least 10% of typical children of an

least 10% of typical children of any age, in other
words, unusual errors) using data from Dodd et al.
(2002).
Local dialect was taken into account when judging
whether an error had occurred. For example, in
the central belt of Scotland a glottal stop replaces
word medial and final /t/ most of the time (Scobbie,
Gordeeva, & Matthews, 2007), so when this
occurred, it was not counted as an error. Although
all of the children’s errors were described in terms of
processes, this does not necessarily suggest that the
errors were the result of a phonological impairment.
While it is possible that some errors might be
phonological in nature, for example fronting of /k/
to [t], other processes were more likely to be
phonetic in nature, for example, lateralization and
other distortions. For the purposes of the analysis all
errors were counted together. In addition to calculating
the number of times an error type occurred,
the number of children displaying an error type
three or more times (Dodd et al., 2002) was
also calculated. Although each phoneme was only
sampled three times in the data, most processes
apply to classes of sounds rather than individual
phonemes. In the case of phoneme specific nasal
emission, this usually affected /s/ which was sampled
more than three times due to the inclusion of
s-clusters in the test. This enabled us to identify
whether errors occurred only occasionally in a child’s
speech or whether they were more prevalent. It also
allowed us to determine how many children in the
group presented with each error type.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อย่างน้อย 10% ของเด็กอายุต่าง ๆ ในที่อื่น ๆ ทั่วไปคำ ผิดปกติ) โดยใช้ข้อมูลจาก Dodd et al(2002)ภาษาท้องถิ่นถูกนำมาพิจารณาเมื่อตัดสินว่าได้เกิดข้อผิดพลาด ตัวอย่าง ในเข็มขัดกลางของสกอตแลนด์ที่กักตัวแทนคำ /t/ ด้านใกล้กลาง และท้ายที่สุดแล้ว (ScobbieGordeeva, & แมธธิวส์ 2007), ดังนั้นเมื่อนี้เกิดขึ้น มันถูกไม่ถูกนับเป็นข้อผิดพลาด ถึงแม้ว่าข้อผิดพลาดของเด็กทั้งหมดที่อธิบายไว้ในรูปของกระบวนการ นี้ไม่จำเป็นต้องแนะนำที่ข้อผิดพลาดผลลัพธ์ของผลคำโครงสร้างประโยคได้ในขณะที่เป็นไปได้ว่า อาจจะมีข้อผิดพลาดคำโครงสร้างประโยคในธรรมชาติ ตัวอย่าง เท่้าของ /k/ไป [t], กระบวนการอื่น ๆ มีแนวโน้มที่จะเสียงธรรมชาติ ตัวอย่าง lateralization และบิดเบือนอื่น ๆ สำหรับวัตถุประสงค์ของการวิเคราะห์ทั้งหมดข้อผิดพลาดถูกนับรวมเข้าด้วยกัน นอกจากการคำนวณจำนวนครั้งที่ชนิดข้อผิดพลาดเกิดขึ้นพิมพ์หมายเลขของเด็กที่แสดงข้อผิดพลาดสามหรือมากกว่าเวลา (Dodd et al., 2002) ได้นอกจากนี้ยัง คำนวณ แม้ว่าแต่ละหน่วยเสียงได้เท่านั้นตัวอย่าง 3 ครั้งข้อมูล กระบวนการส่วนใหญ่ใช้กับระดับชั้นของเสียงมากกว่าบุคคลphonemes ในกรณีของหน่วยเสียงนาสิกเฉพาะมลพิษ /s/ นี้มักจะได้รับผลกระทบซึ่งมีความมากกว่าสามครั้งเนื่องจากการรวมs-คลัสเตอร์ในการทดสอบ นี้ช่วยให้เราสามารถระบุว่าข้อผิดพลาดเกิดขึ้นบ่อยในเด็กคำพูดหรือว่าพวกแพร่หลายมากขึ้น มันยังให้เรากำหนดจำนวนเด็กในการกลุ่มที่แสดงข้อผิดพลาดแต่ละชนิด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อย่างน้อย 10% ของเด็กทั่วไปในวัยใดในอื่น ๆ
คำข้อผิดพลาดที่ผิดปกติ) โดยใช้ข้อมูลจากด็อด et al.
(2002).
ภาษาท้องถิ่นถูกนำเข้าบัญชีเมื่อการตัดสิน
ไม่ว่าจะเป็นข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น ยกตัวอย่างเช่นใน
แถบภาคกลางของสกอตแลนด์แทนที่สายเสียงหยุด
อยู่ตรงกลางและคำสุดท้าย / ตัน / มากที่สุดของเวลา (Scobbie,
Gordeeva และแมตทิวส์, 2007) ดังนั้นเมื่อสิ่งนี้
เกิดขึ้นมันก็ไม่ได้นับเป็นข้อผิดพลาด แม้ว่า
ทุกข้อผิดพลาดของเด็กถูกอธิบายในแง่ของ
กระบวนการนี้ไม่จำเป็นต้องแสดงให้เห็นว่า
ข้อผิดพลาดเป็นผลมาจากการด้อยค่าเสียง.
ในขณะที่มันเป็นไปได้ว่าข้อผิดพลาดบางคนอาจจะ
เสียงในธรรมชาติเช่นบังหน้าของ k / /
เพื่อ [t] กระบวนการอื่น ๆ มีแนวโน้มที่จะมี
การออกเสียงในธรรมชาติเช่น lateralization และ
บิดเบือนอื่น ๆ สำหรับวัตถุประสงค์ของการวิเคราะห์ทุก
ข้อผิดพลาดนับด้วยกัน นอกจากนี้ในการคำนวณ
จำนวนครั้งที่พิมพ์ผิดพลาดที่เกิดขึ้น
จำนวนของเด็กที่แสดงข้อผิดพลาดชนิด
สามครั้งหรือมากกว่า (Dodd et al., 2002) ก็
ยังคำนวณ แม้ว่าแต่ละฟอนิมเป็นเพียง
ตัวอย่างสามครั้งในข้อมูลกระบวนการส่วนใหญ่
นำไปใช้กับการเรียนของเสียงมากกว่าแต่ละ
หน่วยเสียง ในกรณีที่จมูกฟอนิมเฉพาะ
การปล่อยก๊าซนี้ได้รับผลกระทบมักจะ / s / ซึ่งเป็นตัวอย่าง
มากกว่าสามครั้งเกิดจากการรวมตัวของ
กลุ่มเอในการทดสอบ นี้ช่วยให้เราสามารถระบุ
ว่าข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นเป็นครั้งคราวเท่านั้นในเด็ก
พูดหรือไม่ว่าจะเป็นที่แพร่หลายมากขึ้น นอกจากนี้ยัง
ช่วยให้เราสามารถกำหนดจำนวนเด็กที่อยู่ใน
กลุ่มนำเสนอกับแต่ละประเภทข้อผิดพลาด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อย่างน้อย 10% ของเด็กปกติอายุใด ๆ ในคำอื่น ๆ
, ข้อผิดพลาดที่ผิดปกติโดยใช้ข้อมูลจาก Dodd et al . ( 2002 )
.
ภาษาท้องถิ่นถูกนำมาพิจารณาเมื่อการตัดสิน
ว่ามีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น ตัวอย่างเช่น ในแถบภาคกลางของสกอตแลนด์

หยุดเส้นเสียงแทนที่คำและแนวสุดท้าย T / / ส่วนใหญ่ของเวลา ( scobbie
gordeeva , & , แมทธิว , 2550 ) ดังนั้นเมื่อ
เกิดขึ้น ไม่นับว่าเป็นข้อผิดพลาดแม้ว่า
ทั้งหมดของข้อผิดพลาดของเด็กๆ ที่อธิบายในแง่ของ
กระบวนการนี้ไม่จำเป็นต้องแสดงให้เห็นว่า
ข้อผิดพลาดที่เกิดจากความบกพร่องทาง .
ในขณะที่มันเป็นไปได้ว่าอาจจะมีข้อผิดพลาดบาง
ระบบเสียงในธรรมชาติเช่นราชสภาแห่ง / k /
[ T ] กระบวนการอื่น ๆ น่าจะเป็น
สัทศาสตร์ในธรรมชาติ ตัวอย่างเช่น lateralization
บิดเบือนและอื่น ๆสำหรับวัตถุประสงค์ของการวิเคราะห์ข้อผิดพลาดทั้งหมด
ถูกนับด้วยกัน นอกจากการคำนวณ
จำนวนครั้งข้อผิดพลาดประเภทเกิดขึ้น
จํานวนเด็กแสดงข้อผิดพลาดประเภท
สามครั้งหรือมากกว่า ( Dodd et al . , 2002 ) คือ
ด้วยค่า . แม้ว่าแต่ละหน่วยเสียงคือ /
3 ครั้ง ข้อมูล กระบวนการ ส่วนใหญ่ใช้กับห้องเรียน
เสียงแทนหน่วยเสียงแต่ละคน

ในกรณีของการปล่อยในช่องจมูก
เฉพาะ นี้มักจะได้รับผลกระทบ / s / ซึ่งตัวอย่าง
มากกว่า 3 เท่า เนื่องจากการรวมของ
s-clusters ในการทดสอบ นี้ช่วยให้เราสามารถระบุว่า ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นเป็นครั้งคราวเท่านั้น

ในการพูดของเด็กหรือไม่ว่าพวกเขาจะแพร่หลายมากขึ้น มันยังให้เราตรวจสอบหลายวิธี

เด็กในกลุ่มแสดงข้อผิดพลาดแต่ละประเภท