Albinism in biology is the "Congeni

Albinism in biology is the "Congenital absence of any pigmentation or coloration in a person, animal or plant, resulting in white hair and pink eyes in mammals."[1] Varied use and interpretation of the terms means that written reports of albinistic animals can be difficult to verify. Albinism can reduce the survivability of an animal, for example, it has been suggested that albino alligators have an average survival span of only 24 hours due to the lack of protection from UV and their lack of camouflage to avoid predators.[2] Albino animals have characteristic pink or red eyes because the lack of pigment in the iris allows the blood vessels of the retina to be visible. Familiar albino animals include in-bred strains of laboratory animals (rats, mice, guinea-pigs and rabbits), but populations of naturally occurring albino animals exist in the wild, e.g. Mexican cave tetra. Albinism is a well-recognized phenomenon in molluscs, both in the shell and in the soft parts. It has been claimed by some, e.g.[3] that "albinism" can occur for a number of reasons aside from inheritance including genetic mutations, diet, living conditions, age, disease, or injury, however, this is contrary to definitions where the condition is inherited.

In plants, albinism is characterised by partial or complete loss of chlorophyll pigments and incomplete differentiation of chloroplast membranes. Albinism in plants interferes with photosynthesis which can reduce survivability.[4] Some plant variations may have white flowers or other parts. However, these plants are not totally devoid of chlorophyll. Terms associated with this phenomenon are "hypochromia" and "albiflora

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เผือกในทางชีววิทยาคือ "ขาด แต่กำเนิดของผิวคล้ำหรือสีในคนสัตว์หรือพืชผลในผมสีขาวและตาสีชมพูในเลี้ยงลูกด้วยนม." [1] การใช้งานที่แตกต่างกันและความหมายของคำที่หมายความว่าเขียนรายงานของสัตว์ albinistic สามารถ เป็นเรื่องยากที่จะตรวจสอบ เผือกสามารถลดความอยู่รอดของสัตว์เช่นจะได้รับการแนะนำว่าจระเข้เผือกมีช่วงอยู่รอดเฉลี่ยเพียง 24 ชั่วโมงเนื่องจากการขาดการป้องกันจากรังสียูวีและพวกเขาขาดการอำพรางเพื่อหลีกเลี่ยงการล่า. [2] สัตว์เผือก มีลักษณะเป็นสีชมพูหรือสีแดงเพราะตาขาดของเม็ดสีในม่านตาช่วยให้เส้นเลือดจอประสาทตาที่จะมองเห็น สัตว์เผือกคุ้นเคยรวมถึงสายพันธุ์ในพันธุ์ของสัตว์ทดลอง (หนูหนูหนูหนูและกระต่าย) แต่ประชากรของธรรมชาติที่เกิดขึ้นสัตว์เผือกที่มีอยู่ในป่าเช่นเตตร้าถ้ำเม็กซิกัน เผือกเป็นปรากฏการณ์ที่ดีได้รับการยอมรับในหอยทั้งในเปลือกและในส่วนที่อ่อนนุ่ม มันถูกอ้างโดยบางส่วนเช่น [3] ที่ "เผือก" สามารถเกิดขึ้นได้สำหรับจำนวนของเหตุผลนอกเหนือจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรมรวมถึงการกลายพันธุ์ทางพันธุกรรม, อาหาร, สภาพความเป็นอยู่อายุโรคหรือได้รับบาดเจ็บ แต่นี้จะขัดกับคำจำกัดความที่ สภาพที่สืบทอด. ในพืชเผือกมีเอกลักษณ์เฉพาะด้วยการสูญเสียบางส่วนหรือทั้งหมดของเม็ดสีคลอโรฟิลและความแตกต่างที่ไม่สมบูรณ์ของเยื่อ chloroplast เผือกในพืชรบกวนการสังเคราะห์แสงซึ่งสามารถลดความอยู่รอด. [4] รูปแบบโรงงานที่บางคนอาจมีดอกสีขาวหรือส่วนอื่น ๆ แต่พืชเหล่านี้ไม่ได้ทั้งหมดไร้คลอโรฟิล ข้อตกลงและเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องกับปรากฏการณ์นี้คือ "hypochromia" และ "albiflora

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ภาพยนตร์อิสระในชีววิทยาคือ " ขาดแต่กำเนิดของผิวคล้ำหรือสีในคน สัตว์ หรือพืช ส่งผลให้เส้นผมสีขาวและสีชมพูดวงตาในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม " [ 1 ] หลากหลายใช้และตีความข้อตกลงหมายความว่ารายงานเขียนสัตว์ albinistic สามารถยากที่จะตรวจสอบ ภาพยนตร์อิสระสามารถลดความสามารถของสัตว์ เช่นจะได้รับการชี้ให้เห็นว่าเผือก จระเข้มีช่วงการอยู่รอดโดยเฉลี่ยเพียง 24 ชั่วโมง เนื่องจากขาดการป้องกันรังสียูวีและการขาดการพรางตัวเพื่อหลีกเลี่ยง predators . [ 2 ] เผือก สัตว์มีลักษณะสีชมพูหรือสีแดงตาเพราะขาดของเม็ดสีในไอริส ช่วยให้เส้นเลือดของเรตินาให้เห็นสัตว์เผือกพันธุ์สายพันธุ์คุ้นเคยรวมถึงในสัตว์ทดลอง ( หนู หนู หมู หนู และกระต่าย ) แต่ประชากรของสัตว์เผือกที่เกิดในธรรมชาติมีอยู่ในป่า เช่น เม็กซิโก ถ้ำสี่ อ่านผ่านๆเป็นอย่างดีรู้จักปรากฏการณ์หอยทั้งเปลือกและส่วนที่อ่อนนุ่ม มันถูกอ้างโดยบางส่วน เช่น[ 3 ] " ภาพยนตร์อิสระ " สามารถเกิดขึ้นสำหรับจำนวนเหตุผล นอกเหนือจากมรดกรวมทั้งการกลายพันธุ์ทางพันธุกรรม , อาหาร , สภาพความเป็นอยู่ , อายุ , โรคหรือการบาดเจ็บ แต่นี้เป็นตรงกันข้ามกับคำนิยามที่เงื่อนไขสืบทอด

ในพืช อ่านผ่านๆเป็นภาวะการสูญเสียบางส่วนหรือสมบูรณ์ของเม็ดสีคลอโรฟิลล์ และแตกต่าง ไม่สมบูรณ์ของคลอโรพลาสต์ เยื่อภาพยนตร์อิสระในพืชรบกวนแสงซึ่งสามารถลดความสามารถ [ 4 ] พืชบางรูปแบบอาจมีดอกไม้สีขาว หรือส่วนอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม พืชเหล่านี้จะไม่ทั้งหมดที่ปราศจากคลอโรฟิลล์ คำที่เกี่ยวข้องกับปรากฏการณ์นี้เป็น " hypochromia " และ " albiflora