INTRODUCTIONThe pressing need to re

INTRODUCTION
The pressing need to re-engineer computer application education has been established in the past decade [1–2]. Yet, computer application education today is still largely using outdated approaches for teaching technical concepts and problem solving. Because limitations of traditional lectures as a primary pedagogical tool in teaching science have been widely recognized over the years, satirically in some cases, this class format prevails as the most common approach to computer application education. The courses should help students integrate basic concepts into conceptual frameworks, link prior learning to new knowledge, and develop reasoning and their own style that allow the application of concepts to situations that are not explicitly memorized. However, these goals are rarely realized for the majority of students in the traditional lecture model [3–6]. Therefore, the challenge of every discipline education is a transition for them from being dispensers of facts to being architects of learning activities. Critically, this process is designing experiences that facilitate students developing into active learners rather than passive receptacles of information. While traditional teaching method continues to be a staple of collage education; however, the development of information technology has brought the change of teaching method. Such as Coursera and The Kahn Academy ; and developments in cognitive science combine to challenge traditional notions of teaching and learning. The “flipped classroom” instructional model was developed by Jonathan Bergmann and Aaron Sams in 2007 to provide instruction to secondary students who were missing class and therefore missing instruction.
The contents of the class are finished prior to class, the homework, discussion and summary are done in the scheduled class in the flipped class model. The model has transformed teaching practice by changing traditional roles and increasing interaction between the instructor and students during class [7]. J Gerstein constructs the ring of the flipped classroom model to divide the class into four stages: Experiential Engagement, concept Exploration, Meaning Making and Demonstration and Application [8]. A flipped classroom is different from an online class because it includes face-to-face class time with the instructor; and it is more than simply requiring students to read the text before coming to class. In a flipped classroom, the material disseminated outside of class is designed by the instructor to supplement and reinforce concepts from the textbook. By moving traditional lecture material outside of class time, the flipped classroom frees that time for learner-centered activities [9].

Although there are compelling reasons to implement a flipped classroom, there are also some potential problems. First, implementing a flipped classroom can initially be time-consuming. An instructor cannot simply video tape a 50-min lecture. Zappe [9] found an optimum video length to be around 20 min, which requires the instructor to reorganize course material into short segments and to spend time editing recordings. The instructor must also develop and include activities and/or a pretest to ensure that students are prepared for class [10–11]. Second, online learning may frustrate some students. Strayer [12] found some students were uncomfortable at having to take responsibility for their own learning. The instructor can allay this discomfort by providing clear expectations for what students should know. Third, there is some discrepancy in the literature about the appropriateness of a flipped classroom for different course levels. Bland [13] was cautious about using a flipped classroom in more advanced courses, while others suggest that a flipped classroom may be more applicable in advanced courses [12,14].

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แนะนำกดต้อง re-วิศวกรคอมพิวเตอร์ประยุกต์การศึกษาก่อตั้งในทศวรรษ [1-2] ยัง การศึกษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์วันนี้ส่วนใหญ่ยังคงใช้วิธีล้าสมัยสอนแนวคิดทางเทคนิคและการแก้ปัญหา เนื่องจากข้อจำกัดของการบรรยายแบบดั้งเดิมเป็นเครื่องมือสอนหลักการสอนวิชาวิทยาศาสตร์ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางปี satirically ในบางกรณี รูปแบบการเรียนนี้ชัยเป็นวิธีการศึกษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์พบมากที่สุด หลักสูตรควรช่วยให้นักเรียนบูรณาการแนวคิดพื้นฐานเป็นกรอบแนวคิด เชื่อมโยงก่อนการเรียนรู้ความรู้ใหม่ และพัฒนาสไตล์ของตัวเองและเหตุผลที่อนุญาตให้โปรแกรมประยุกต์แนวคิดของสถานการณ์ที่จะไม่ปรากฏอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม เป้าหมายเหล่านี้จะไม่ค่อยรู้ส่วนใหญ่ของนักเรียนในรูปแบบบรรยายแบบดั้งเดิม [3-6] ดังนั้น ความท้าทายของทุกการศึกษาวินัยคือ เปลี่ยนพวกเขาจากการจ่ายของข้อเท็จจริงจะเป็นสถาปนิกของกิจกรรมการเรียนรู้ วิกฤต กระบวนการนี้เป็นการออกแบบประสบการณ์ที่อำนวยความสะดวกนักพัฒนาเป็นผู้เรียนรู้มากกว่าที่เป็นภาชนะที่แฝงของข้อมูล ในขณะที่วิธีการสอนแบบดั้งเดิมยังคงเป็นหลักของการศึกษาภาพตัดปะ อย่างไรก็ตาม การพัฒนาของเทคโนโลยีสารสนเทศได้นำการเปลี่ยนแปลงของวิธีสอน เช่นร้างและออสการ์คาห์น และพัฒนาในการรวมกันเพื่อท้าทายความคิดดั้งเดิมของการเรียนการสอน และการเรียนรู้ รูปแบบการสอน "ห้องเรียน flipped" ถูกพัฒนาขึ้น โดยโจนาธาน Bergmann และภาพยนตร์ทแอรอนใน 2007 คำสั่งให้รองนักเรียนขาดเรียน และการเรียนการสอนที่ขาดหายไปดังนั้น เนื้อหาของชั้นจะ finished ก่อนเรียน ทำการบ้าน สนทนา และสรุปในระดับเวลาในรูปแบบคลา flipped รูปแบบได้เปลี่ยนการสอนปฏิบัติ โดยเปลี่ยนบทบาทดั้งเดิม และเพิ่มการโต้ตอบระหว่างผู้สอนและนักเรียนในชั้นเรียน [7] J Gerstein สร้างแหวนของรูปแบบห้องเรียน flipped เพื่อแบ่งชั้นเรียนออกเป็นสี่ขั้นตอน: การมีส่วนร่วมประสบการณ์ แนวคิด สำรวจ ทำ ให้ความหมาย และการสาธิต และการประยุกต์ใช้ [8] ห้องเรียน flipped จะแตกต่างจากการเรียนออนไลน์เนื่องจากมีเวลาเรียนแบบตัวต่อตัวกับอาจารย์ และมันเป็นมากกว่าเพียงแค่ต้องการนักเรียนอ่านข้อความก่อนที่มาเรียน ในห้องเรียน flipped วัสดุเผยแพร่นอกห้องเรียนถูกออกแบบมา โดยสอนเสริม และเสริมสร้างแนวคิดจากตำราเรียน โดยการย้ายวัสดุดั้งเดิมบรรยายนอกเวลาเรียน ห้องเรียน flipped เพิ่มเวลาสำหรับกิจกรรมที่ผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง [9] แม้ว่าจะมีเหตุผลน่าสนใจในการใช้ห้องเรียน flipped มีปัญหาด้วย ครั้งแรก การใช้ห้องเรียน flipped ตอนแรกได้ใช้เวลานาน ผู้สอนไม่สามารถเพียงแค่วิดีโอเทปบรรยาย 50 นาที Zappe [9] พบความยาววิดีโอที่เหมาะสมจะ ประมาณ 20 นาที ซึ่งต้องมีอาจารย์ผู้สอน เพื่อจัดระเบียบเนื้อหาหลักสูตรเป็นส่วนสั้น และ ต้องใช้เวลาแก้ไขบันทึก ผู้สอนยังต้องพัฒนา และมีกิจกรรมหรือแล็ปว่าเพื่อให้แน่ใจว่า นักเรียนเตรียมความพร้อมสำหรับคลาส [10-11] การเรียนรู้ออนไลน์ สองอาจรอดพ้นนักเรียนบางคน Strayer [12] พบนักเรียนบางคนอึดอัดที่ต้องรับผิดชอบของตนเองเรียนรู้ ผู้สอนสามารถบรรเทาความรู้สึกไม่สบายนี้ โดยการให้ความคาดหวังที่ชัดเจนสำหรับนักเรียนควรรู้อะไร ที่สาม มีความขัดแย้งบางอย่างในวรรณกรรมเกี่ยวกับความเหมาะสมของห้องเรียน flipped สำหรับระดับหลักสูตรที่แตกต่างกัน ใบ [13] แก้ไขระมัดระวังเกี่ยวกับการใช้ห้องเรียน flipped ในหลักสูตรขั้นสูง ในขณะที่คนอื่น ๆ แนะนำว่า ห้องเรียน flipped อาจมีเพิ่มเติมในหลักสูตรขั้นสูง [12,14]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทนำ
กดจำเป็นที่จะต้องรื้อระบบการศึกษาการใช้คอมพิวเตอร์ได้รับการก่อตั้งขึ้นในทศวรรษที่ผ่านมา [1-2] แต่การศึกษาการใช้คอมพิวเตอร์ในวันนี้ส่วนใหญ่ยังคงใช้วิธีการที่ล้าสมัยสำหรับการเรียนการสอนแนวความคิดทางด้านเทคนิคและการแก้ปัญหา เนื่องจากข้อ จำกัด ของการบรรยายแบบดั้งเดิมเป็นเครื่องมือในการเรียนการสอนหลักในการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในช่วงหลายปีที่ทิ่มแทงในบางกรณี, รูปแบบชั้นนี้พัดเป็นวิธีที่พบมากที่สุดในการศึกษาการใช้คอมพิวเตอร์ หลักสูตรที่จะช่วยให้นักเรียนบูรณาการแนวคิดพื้นฐานเข้าไปในกรอบแนวคิดเชื่อมโยงการเรียนรู้ก่อนที่จะมีความรู้ใหม่และพัฒนาเหตุผลและสไตล์ของตัวเองที่ช่วยให้การประยุกต์ใช้แนวคิดไปสู่สถานการณ์ที่ไม่ได้จดจำอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตามเป้าหมายเหล่านี้จะไม่ค่อยตระหนักถึงส่วนใหญ่ของนักเรียนในรูปแบบการบรรยายแบบดั้งเดิม [3-6] ดังนั้นความท้าทายของทุกการศึกษาวินัยคือการเปลี่ยนแปลงสำหรับพวกเขาจากการจ่ายของข้อเท็จจริงที่จะเป็นสถาปนิกของกิจกรรมการเรียนรู้ วิกฤตขั้นตอนนี้คือการออกแบบประสบการณ์ที่อำนวยความสะดวกให้นักเรียนเข้าสู่การพัฒนาผู้เรียนที่ใช้งานมากกว่าภาชนะ passive ของข้อมูล ขณะที่วิธีการสอนแบบดั้งเดิมยังคงเป็นหลักของการศึกษาจับแพะชนแกะ; อย่างไรก็ตามการพัฒนาของเทคโนโลยีสารสนเทศได้นำการเปลี่ยนแปลงวิธีการเรียนการสอน เช่น Coursera และคาห์นสถาบันการศึกษา; และการพัฒนาในด้านวิทยาศาสตร์ทางปัญญารวมกันเพื่อท้าทายความคิดแบบดั้งเดิมของการเรียนการสอนและการเรียนรู้ "ที่ฟลอริด้า ipped สอนในชั้นเรียน" รูปแบบการเรียนการสอนได้รับการพัฒนาโดยโจนาธาน Bergmann และอาโรน Sams ในปี 2007 เพื่อให้การเรียนการสอนให้กับนักเรียนมัธยมที่กำลังหายไปเรียนและดังนั้นการเรียนการสอนที่ขาดหายไป.
เนื้อหาของชั้นที่มี Fi สำเร็จรูปก่อนที่จะมีระดับการบ้านการอภิปรายและสรุปเป็น ทำในชั้นเรียนที่กำหนดไว้ในฟลอริด้า ipped รูปแบบการเรียน รูปแบบที่มีการเรียนการสอนการปฏิบัติโดยการเปลี่ยนบทบาทดั้งเดิมและเพิ่มการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้สอนและนักเรียนในชั้นเรียน [7] เจเกอร์สไตน์สร้างแหวนของฟลอริด้ารุ่น ipped สอนในชั้นเรียนจะแบ่งระดับออกเป็นสี่ขั้นตอน: ประสบการณ์หมั้นแนวคิดการสำรวจทำให้ความหมายและการสาธิตและการประยุกต์ใช้ [8] A FL ipped สอนในชั้นเรียนจะแตกต่างจากการเรียนออนไลน์เพราะมันรวมถึงใบหน้าเพื่อใบหน้าเวลาเรียนกับอาจารย์ผู้สอนนั้น และมันเป็นมากกว่าเพียงแค่การให้นักเรียนอ่านข้อความก่อนที่จะมาในชั้นเรียน ในฟลอริด้า ipped ห้องเรียนวัสดุที่เผยแพร่นอกชั้นเรียนได้รับการออกแบบโดยอาจารย์ผู้สอนเพื่อเสริมและเสริมสร้างแนวคิดจากตำราเรียน โดยการเคลื่อนย้ายวัสดุการบรรยายแบบดั้งเดิมนอกเวลาเรียนที่ห้องเรียนชั้น ipped ปลดปล่อยเวลาสำหรับกิจกรรมที่ผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง [9] ที่.

แม้ว่าจะมีเหตุผลที่น่าสนใจที่จะใช้ฟลอริด้า ipped ห้องเรียนยังมีบางปัญหาที่อาจเกิด ครั้งแรกที่ดำเนินการสอนในชั้นเรียนชั้น ipped แรกอาจจะใช้เวลานาน อาจารย์ผู้สอนไม่สามารถเพียงแค่เทปวิดีโอการบรรยาย 50 นาที Zappe [9] พบว่ามีความยาวของวิดีโอที่ดีที่สุดที่จะเป็นรอบ 20 นาทีซึ่งจะต้องมีอาจารย์ผู้สอนที่จะจัดระเบียบเนื้อหาหลักสูตรเป็นกลุ่มในระยะสั้นและการใช้จ่ายในการแก้ไขการบันทึกเวลา อาจารย์ผู้สอนยังต้องพัฒนาและรวมถึงกิจกรรมและ / หรือก่อนการทดลองเพื่อให้แน่ใจว่านักเรียนจะเตรียมไว้สำหรับระดับ [10-11] ประการที่สองการเรียนรู้ออนไลน์อาจรอดพ้นนักเรียนบางคน Strayer [12] พบว่านักเรียนบางคนไม่สบายใจที่ต้องรับผิดชอบต่อการเรียนรู้ของตนเอง อาจารย์ผู้สอนสามารถบรรเทาความรู้สึกไม่สบายนี้โดยการให้ความคาดหวังที่ชัดเจนสำหรับสิ่งที่นักเรียนควรรู้ ประการที่สามมีความคลาดเคลื่อนในวรรณคดีเกี่ยวกับความเหมาะสมของฟลอริด้าในชั้นเรียน ipped สำหรับระดับชั้นที่แตกต่างกัน Bland [13] ระมัดระวังเกี่ยวกับการใช้ห้องเรียนชั้น ipped ในหลักสูตรขั้นสูงมากขึ้นในขณะที่คนอื่น ๆ แสดงให้เห็นว่า A FL ipped สอนในชั้นเรียนอาจจะบังคับในหลักสูตรขั้นสูง [12,14]