In order to select the best managem

In order to select the best management approach, a
frequent use of imaging studies or even needle aspiration
may be required. The role of radiological imaging has been
considered in some studies [24]. The American Society of
Colon and Rectal Surgeons advocate the use of computed
tomography (CT) scans and MRI among selected patients
to help define anatomy and guide management, grade of
recommendation: strong recommendation based on lowquality
evidence 1C [25]. The use of CT scans can be
helpful in the diagnosis of complex supralevator abscess,cases that require examination under general anesthesia,
when the diagnosis is unclear and when the extent of the
disease is difficult to ascertain [26, 27]. CT scans may also
be helpful in evaluating both superficial and deep fascia,
which can differentiate into necrotizing fasciitis from the
less aggressive soft tissue edema or cellulitis [28]. However,
MRI is now considered the predominant imaging
modality in the management of patients with complex
anorectal sepsis and is a powerful tool in the evaluation of
anatomical areas of involvement and subsequent appropriate
management [29, 30]. T1-weighted sequences of
MRI can provide information about the anatomical site of
sepsis, whereas the T2-weighted sequences with fat suppression
are more sensitive in detecting inflammation [31, 32].
The routine use of MRI may not be justifiable in patients
with simple or fluctuant perianal abscess. MRI should be
reserved for more complex cases, which are clinically not
apparent to exclude abscess formation and guide treatment

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เพื่อที่จะเลือกแนวทางการจัดการที่ดีที่สุด การใช้ของการศึกษาที่พบบ่อย หรือแม้แต่เข็มความทะเยอทะยานอาจต้องใช้ บทบาทของการถ่ายภาพเกี่ยวกับรังสีได้พิจารณาในบางการศึกษา [24] สมาคมอเมริกันลำไส้ใหญ่และทวารหนักหมอสนับสนุนการใช้คำนวณการสแกนคอมพิวเตอร์ (CT) และ MRI ในผู้ป่วยที่เลือกเพื่อช่วยกำหนดกายวิภาค และคู่มือการจัดการ เกรดของคำแนะนำ: แนะอิง lowqualityหลักฐาน 1C [25] การใช้ CT สแกนได้ประโยชน์ในการวินิจฉัยฝี supralevator ซับซ้อน กรณีที่ต้องการตรวจสอบภายใต้การดมยาสลบเมื่อการวินิจฉัยไม่ชัดเจน และเมื่อขอบเขตของการโรคยากต่อการตรวจสอบ [26, 27] CT สแกนยังอาจมีประโยชน์ในการประเมินพังผืดผิวเผิน และลึกซึ่งสามารถแยกความแตกต่างใน necrotizing fasciitis จากการสูงน้อยกว่าเนื้อเยื่ออ่อนบวมหรือ cellulitis [28] อย่างไรก็ตามMRI กำลังถือภาพเด่นmodality ในการจัดการผู้ป่วยที่มีซับซ้อนanorectal sepsis และเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการประเมินกายวิภาคพื้นที่ การมีส่วนร่วม และต่อมาที่เหมาะสมการจัดการ [29, 30] ลำดับที่เฉลี่ย T1 ของMRI สามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานกายวิภาคsepsis ในขณะที่ลำดับน้ำหนัก T2 กับไขมันปราบปรามสำคัญมากในการตรวจหาการอักเสบ [31, 32]ใช้ประจำของ MRI อาจอันสมควรในผู้ป่วยมีฝี perianal ง่ายหรือ fluctuant MRI ควรสำหรับกรณีที่ซับซ้อน ซึ่งทางคลินิกไม่ชัดเจนแยกก่อฝี และแนะนำการรักษา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เพื่อที่จะเลือกวิธีการจัดการที่ดีที่สุดที่มี
การใช้งานบ่อยของการศึกษาการถ่ายภาพหรือแม้กระทั่งความทะเยอทะยานเข็ม
อาจจะต้อง บทบาทของการถ่ายภาพรังสีได้รับการ
พิจารณาในบางการศึกษา [24] สังคมอเมริกันของ
ลำไส้ใหญ่และทวารหนักศัลยแพทย์สนับสนุนการใช้คำนวณ
เอกซ์เรย์ (CT) สแกน MRI และในกลุ่มผู้ป่วยที่เลือก
เพื่อช่วยกำหนดลักษณะทางกายวิภาคและให้คำแนะนำการจัดการเกรดของ
คำแนะนำ: คำแนะนำดีขึ้นอยู่กับ lowquality
หลักฐาน 1C [25] การใช้ CT สแกนสามารถเป็น
ประโยชน์ในการวินิจฉัยโรคฝี supralevator ซับซ้อนกรณีที่จำเป็นต้องมีการตรวจสอบภายใต้การดมยาสลบที่
เมื่อการวินิจฉัยยังไม่ชัดเจนและเมื่อขอบเขตของ
โรคเป็นเรื่องยากที่จะตรวจสอบให้แน่ใจ [26 27] CT สแกนนอกจากนี้ยังอาจ
จะเป็นประโยชน์ในการประเมินทั้งตื้นและลึกพังผืด
ซึ่งสามารถแตกต่างใน necrotizing fasciitis จาก
อาการบวมน้ำเนื้อเยื่อก้าวร้าวน้อยอ่อนหรือเซลลูไล [28] อย่างไรก็ตาม
MRI ขณะนี้ถือว่าถ่ายภาพเด่น
กิริยาในการจัดการของผู้ป่วยที่มีความซับซ้อน
บริเวณทวารหนักติดเชื้อและเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการประเมินผลของ
พื้นที่ทางกายวิภาคของการมีส่วนร่วมและมีความเหมาะสมที่ตามมา
จัดการ [29 30] ลำดับ T1 ถ่วงน้ำหนักของ
MRI สามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับเว็บไซต์ทางกายวิภาคของ
การติดเชื้อในขณะที่ลำดับ T2 น้ำหนักกับการปราบปรามไขมัน
มีความไวในการตรวจสอบการอักเสบ [31 32].
การใช้งานตามปกติของ MRI อาจจะไม่สมเหตุสมผลในผู้ป่วย
ที่มีความเรียบง่าย หรือฝี perianal fluctuant MRI ควรจะ
สงวนไว้สำหรับกรณีที่ซับซ้อนมากขึ้นซึ่งเป็นคลินิกที่ไม่
ชัดเจนที่จะไม่รวมการก่อฝีและแนวทางในการรักษา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เพื่อเลือกแนวทางที่ดีที่สุดการศึกษาการใช้บ่อยของภาพหรือแม้แต่เข็มอาจจะต้อง บทบาทของการถ่ายภาพรังสีได้พิจารณาในบางการศึกษา [ 24 ] สังคมอเมริกันของลําไส้ใหญ่ และทวารหนัก สนับสนุนการใช้คำนวณ ศัลยแพทย์เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ ( CT ) สแกน MRI ของผู้ป่วยและเพื่อช่วยกำหนดเกรดของกายวิภาคศาสตร์และการจัดการคู่มือคำแนะนำ : คำแนะนำที่แข็งแกร่งขึ้นอยู่กับ lowqualityหลักฐาน 1C [ 25 ] ใช้สแกน CT สามารถเป็นประโยชน์ในการวินิจฉัยของฝี supralevator ซับซ้อน กรณีที่ต้องตรวจสอบภายใต้ยาชาทั่วไปเมื่อการวินิจฉัยที่ชัดเจน และเมื่อขอบเขตของโรคที่ยากที่จะวินิจฉัย [ 26 , 27 ) ทำ CT scan ยังอาจเป็นประโยชน์ในการประเมินทั้งตื้นและลึก fasciaซึ่งสามารถแยกเป็น necrotizing fasciitis จากก้าวร้าวน้อยกว่าเนื้อเยื่อบวม หรือโรคผิวหนัง [ 28 ] อย่างไรก็ตามMRI คือตอนนี้ถือว่าภาพโดดกิริยาในการจัดการผู้ป่วยที่ซับซ้อนanorectal ดีขึ้น และเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการประเมินพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง และต่อมาที่เหมาะสมการจัดการ [ 29 , 30 ] ลำดับ T1 ถ่วงน้ำหนักMRI สามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับเว็บไซต์ที่ในส่วน T2 ถ่วงน้ำหนักการลำดับด้วยไขมันมีความไวในการตรวจหาการอักเสบ [ 31 , 32 )ใช้งานประจำของ MRI อาจไม่เป็นธรรมในผู้ป่วยกับง่ายหรือ fluctuant ฝีรอบทวารหนัก . MRI ควรจะไว้สำหรับกรณีที่ซับซ้อนมากขึ้น ซึ่งทางคลินิกไม่ได้แจ้งรวมฝีและคู่มือการรักษา