกวางเหลียวหลังฯลฯ

การรำไหว้ครูเริ่มจากนั่งกราบเบญจางคประดิษฐ์คุกเข่าถวายบังคมขึ้นพรหมนั่ง - ยืนท่ารำมวย ( อาจมีการเดินแปลงย่างสามขุมการรูดเชือกการบริกรรมคาถา ) เพื่อสำรวจทักทายหรือข่มขวัญซึ่งแตกต่างกันไปตามแต่ละค่ายโดยมีการบรรเลงดนตรีให้จังหวะในการต่อสู้ซึ่งใช้ " เพลงสะหระหม่าแขก " ใช้ในการไหว้ครู " เพลงบุหลันชกมวย " และ " เพลงเชิด " ใช้ในการต่อสู้ปี่ชวาส่วนเครื่องดนตรีไทยที่ใช้บรรเลงประกอบด้วย ,กลองแขกและฉิ่ง