The location of this site is Wat Ma

The location of this site is Wat Mahathat in Ayutthaya. This ancient temple was built during the 14th century, but was reduced to ruins in 1767 when the Burmese army invaded Ayutthaya, the capital of Siam. The temple was destroyed by the Burmese who also vandalized many of the Buddha images in Ayutthaya by lopping off the heads. The area remained abandoned and overgrown until the 1950s when the Department of Fine art began restoration work in Ayutthaya. Nobody knows for certain how the Buddha head became entwined in the roots of the tree. One theory suggests that the tree simply grew around the Buddha head during the period when the temple lay abandoned and overgrown. Another theory is that a thief moved the Buddha head away from the main temple to hide it.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ที่ตั้งของเว็บไซต์นี้คือ วัดมหาธาตุในอยุธยา วัดโบราณสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษ 14 แต่ถูกลดลงเป็นซากปรักหักพังในปีพ.ศ. 2310 เมื่อพม่ารุกรานอยุธยา เมืองหลวงของสยาม วัดนี้ถูกทำลาย โดยพม่าที่ยัง vandalized จำนวนมากของพระพุทธรูปในพระนครศรีอยุธยา โดย lopping ปิดหัว พื้นที่ยังคงละทิ้ง และดิบจนกระทั่งถึงช่วงทศวรรษ 1950 เมื่อแผนกศิลปะเริ่มฟื้นฟูการทำงานในอยุธยา ไม่มีใครรู้แน่ว่าพระหัวกลายเป็น entwined ในรากของต้นไม้ ทฤษฎีหนึ่งแนะนำว่า ต้นไม้ก็เติบโตรอบหัวพระช่วงเมื่อวัดวางละทิ้ง และดิบ อีกทฤษฎีคือ ว่า ขโมยย้ายหัวพระจากวัดหลักเพื่อซ่อน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ตำแหน่งของเว็บไซต์นี้คือวัดมหาธาตุในอยุธยา วัดโบราณนี้ถูกสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 14 แต่ลดลงไปในซากปรักหักพัง 1767 เมื่อกองทัพพม่าบุกอยุธยาเป็นเมืองหลวงของสยาม วัดถูกทำลายโดยชาวพม่าที่ยังบุกมากของพระพุทธรูปในอยุธยาโดยการตัดหัวออก พื้นที่ที่ยังคงอยู่และถูกทอดทิ้งและรกจนปี 1950 เมื่อกรมศิลปะเริ่มงานบูรณะในอยุธยา ไม่มีใครรู้ว่าสำหรับบางวิธีเศียรพระพุทธรูปกลายเป็นที่ได้โอบแล้วในรากของต้นไม้ ทฤษฎีหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่าต้นไม้ก็ขยายตัวไปรอบเศียรพระพุทธรูปในช่วงเวลาเมื่อวางวัดที่ถูกทิ้งร้างและรก ทฤษฎีก็คือว่าขโมยย้ายเศียรพระพุทธรูปออกไปจากวัดหลักที่จะซ่อนมัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ตำแหน่งของเว็บไซต์นี้คือ วัดมหาธาตุ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา วัดโบราณแห่งนี้ ถูกสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 14 แต่ลดลงเหลือเพียงซากปรักหักพังใน 1767 เมื่อกองทัพพม่าบุกกรุงศรีอยุธยา เมืองหลวงแห่งสยาม พระวิหารถูกทำลายโดยชาวพม่าที่ยังทำลายจำนวนมากของพระพุทธรูปในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยการตัดเฉือน ปิดหัวพื้นที่ยังคงถูกทอดทิ้งและรกจนปี 1950 เมื่อกรมศิลปากรเริ่มงานบูรณะ ใน พระนครศรีอยุธยา ไม่มีใครรู้แน่ว่าเศียรพระพุทธรูปกลายเป็นพัวพันในรากของต้นไม้ ทฤษฎีหนึ่งเสนอว่า ต้นไม้ก็เติบโตรอบเศียรพระพุทธรูป ในระหว่างรอบระยะเวลาเมื่อวัดวางทิ้งร้างและรกชัฏ .อีกทฤษฎีหนึ่งก็ว่าเป็นโจรยกเศียรพระพุทธรูป ออกไปจากวัดหลักที่จะซ่อนมัน