การศึกษาเรื่องปัจจัยที่มีผลต่อการเล

การศึกษาเรื่องปัจจัยที่มีผลต่อการเลือกซื้อผ้าอนามัยของผู้บริโภคในเขตหนองแขม กรุงเทพมหานคร มีวัตถุประสงค์เพื่อเพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการเลือกซื้อผ้าอนามัยของผู้บริโภคในเขตหนองแขม กรุงเทพมหานคร เพื่อศึกษาทัศนคติเกี่ยวกับการเลือกใช้ของผู้บริโภคในเขตหนองแขม กรุงเทพมหานคร และเพื่อศึกษาการรับรู้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับผ้าอนามัยของผู้บริโภคในเขตหนองแขม กรุงเทพมหานคร ข้อมูลที่ใช้ในการศึกษานั้นได้จากการสำรวจโดยแบบสอบถาม เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย และสถิติ ที่ใช้ได้ ร้อยละ (Percentage) และค่าเฉลี่ยเลขคณิต F-Test ผู้หญิง จำนวน 385 คน คิดเป็นร้อยละ100 ทั้งนี้กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีน้อยกว่า 30 ปี จำนวน 138 คน คิดเป็นร้อยละ 35.84 รองลงมาคือ อายุอยู่ระหว่าง 30-40 ปี จำนวน 204 คน คิดเป็นร้อยละ 52.99 และอายุอยู่ในช่วง 41-50 ปี จำนวน 43 คนคิดเป็นร้อยละ 11.17 ตามลำดับ มีสถานภาพโสด จำนวน 201 คน คิดเป็นร้อยละ 52.21 และมีสถานภาพสมรสจำนวน 184 คน คิดเป็นร้อยละ 47.79 ตามลำดับ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีการศึกษาอยู่ในระดับปริญญาตรี จำนวน 179 คน คิดเป็นร้อยละ 46.49 รองลงมาคือ มีการศึกษาอยู่ในระดับ สูงกว่าปริญญาตรี จำนวน 73 คนคิดเป็นร้อยละ 18.96 และมีการศึกษาอยู่ในระดับต่ำกว่าปริญญาตรีจำนวน 133 คน คิดเป็นร้อยละ 34.55 ตามลำดับ จากกลุ่มตัวอย่างทั้งหมดพบว่าส่วนประกอบอาชีพพนักงานเอกชน จำนวน 138 คิดเป็นร้อยละ 35.84 รองลงมาคือประกอบอาชีพ นักเรียนหรือ นักศึกษา จำนวน 47 คน คิดเป็นร้อยละ 12.21 มีอาชีพประกอบธุรกิจส่วนตัวจำนวน 40 คนคิดเป็นร้อยละ 10.39 ประกอบอาชีพ แม่บ้านจำนวน 24 คิดเป็นร้อยละ 6.23 ประกอบอาชีพรับจ้างจำนวน 88 คนคิดเป็นร้อยละ 22.86 และอาชีพข้าราชการ จำนวน48 คน คิดเป็นร้อยละ 12.47 ตามลำดับ และกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีรายได้ต่อเดือนน้อยกว่า 15,000 บาท จำนวน 154 คนคิดเป็นร้อยละ 40.00 รองลงมาคือมีรายได้อยู่ระหว่าง 15,000 -20,000 บาท จำนวน 92 คนคิดเป็นร้อยละ 23.90 มีรายได้อยู่ระหว่าง 20,001 - 25,000 บาท จำนวน 98 คนคิดเป็นร้อยละ 25.45 และมีรายได้มากกว่า 25,000 บาทจำนวน 41 คน คิดเป็นร้อยละ 10.65 ตามลำดับ
จากผลการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยที่มีผลต่อการเลือกซื้อผ้าอนามัยลอริเอะ กลุ่มตัวอย่างในเขตหนองแขม กรุงเทพมหานคร พบว่า ปัจจัยส่วนผสมทางการตลาด 4P’s โดยรวม จำแนกรายด้าน พบว่า ภาพรวม ( = 3.233 , S.D. = 1.210) ซึ่งอยู่ในระดับมาก มีการกระจายของข้อมูลในระดับปานกลาง และเมื่อพิจารณารายด้าน ๆ ที่มีค่าคะแนนสูงที่สุดคือ “ด้านการจัดจำหน่าย” ( = 3.950, S.D. = 0.807) ซี่งอยู่ในระดับและมีการกระจายของข้อมูลน้อย รองลงมาคือ “ด้านผลิตภัณฑ์” ( = 3.788, S.D. = 0.607) “ด้านการส่งเสริมทางการตลาด” ( = 3.690,S.D = 0.826) และด้านที่มีค่าคะแนนต่ำสุดคือ “ด้านราคา” ( = 3.559,S.D. = 0.613) ปัจจัยส่วนผสมทางการตลาด 4P’s พบว่าข้อที่มีค่าคะแนนสูงสุดคือ “แหล่งเลือกซื้อผ้าอนามัยที่ต้องการซื้อ” ( = 3.140,S.D. = 1.169) ซึ่งอยู่ในระดับปานกลาง และข้อที่มีค่าคะแนนต่ำสุดคือ “แนวโน้มในการเลือกใช้ผ้าอนามัยในอนาคต” ( = 1.600,S.D = 0.491) ซึ่งอยู่ในระดับเห็นด้วยน้อย ปัจจัยส่วนผสมทางการตลาด 4P’s พบว่าข้อที่มีค่าคะแนนสูงสุดคือ “ผ้าอนามัยทำให้เคลื่อนไหวได้สะดวก” ( = 4.280,S.D. = 0.997) ซึ่งอยู่ในระดับเห็นด้วยมาก และข้อที่มีค่าคะแนนต่ำสุดคือ “กาวติดแน่นดีเยี่ยม” ( = 3.380,S.D = 0.972) และ “การใช้วัถุดิบช่วยลดโลกร้อน” ( = 3.380,S.D = 0.849) ซึ่งอยู่ในระดับเห็นด้วยปานกลาง ปัจจัยส่วนผสมทางการตลาด 4P’s พบว่าข้อที่มีค่าคะแนนสูงสุดคือ “ความปลอดภัย” ( = 4.530,S.D. = 0.653) ซึ่งอยู่ในระดับเห็นด้วยมากที่สุด และข้อที่มีค่าคะแนนต่ำสุดคือ “ต้องการสนับสนุนโปรโมชั่น” ( = 3.390,S.D = 0.927) ซึ่งอยู่ในระดับเห็นด้วยปานกลาง ปัจจัยส่วนผสมทางการตลาด 4P’s พบว่าข้อที่มีค่าคะแนนสูงสุดคือ “ได้รับแจกสินค้าตัวอย่าง” ( = 3.380,S.D. = 0.996 ซึ่งอยู่ในระดับเห็นด้วยปานกลาง และข้อที่มีค่าคะแนนต่ำสุดคือ “บทความทางวิชาการ” ( = 3.310,S.D = 0.996) ซึ่งอยู่ในระดับเห็นด้วยปานกลาง
จากผลการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยที่มีผลต่อการเลือกซื้อผ้าอนามัยลอริเอะ กลุ่มตัวอย่างในเขตหนองแขม กรุงเทพมหานคร พบว่า ด้านผลิตภัณฑ์กับคุณลักษณะส่วนบุคคลโดยการทดสอบ F-Test พบว่า อายุ สถานภาพ การศึกษา อาชีพ รายได้ มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01,0.05 ตามลำดับ ด้านราคากับคุณลักษณะส่วนบุคคลโดยการทดสอบ F-Test พบว่า อายุ สถานภาพ การศึกษา อาชีพ รายได้ มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01,0.05 ตามลำดับ ด้านการจัดจำหน่ายกับคุณลักษณะส่วนบุคคลโดยการทดสอบ F-Test พบว่า อายุ การศึกษา รายได้ มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 และ0.05 ตามลำดับ ด้านสถานภาพ (S.S = 94.618,Df = 381,M.S. = 0.248) และ อาชีพ (S.S. = 773.820, D.f = 381,M.S = 2.031) มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ตามลำดับ
ด้านการส่งเสริมทางการตลาดกับคุณลักษณะส่วนบุคคลโดยการทดสอบ F-Test พบว่า อายุ การศึกษา รายได้ มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01,และ พบว่า สถานภาพ อาชีพ มีนัยสำคัญที่ระดับ 0.05 ตามลำดับ

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การศึกษาเรื่องปัจจัยที่มีผลต่อการเลือกซื้อผ้าอนามัยของผู้บริโภคในเขตหนองแขมไปมีวัตถุประสงค์เพื่อเพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการเลือกซื้อผ้าอนามัยของผู้บริโภคในเขตหนองแขมไปเพื่อศึกษาทัศนคติเกี่ยวกับการเลือกใช้ของผู้บริโภคในเขตหนองแขมกรุงเทพมหานครและเพื่อศึกษาการรับรู้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับผ้าอนามัยของผู้บริโภคในเขตหนองแขมไปข้อมูลที่ใช้ในการศึกษานั้นได้จากการสำรวจโดยแบบสอบถามเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยและสถิติที่ใช้ได้ร้อยละ (เปอร์เซ็นต์) และค่าเฉลี่ยเลขคณิตทดสอบผู้หญิงจำนวน 385 คนคิดเป็นร้อยละ100 ทั้งนี้กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีน้อยกว่า 30 ปีจำนวน 138 คนคิดเป็นร้อยละ 35.84 รองลงมาคืออายุอยู่ระหว่าง 30-40 ปีจำนวน 204 คนคิดเป็นร้อยละ 52.99 และอายุอยู่ในช่วง 41-50 ปีจำนวน 43 คนคิดเป็นร้อยละ 11.17 ตามลำดับมีสถานภาพโสดจำนวน 201 คนคิดเป็นร้อยละค้างรับ 52.21 และมีสถานภาพสมรสจำนวน 184 คนคิดเป็นร้อยละ 47.79 ตามลำดับกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีการศึกษาอยู่ในระดับปริญญาตรีจำนวน 179 คนคิดเป็นร้อยละ 46.49 รองลงมาคือมีการศึกษาอยู่ในระดับสูงกว่าปริญญาตรีจำนวน 73 คนคิดเป็นร้อยละ 18.96 และมีการศึกษาอยู่ในระดับต่ำกว่าปริญญาตรีจำนวน 133 คนคิดเป็นร้อยละ 34.55 ตามลำดับจากกลุ่มตัวอย่างทั้งหมดพบว่าส่วนประกอบอาชีพพนักงานเอกชนจำนวน 138 คิดเป็นร้อยละ 35.84 รองลงมาคือประกอบอาชีพนักเรียนหรือนักศึกษาจำนวน 47 คนคิดเป็นร้อยละ 12.21 มีอาชีพประกอบธุรกิจส่วนตัวจำนวน 40 คนคิดเป็นร้อยละ 10.39 ประกอบอาชีพแม่บ้านจำนวน 24 คิดเป็นร้อยละ 6.23 ประกอบอาชีพรับจ้างจำนวน 88 คนคิดเป็นร้อยละ 22.86 และอาชีพข้าราชการ จำนวน48 คนคิดเป็นร้อยละ 12.47 ตามลำดับและกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีรายได้ต่อเดือนน้อยกว่า 15,000 บาทจำนวน 154 คนคิดเป็นร้อยละ 40.00 รองลงมาคือมีรายได้อยู่ระหว่าง 15,000-20,000 บาทจำนวน 92 คนคิดเป็นร้อยละ 23.90 มีรายได้อยู่ระหว่าง 20,001-25,000 บาทต่อจำนวน 98 คนคิดเป็นร้อยละ 25.45 และมีรายได้มากกว่า 25,000 บาทจำนวน 41 คนคิดเป็นร้อยละ 10.65 ตามลำดับ จากผลการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยที่มีผลต่อการเลือกซื้อผ้าอนามัยลอริเอะกลุ่มตัวอย่างในเขตหนองแขมไปพบว่าปัจจัยส่วนผสมทางการตลาด 4P โดยรวมจำแนกรายด้านพบว่าภาพรวม (= 3.233, S.D. = 1.210) ซึ่งอยู่ในระดับมากมีการกระจายของข้อมูลในระดับปานกลางและเมื่อพิจารณารายด้านๆ ที่มีค่าคะแนนสูงที่สุดคือ "ด้านการจัดจำหน่าย" (= 3.950, S.D. = 0.807) ซี่งอยู่ในระดับและมีการกระจายของข้อมูลน้อยรองลงมาคือ "ด้านผลิตภัณฑ์" (= 3.788, S.D. = 0.607) "ด้านการส่งเสริมทางการตลาด" (= 3.690 ยาวพิเศษ = 0.826) และด้านที่มีค่าคะแนนต่ำสุดคือ "ด้านราคา" (3.559, S.D. = = 0.613) ปัจจัยส่วนผสมทางการตลาดพบว่าข้อที่มีค่าคะแนนสูงสุดคือ 4 P "แหล่งเลือกซื้อผ้าอนามัยที่ต้องการซื้อ" (= 3.140, S.D. = 1.169) ซึ่งอยู่ในระดับปานกลางและข้อที่มีค่าคะแนนต่ำสุดคือ "แนวโน้มในการเลือกใช้ผ้าอนามัยในอนาคต" (= 1.600 ยาวพิเศษ = 0.491) ซึ่งอยู่ในระดับเห็นด้วยน้อยปัจจัยส่วนผสมทางการตลาด 4P พบว่าข้อที่มีค่าคะแนนสูงสุดคือ "ผ้าอนามัยทำให้เคลื่อนไหวได้สะดวก" (= 4.280, S.D. = 0.997) ซึ่งอยู่ในระดับเห็นด้วยมากและข้อที่มีค่าคะแนนต่ำสุดคือ "กาวติดแน่นดีเยี่ยม" (= 3.380 ยาวพิเศษ = 0.972) และ "การใช้วัถุดิบช่วยลดโลกร้อน" (= 3.380 ยาวพิเศษ = 0.849) ซึ่งอยู่ในระดับเห็นด้วยปานกลางปัจจัยส่วนผสมทางการตลาดพบว่าข้อที่มีค่าคะแนนสูงสุดคือ 4P "ความปลอดภัย" (= 4.530, S.D. = 0.653) ซึ่งอยู่ในระดับเห็นด้วยมากที่สุดและข้อที่มีค่าคะแนนต่ำสุดคือ "ต้องการสนับสนุนโปรโมชั่น" (= 3.390 ยาวพิเศษ = 0.927) ซึ่งอยู่ในระดับเห็นด้วยปานกลางปัจจัยส่วนผสมทางการตลาดพบว่าข้อที่มีค่าคะแนนสูงสุดคือ 4P "ได้รับแจกสินค้าตัวอย่าง" (= 3.380, S.D. = 0.996 ซึ่งอยู่ในระดับเห็นด้วยปานกลางและข้อที่มีค่าคะแนนต่ำสุดคือ "บทความทางวิชาการ" (= 3.310 ยาวพิเศษ = 0.996) ซึ่งอยู่ในระดับเห็นด้วยปานกลาง จากผลการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยที่มีผลต่อการเลือกซื้อผ้าอนามัยลอริเอะ กลุ่มตัวอย่างในเขตหนองแขม กรุงเทพมหานคร พบว่า ด้านผลิตภัณฑ์กับคุณลักษณะส่วนบุคคลโดยการทดสอบ F-Test พบว่า อายุ สถานภาพ การศึกษา อาชีพ รายได้ มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01,0.05 ตามลำดับ ด้านราคากับคุณลักษณะส่วนบุคคลโดยการทดสอบ F-Test พบว่า อายุ สถานภาพ การศึกษา อาชีพ รายได้ มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01,0.05 ตามลำดับ ด้านการจัดจำหน่ายกับคุณลักษณะส่วนบุคคลโดยการทดสอบ F-Test พบว่า อายุ การศึกษา รายได้ มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 และ0.05 ตามลำดับ ด้านสถานภาพ (S.S = 94.618,Df = 381,M.S. = 0.248) และ อาชีพ (S.S. = 773.820, D.f = 381,M.S = 2.031) มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ตามลำดับด้านการส่งเสริมทางการตลาดกับคุณลักษณะส่วนบุคคลโดยการทดสอบ F-Test พบว่า อายุ การศึกษา รายได้ มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01,และ พบว่า สถานภาพ อาชีพ มีนัยสำคัญที่ระดับ 0.05 ตามลำดับ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

กรุงเทพมหานคร กรุงเทพมหานคร กรุงเทพมหานคร กรุงเทพมหานคร เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยและ สถิติที่ใช้ได้ร้อยละ (ร้อยละ) และค่าเฉลี่ยเลขคณิต F-Test ผู้หญิงจำนวน 385 คนคิดเป็นร้อยละ 100 30 ปีจำนวน 138 คนคิดเป็นร้อยละ 35.84 รองลงมาคืออายุอยู่ระหว่าง 30-40 ปีจำนวน 204 คนคิดเป็นร้อยละ 52.99 และอายุอยู่ในช่วง 41-50 ปีจำนวน 43 คนคิดเป็นร้อยละ 11.17 ตามลำดับมีสถานภาพ โสดจำนวน 201 คนคิดเป็นร้อยละ 52.21 และมีสถานภาพสมรสจำนวน 184 คนคิดเป็นร้อยละ 47.79 ตามลำดับ จำนวน 179 คนคิดเป็นร้อยละ 46.49 รองลงมาคือมีการศึกษาอยู่ ในระดับสูงกว่าปริญญาตรีจำนวน 73 คนคิดเป็นร้อยละ 18.96 133 คนคิดเป็นร้อยละ 34.55 ตามลำดับ จำนวน 138 คิดเป็นร้อยละ 35.84 รองลงมาคือประกอบอาชีพนักเรียนหรือ นักศึกษาจำนวน 47 คนคิดเป็นร้อยละ 12.21 มีอาชีพประกอบธุรกิจส่วนตัวจำนวน 40 คนคิดเป็นร้อยละ 10.39 ประกอบอาชีพแม่บ้านจำนวน 24 คิดเป็นร้อยละ 6.23 ประกอบอาชีพรับจ้าง จำนวน 88 คนคิดเป็นร้อยละ 22.86 และอาชีพข้าราชการจำนวน 48 คนคิดเป็นร้อยละ 12.47 ตามลำดับ 15,000 บาทจำนวน 154 คนคิดเป็นร้อยละ 40.00 รองลงมาคือมีรายได้อยู่ ระหว่าง 15,000 -20,000 บาทจำนวน 92 คนคิดเป็นร้อยละ 23.90 มีรายได้อยู่ระหว่าง 20,001 - 25,000 บาทจำนวน 98 คนคิดเป็นร้อยละ 25.45 และมี รายได้มากกว่า 25,000 บาทจำนวน 41 คนคิดเป็นร้อยละ 10.65
กลุ่มตัวอย่างในเขตหนองแขมกรุงเทพมหานครพบว่า ปัจจัยส่วนผสมทางการตลาด 4P ของโดยรวมจำแนกรายด้านพบว่าภาพ รวม (= 3.233, SD = 1.210) ซึ่งอยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณารายด้าน ๆ ที่มี ค่าคะแนนสูงที่สุดคือ "ด้านการจัดจำหน่าย" (= 3.950, SD = 0.807) รองลงมาคือ "ด้านผลิตภัณฑ์" (= 3.788, SD = 0.607) "ด้านการส่งเสริมทางการตลาด" (= 3.690, SD = 0.826) และด้านที่มีค่าคะแนนต่ำสุด คือ "ด้านราคา" (= 3.559, SD = 0.613) ปัจจัยส่วนผสมทางการตลาด 4P ของพบว่าข้อที่มีค่าคะแนนสูงสุด คือ (= 3.140, SD = 1.169) ซึ่งอยู่ในระดับปานกลางและข้อที่ มีค่าคะแนนต่ำสุดคือ (= 1.600, SD = 0.491) ซึ่งอยู่ในระดับเห็นด้วยน้อยปัจจัย ส่วนผสมทางการตลาด 4P ของพบว่าข้อที่มีค่าคะแนนสูงสุด คือ (= 4.280, SD = 0.997) ซึ่งอยู่ในระดับเห็นด้วยมากและ ข้อที่มีค่าคะแนนต่ำสุดคือ "กาวติดแน่นดีเยี่ยม" (= 3.380, SD = 0.972) และ "การใช้วัถุดิบช่วยลดโลก ร้อน "(= 3.380, SD = 0.849) ซึ่งอยู่ในระดับเห็นด้วยปานกลางปัจจัย ส่วนผสมทางการตลาด 4P ของพบว่าข้อที่มีค่าคะแนนสูงสุด คือ " ความปลอดภัย "(= 4.530, SD = 0.653) ซึ่งอยู่ในระดับเห็นด้วยมากที่สุด และข้อที่มีค่าคะแนนต่ำสุด คือ "ต้องการสนับสนุนโปรโมชั่น" (= 3.390, SD = 0.927) ซึ่งอยู่ในระดับเห็นด้วยปานกลางปัจจัย ส่วนผสมทางการตลาด 4P ของพบว่าข้อที่มีค่าคะแนนสูงสุด คือ "ได้รับแจก สินค้าตัวอย่าง "(= 3.380, SD = 0.996 ซึ่งอยู่ในระดับเห็นด้วยปานกลางและ ข้อที่มีค่าคะแนนต่ำสุดคือ " บทความทางวิชาการ "(= 3.310, SD = 0.996)
กลุ่มตัวอย่างในเขตหนองแขมกรุงเทพมหานครพบว่า F-Test พบว่าอายุสถานภาพการศึกษาอาชีพราย ได้มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01,0.05 ตามลำดับ F-Test พบว่าอายุสถานภาพการศึกษาอาชีพราย ได้มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01,0.05 ตามลำดับ F-Test พบว่าอายุการศึกษารายได้มี นัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 และ 0.05 ตามลำดับด้านสถานภาพ (SS = 94.618, Df = 381, MS = 0.248) และอาชีพ (SS = 773.820, Df = 381, MS = 2.031) มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
F-Test พบว่าอายุการศึกษารายได้มี นัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 และพบว่าสถานภาพอาชีพมีนัยสำคัญ ที่ระดับ 0.05 ตามลำดับ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การศึกษาเรื่องปัจจัยที่มีผลต่อการเลือกซื้อผ้าอนามัยของผู้บริโภคในเขตหนองแขมกรุงเทพมหานครมีวัตถุประสงค์เพื่อเพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการเลือกซื้อผ้าอนามัยของผู้บริโภคในเขตหนองแขมกรุงเทพมหานครเพื่อศึกษาทัศนคติเกี่ยวกับการเลือกใช้ของผู้บริโภคในเขตหนอ งแขมกรุงเทพมหานครและเพื่อศึกษาการรับรู้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับผ้าอนามัยของผู้บริโภคในเขตหนองแขมกรุงเทพมหานครข้อมูลที่ใช้ในการศึกษานั้นได้จากการสำรวจโดยแบบสอบถามเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยและสถิติที่ใช้ได้ร้อยละ ( ร้อยละ ) และค่าเฉลี่ยเลขคณิตผู้หญิง F . . . ำนวน 385 คนคิดเป็นร้อยละ 100 ทั้งนี้กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีน้อยกว่า 30 . จำนวน 138 คนคิดเป็นร้อยละ 35.84 รองลงมาคืออายุอยู่ระหว่าง 30-40 . จำนวน 204 คนคิดเป็นร้อยละ 52.99 และอายุอยู่ในช่วง 41-50 . จำนวน 43 คนคิดเป็นร้อยละ 11.17 ตามลำดับมีสถานภาพโสดจำนวน 201 คนคิดเป็นร้อยละ 52.21 และมีสถานภาพสมรส จำนวน 184 คนคิดเป็นร้อยละ 47.79 ตามลำดับกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีการศึกษาอยู่ในระดับปริญญาตรีจำนวน 179 คนคิดเป็นร้อยละ 46.49 รองลงมาคือมีการศึกษาอยู่ในระดับสูงกว่าปริญญาตรีจำนวน 73 คนคิดเป็นร้อยละ 18.96 และมีการศึกษาอยู่ในระดับต่ำกว่าปริญญาตรีจำนวน 133 คนคิดเป็นร้อยละ 34.55 ตามลำ ดับจากกลุ่มตัวอย่างทั้งหมดพบว่าส่วนประกอบอาชีพพนักงานเอกชนจำนวน 138 คิดเป็นร้อยละ 35.84 รองลงมาคือประกอบอาชีพนักเรียนหรือนักศึกษาจำนวน 47 คนคิดเป็นร้อยละ 12.21 มีอาชีพประกอบธุรกิจส่วนตัวจำนวน 40 คนคิดเป็นร้อยละ 10.39 ประกอบอาชีพแม่บ้านจำนวน 24 คิดเป็นร้อยละ 6.23 ประกอบอาชีพรั บจ้างจำนวน 88 คนคิดเป็นร้อยละ 22.86 และอาชีพข้าราชการจำนวน 48 คนคิดเป็นร้อยละ 12.47 ตามลำดับและกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีรายได้ต่อเดือนน้อยกว่า 15000 บาทจำนวน 154 คนคิดเป็นร้อยละ 40.00 รองลงมาคือมีรายได้อยู่ระหว่าง 15 , 000 - 20 , 000 บาทจำนวน 92 คนคิดเป็นร้อยละ 23.90 มีรายได้อยู่ระหว่าง 20 , 001 - 25 , 000 บาทจำนว น 98 คนคิดเป็นร้อยละ 25.45 และมีรายได้มากกว่า 25000 บาทจำนวน 41 คนคิดเป็นร้อยละ 10.65 ตามลำดับจากผลการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยที่มีผลต่อการเลือกซื้อผ้าอนามัยลอริเอะกลุ่มตัวอย่างในเขตห