- Albert Einstein is one of history

- Albert Einstein is one of history's most famous thinkers. His theory of relativity, E=mc2, remains one of the most significant equations in the history of physics. Before the publication of the theory of relativity, entities such as time and space and mass and energy were separate. As a result, the findings demonstrated in his famous theory helped develop a completely new way of conceptualizing the space-time relationship. The equation concludes that mass (m) and kinetic energy (E) are equal, since the speed of light (c2) is constant. According to this equation, mass can be changed into energy and vice versa. When mass transforms into energy, the result is nuclear energy. Similarly, energy can be changed into mass through a process known as particle collision. In addition to his theory of relativity, Albert Einstein also contributed to the development of quantum theory through his explanation of the photoelectric effect and postulation of light quanta.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

-อัลเบิร์ตไอน์สไตน์เป็นหนึ่งของประวัติศาสตร์แห่ง thinkers ของทฤษฎีสัมพัทธภาพ E = mc2 ยังคงเป็นหนึ่งของสมการที่สำคัญในประวัติศาสตร์ของฟิสิกส์ ก่อนที่จะเผยแพร่ทฤษฎีสัมพัทธภาพ หน่วยเวลา และพื้นที่ และมวล และพลังงานถูกแยก ผล ผลการวิจัยแสดงในทฤษฎีของเขามีชื่อเสียงช่วยพัฒนาวิธีการใหม่อย่างสมบูรณ์อยู่ตามพรมแดนความสัมพันธ์ space-time สมการสรุปมวล (m) และพลังงานจลน์ (E) เท่ากัน ความเร็วของแสง (c2) เป็นคง ตามสมการนี้ มวลสามารถเปลี่ยน เป็นพลังงาน และในทางกลับกัน เมื่อมวลเปลี่ยนเป็นพลังงาน ผลคือ พลังงานนิวเคลียร์ ในทำนองเดียวกัน สามารถเปลี่ยนพลังงานเป็นจำนวนมากตลอดกระบวนการที่เรียกว่าอนุภาคชนกัน นอกจากทฤษฎีสัมพัทธภาพของเขา อัลเบิร์ตไอน์สไตน์ยังส่วนการพัฒนาทฤษฎีควอนตัมอิเล็กทริกการอธิบายของเขาและ postulation ของ quanta แสง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

- Albert Einstein เป็นหนึ่งในประวัติศาสตร์ของนักคิดที่มีชื่อเสียงที่สุด ทฤษฎีของทฤษฎีสัมพัทธ, E = MC2 ยังคงเป็นหนึ่งของสมการที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ของฟิสิกส์ ก่อนที่จะตีพิมพ์ของทฤษฎีสัมพัทธหน่วยงานเช่นเวลาและพื้นที่และมวลและพลังงานเป็นที่แยกต่างหาก เป็นผลให้ผลการวิจัยแสดงให้เห็นในทางทฤษฎีมีชื่อเสียงของเขาช่วยพัฒนาวิธีการใหม่อย่างสมบูรณ์ของ conceptualizing ความสัมพันธ์ของพื้นที่เวลา สมการสรุปว่ามวล (เมตร) และพลังงานจลน์ (E) มีค่าเท่ากันเนื่องจากความเร็วของแสง (C2) เป็นค่าคงที่ ตามสมการนี​​้มวลสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานและในทางกลับกัน เมื่อมวลเปลี่ยนเป็นพลังงานผลที่ได้คือพลังงานนิวเคลียร์ ในทำนองเดียวกันพลังงานที่สามารถเปลี่ยนเป็นมวลผ่านกระบวนการที่เรียกว่าการชนกันของอนุภาค นอกเหนือจากทฤษฎีของเขาพัทธ Albert Einstein ก็มีส่วนในการพัฒนาทฤษฎีควอนตัผ่านคำอธิบายของเขาของผลตาแมวและการยืนยันของควอนตั้มแสง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

- อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เป็นหนึ่งในนักคิดที่มีชื่อเสียงที่สุดในประวัติศาสตร์ของ ทฤษฎีสัมพัทธภาพ E = mc2 , ยังคงเป็นหนึ่งของสมการที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ของฟิสิกส์ ก่อนการประกาศของทฤษฎีสัมพัทธภาพ หน่วยงาน เช่น อวกาศ และ เวลา และ มวลและพลังงานที่แยกต่างหาก ผลผลการวิจัยแสดงให้เห็นในทางทฤษฎีที่มีชื่อเสียงของเขาช่วยพัฒนาวิธีการใหม่ทั้งหมดของกาล- อวกาศมีคอนเส็ปในความสัมพันธ์ สมการพบว่า มวล ( m ) และพลังงาน ( E ) จะเท่ากัน เนื่องจากความเร็วของแสง ( C2 ) จะคงที่ ตามสมการนี้ สื่อมวลชน สามารถเปลี่ยนเป็นพลังงาน และในทางกลับกัน เมื่อมวลเปลี่ยนเป็นพลังงาน ผลที่ได้คือ พลังงานนิวเคลียร์ ในทํานองเดียวกันพลังงานสามารถเปลี่ยนเป็นมวลที่ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า การชนกันของอนุภาค นอกจากทฤษฎีสัมพัทธภาพ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ยังสนับสนุนการพัฒนาทฤษฎีควอนตัมผ่านคำอธิบายของปรากฏการณ์โฟโตอิเล็กทริก และสัจพจน์ของ Quanta แสง