One useful way of specifying how a

One useful way of specifying how a function is defined is to describe what results it will return given different types of inputs. A powerful way of describing afferent types of inputs in Haskell is using pattern matching. We can provide multiple definitions of function , each having a particular pattern for input arguments. The first listed definition that succeeds in matching a given function call is the one used for that call. In this manner , you can pull out the head and tail of a list , match specific input values , identify cannot , however , perform value comparisons with pattern matching ( e.g., n

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หนึ่งในวิธีที่มีประโยชน์ในการกำหนดวิธีการที่ฟังก์ชั่นที่กำหนดไว้คือการอธิบายว่าผลมันจะกลับมาให้ชนิดที่แตกต่างของปัจจัยการผลิต วิธีที่มีประสิทธิภาพในการอธิบายประเภทอวัยวะของปัจจัยการผลิตใน Haskell จะใช้รูปแบบการจับคู่ เราสามารถให้คำจำกัดความได้หลายฟังก์ชั่นของแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะสำหรับข้อโต้แย้งของท่านคำนิยามที่ระบุไว้เป็นครั้งแรกที่ประสบความสำเร็จในการจับคู่การเรียกใช้ฟังก์ชันที่กำหนดเป็นหนึ่งที่ใช้สำหรับการโทรที่ ในลักษณะนี้คุณสามารถดึงออกจากหัวและหางของรายการตรงกับค่าที่ป้อนเข้าที่เฉพาะเจาะจงระบุไม่ได้ แต่ดำเนินการเปรียบเทียบค่าที่มีรูปแบบการจับคู่ (เช่น n <= 3 จะต้องมีการตรวจพบที่แตกต่างกัน) ขีดเส้นใต้มีการใช้อยู่ในตำแหน่งที่ควรจะตรงกับบางสิ่งบางอย่าง,แต่ที่ค่าที่ตรงกันกับไม่ได้อยู่ในคำนิยาม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ประโยชน์วิธีการหนึ่งระบุว่า กำหนดฟังก์ชันจะอธิบายผลลัพธ์อะไรมันจะกลับมาให้แตกต่างกันของปัจจัยการผลิต ใช้วิธีมีประสิทธิภาพของการอธิบายชนิดของอินพุตใน Haskell afferent รูปแบบจับคู่ เราสามารถให้คำนิยามหลายของฟังก์ชัน แต่ละมีรูปแบบเฉพาะสำหรับอาร์กิวเมนต์ป้อนเข้า คำนิยามรายการแรกสำเร็จในการเรียกฟังก์ชันที่กำหนดให้ตรงกันเป็นหนึ่งที่ใช้สำหรับการเรียกว่า ในลักษณะนี้ คุณสามารถดึงออกหัวและท้ายของรายการ ตรงกับค่าที่ป้อนข้อมูลเฉพาะ ระบุอย่างไรก็ตาม ไม่สามารถ ทำค่าเปรียบเทียบกับรูปแบบที่ตรงกัน (เช่น n < = 3 ต้องพบแตกต่างกัน) ใช้อักขระขีดล่างในตำแหน่งที่บางสิ่งบางอย่างควรตรง แต่ค่าที่ตรงกันไม่เป็นการกำหนด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วิธีหนึ่งมีประโยชน์ในการระบุวิธีการทำงานที่มีการกำหนดคือการอธิบายว่าผลจะกลับไปให้ ประเภท ที่แตกต่างกันของอินพุต วิธีที่ทรงพลังของอธิบายถึง ประเภท ของอินพุต afferent ใน Eddie Haskell ' s คือการใช้ที่ตรงกับรูปแบบ เราสามารถจัดให้บริการได้หลายคำนิยามของแต่ละฟังก์ชั่นมีรูปแบบเฉพาะสำหรับอาร์กิวเมนต์ที่ป้อนความละเอียดในรายการแรกที่ประสบความสำเร็จในการเรียกฟังก์ชันที่ตรงกันให้เป็นหนึ่งที่ใช้ในการโทรนั้น ด้วยวิธีนี้คุณจะสามารถดึงออกจากหางและหัวของรายการที่ตรงกันกับค่าอินพุตที่ระบุระบุไม่สามารถอย่างไรก็ตามการดำเนินการการเปรียบเทียบความคุ้มค่าพร้อมด้วยที่ตรงกับรูปแบบ(เช่น N <= 3 จะต้องถูกตรวจพบอย่างแตกต่างกันไป) เครื่องหมายขีดล่างเครื่องหมายขีดกลางที่จะใช้ในตำแหน่งที่ควรจะตรงกับบางสิ่งบางอย่างแต่ที่มีมูลค่าตรงกันที่ไม่ได้อยู่ในความละเอียดที่