Constructivism as a methodological

Constructivism as a methodological imperative
To ensure a strong research design, researchers must choose a research paradigm that is congruent with
their beliefs about the nature of reality. Consciously subjecting such beliefs to an ontological interrogation
in the first instance will illuminate the epistemological and methodological possibilities that are
available.
We do not quickly or easily reach any sort of conclusion or resolution about our own view of the nature
of truth and reality. We are all influenced by our history and cultural context, which, in turn, shape
our view of the world, the forces of creation, and the meaning of truth. Often these underlying assumptions
about the world are unconscious and taken for granted. Constructivism is a research paradigm that
denies the existence of an objective reality, “asserting instead that realities are social constructions of the
mind, and that there exist as many such constructions as there are individuals (although clearly many
constructions will be shared)” (Guba & Lincoln, 1989, p. 43).
Individuals who deny the existence of an objective reality assume a relativist ontological position
(Guba & Lincoln, 1994). Relativists claim that concepts such as rationality, truth, reality, right, good, or
norms must be understood “as relative to a specific conceptual scheme, theoretical framework, paradigm,
form of life, society, or culture . . . there is a non-reducible plurality of such conceptual schemes”
(Bernstein, 1983, p. 8). In other words, the world consists of multiple individual realities influenced by
context.
Epistemologically, constructivism emphasizes the subjective interrelationship between the researcher
and participant, and the coconstruction of meaning (Hayes & Oppenheim, 1997; Pidgeon &
Henwood, 1997). Researchers, in their “humanness,” are part of the research endeavor rather than objective
observers, and their values must be acknowledged by themselves and by their readers as an inevitable
part of the outcome (Appleton, 1997; de Laine, 1997; Guba & Lincoln, 1989; Stratton, 1997).
In seeking a research methodology that would provide an ontological and epistemological fit with
our position, we were led to explore the concept of a constructivist grounded theory. Several authors
identify grounded theory when it is underpinned by a constructivist paradigm (Charmaz, 1994, 1995b,
2000; McCann & Clark, 2003a, 2003b; Nelson & Poulin, 1997; Norton, 1999; Stratton, 1997).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ศิลปะเค้าโครงเป็นจำ methodologicalเพื่อให้การออกแบบวิจัยที่แข็งแกร่ง นักวิจัยต้องเลือกกระบวนทัศน์การวิจัยที่เป็นแผงกับของความเชื่อเกี่ยวกับธรรมชาติของความเป็นจริง ความเชื่อดังกล่าวไปสอบปากคำการโต้ที่สติแล้วก็กดชัตเตอร์ในครั้งแรก อย่างเฉลิม epistemological และ methodological ไปที่พร้อมใช้งานเราไม่ได้ หรืออย่างรวดเร็วถึงเรียงลำดับใด ๆ ของบทสรุปหรือความละเอียดเกี่ยวกับมุมมองของเราเองของธรรมชาติความจริงและความเป็นจริง เรามีทั้งอิทธิพลของประวัติศาสตร์และบริบททางวัฒนธรรม ซึ่ง จะ รูปร่างเราดูของโลก ของการสร้าง และความหมายของความจริง มักจะสมมติฐานเหล่านี้อยู่ภายใต้เกี่ยวกับโลก มีสติ และดำเนินการให้ ศิลปะเค้าโครงเป็นกระบวนทัศน์การวิจัยที่ปฏิเสธการดำรงอยู่ของความเป็นจริงที่วัตถุประสงค์, "กรรมสิทธิ์แทนความเป็นจริงก่อสร้างสังคมของการจิตใจ และที่มีอยู่มากเช่นก่อสร้างเนื่องจากมีบุคคล (แม้ว่าชัดเจนมากก่อสร้างจะสามารถใช้ร่วมกัน) " (Guba & ลินคอล์น 1989, p. 43)ผู้ที่ปฏิเสธการดำรงอยู่ของความเป็นจริงวัตถุประสงค์การคั่วตำแหน่งโต้กุศล(Guba & ลินคอล์น 1994) Relativists อ้างว่า แนวคิด rationality ความจริง ความ จริง ขวา,, หรือบรรทัดฐานที่ต้องเข้าใจ "เป็นญาติกับโครงร่างแนวคิดเฉพาะ กรอบทฤษฎี กระบวนทัศน์แบบฟอร์ม ของชีวิต สังคม วัฒนธรรม...มีหลายฝ่ายไม่ใช่ reducible ของโครงร่างแนวคิดดังกล่าว "(นาร์ดเบิร์นสไตน์ 1983, p. 8) ในคำอื่น ๆ โลกประกอบด้วยความเป็นจริงแต่ละที่หลายที่รับอิทธิพลจากบริบทการEpistemologically ศิลปะเค้าโครงเน้น interrelationship ตามอัตวิสัยระหว่างนักวิจัยและผู้เข้าร่วม และ coconstruction ของความหมาย (เฮยส์และ Oppenheim, 1997 Pidgeon &Henwood, 1997) นักวิจัย ในของพวกเขา "humanness เป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขันวิจัยมากกว่าที่เป็นวัตถุประสงค์ผู้สังเกตการณ์ และค่าต้องถูกยอมรับ โดยตนเอง และผู้อ่านเป็นการหลีกเลี่ยงไม่ได้ส่วนของผลลัพธ์ (แอปเปิล 1997 เดเลน 1997 Guba และลินคอล์น 1989 วิ 1997)ในการวิจัยหา วิธีการที่จะให้โต้ และ epistemological เหมาะกับตำแหน่งของเรา แนะนำการสำรวจแนวคิดแบบสร้างสรรค์นิยมความสูตรทฤษฎี ผู้เขียนหลายระบุทฤษฎีป่นเล็กน้อยเมื่อมันได้รับการค้ำจุนจากกระบวนทัศน์แบบสร้างสรรค์นิยม (Charmaz, 1994, 1995b2000 McCann & Clark, 2003a, 2003b เนลสันและ Poulin, 1997 Norton, 1999 วิ 1997)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Constructivism เป็นวิธีการที่จำเป็น
เพื่อให้แน่ใจว่าการออกแบบการวิจัยที่แข็งแกร่งนักวิจัยจะต้องเลือกกระบวนทัศน์การวิจัยที่สอดคล้องกับ
ความเชื่อของพวกเขาเกี่ยวกับธรรมชาติของความเป็นจริง สติหนอนบ่อนไส้ความเชื่อดังกล่าวไปสอบปากคำ ontological
ในกรณีแรกจะสว่างเป็นไปได้ทางญาณวิทยาและวิธีการที่มีความ
พร้อมใช้งาน.
เราไม่ได้อย่างรวดเร็วหรือสามารถเข้าถึงได้ง่ายการจัดเรียงของข้อสรุปหรือมติใด ๆ เกี่ยวกับมุมมองของเราเองที่มีลักษณะ
ของความเป็นจริงและความเป็นจริง เราได้รับอิทธิพลโดยประวัติศาสตร์ของเราและบริบททางวัฒนธรรมซึ่งในทางกลับกันรูปร่าง
มุมมองของเราของโลกของการสร้างพลังและความหมายของความเป็นจริง เหล่านี้มักจะข้อสมมติฐาน
เกี่ยวกับโลกที่มีสติและได้รับอนุญาต Constructivism เป็นกระบวนทัศน์การวิจัยที่
ปฏิเสธการดำรงอยู่ของความเป็นจริงวัตถุประสงค์ "เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับความเป็นจริงที่ว่าแทนที่จะมีการก่อสร้างทางสังคมของ
จิตใจและว่ามีอยู่การก่อสร้างดังกล่าวจำนวนมากที่สุดเท่าที่มีเป็นบุคคล (แม้ว่าจะมีหลายอย่างชัดเจน
การก่อสร้างจะใช้ร่วมกัน) "(Guba และลิงคอล์น, 1989, น. 43).
ผู้ที่ปฏิเสธการดำรงอยู่ของความเป็นจริงวัตถุประสงค์ถือว่า relativist ตำแหน่ง ontological
(Guba และลิงคอล์น 1994) relativists อ้างว่าแนวคิดเช่นเหตุผลความเป็นจริงความเป็นจริงที่ถูกต้องดีหรือ
บรรทัดฐานต้องเข้าใจ "ในขณะที่เมื่อเทียบกับโครงการแนวความคิดเฉพาะกรอบทฤษฎีกระบวนทัศน์,
รูปแบบของชีวิตสังคมหรือวัฒนธรรม . . มีจำนวนมากที่ไม่ซึ้งของรูปแบบแนวความคิดดังกล่าว "
(นสไตน์, 1983, น. 8) ในคำอื่น ๆ ในโลกของความเป็นจริงประกอบด้วยหลายบุคคลได้รับอิทธิพลจาก
บริบท.
แสดงออก, constructivism เน้นความสัมพันธ์ส่วนตัวระหว่างนักวิจัย
และผู้เข้าร่วมและ coconstruction ของความหมาย (เฮย์สและ Oppenheim, 1997; นกพิราบและ
Henwood, 1997) นักวิจัยใน "เป็นมนุษย์" เป็นส่วนหนึ่งของการวิจัยความพยายามมากกว่าวัตถุประสงค์
สังเกตการณ์และค่าของพวกเขาจะต้องได้รับการยอมรับจากตัวเองและจากผู้อ่านของพวกเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยง
ส่วนหนึ่งของผล (แอปเปิล, 1997; เดอไลน์, 1997; & Guba ลิงคอล์น, 1989. สแตรทตัน, 1997)
ในการแสวงหาวิธีการวิจัยที่จะให้พอดี ontological และญาณวิทยากับ
ตำแหน่งของเราเราได้นำไปสู่การสำรวจแนวคิดของทฤษฎีคอนสตรัคติ นักเขียนหลายคน
ระบุมีเหตุผลทฤษฎีเมื่อมีการสนับสนุนโดยกระบวนทัศน์คอนสตรัคติ (Charmaz 1994, 1995b,
2000; McCann และคลาร์ก, 2003a, 2003b; เนลสันและ Poulin, 1997; นอร์ตัน 1999; Stratton, 1997)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สรรค์เป็น
ขวางวิธีการเพื่อให้แน่ใจว่าการออกแบบการวิจัยที่รัดกุม นักวิจัยต้องเลือกวิจัยกระบวนทัศน์ที่สอดคล้องกับ
ความเชื่อเกี่ยวกับธรรมชาติของความเป็นจริง consciously subjecting ความเชื่อดังกล่าวเพื่อสอบสวนภววิทยา
ในกรณีแรกจะเปล่งญาณวิทยาและวิธีการความเป็นไปได้ที่

พร้อมเราไม่รวดเร็วหรือง่ายดายถึงข้อสรุปหรือมติใดๆ เกี่ยวกับมุมมองของเราเองของธรรมชาติ
ความจริงและความเป็นจริง เราทุกคนได้รับอิทธิพลจากประวัติศาสตร์และบริบท วัฒนธรรมของเรา ซึ่งในการเปิด รูปร่าง
มุมมองของเราของโลก พลังแห่งการสร้างสรรค์ และความหมายของความจริง เหล่านี้มักจะอ้างอิงสมมติฐาน
เกี่ยวกับโลกสลบ และมองข้ามสรรค์เป็นงานวิจัยกระบวนทัศน์ที่
ปฏิเสธการดำรงอยู่ของวัตถุประสงค์จริง " ยืนยันแทนว่า ความเป็นจริงการก่อสร้างทางสังคมของจิต ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมาก เช่น ที่ดินตามที่มีบุคคล ( แม้ว่าจะชัดเจนมาก
ที่ดินจะถูกใช้ร่วมกัน ) " ( กูบ้า&ลินคอล์น , 2532 , หน้า 43 ) .
บุคคลที่ปฏิเสธการดำรงอยู่ของวัตถุประสงค์จริงถือว่า relativist ภววิทยาตำแหน่ง
( กูบ้า&ลินคอล์น , 1994 ) relativists อ้างว่าแนวคิดเช่นเหตุผล , ความจริง , ความเป็นจริง , ถูก , ดี , หรือ
บรรทัดฐานต้องเข้าใจ " เป็นญาติกับ เฉพาะ แนวคิดแบบ กรอบแนวคิด กระบวนทัศน์ ทฤษฎี
รูปแบบของชีวิต สังคม หรือวัฒนธรรม . . . . . . .มีไม่หลายฝ่าย เช่น โครงการลดแนวคิด "
( Bernstein , 2526 , หน้า 8 ) ในคำอื่น ๆในโลกประกอบด้วยหลายบุคคล โดยได้รับอิทธิพลจากบริบทความเป็นจริง
.
epistemologically คอนสต , เน้นความสัมพันธ์ส่วนตัวระหว่างผู้วิจัย
และผู้เข้าร่วม และ coconstruction ความหมาย ( เฮย์&โอพเพนไฮม์ , 1997 ; พิดจิ้น&
เฮนวู๊ด , 1997 ) นักวิจัยใน humanness " , " เป็นส่วนหนึ่งของงานวิจัยมากกว่าผู้สังเกตการณ์วัตถุประสงค์
, และค่าของพวกเขาจะต้องได้รับการยอมรับจากตัวเองและผู้อ่านของพวกเขาเป็น inevitable
ส่วนหนึ่งของผล ( แอปเปิลตัน , 1997 ; เดอเลน , 1997 ; กูบา&ลินคอล์น , 1989 ; Stratton , 1997 ) .
หางานวิจัย วิธีการที่จะให้พอดีกับภววิทยาญาณวิทยากับ
และตำแหน่งของเราเรานำสำรวจแนวคิดของทฤษฎีคอนส . ผู้เขียนหลาย
ระบุทฤษฎีเมื่อมันถูกสนับสนุนโดยคอนสกระบวนทัศน์ ( charmaz 1994 1995b
, 2000 ; แคน&คลาร์ก 2003a 2003b ; เนลสัน , &พูแลน , 1997 ; Norton , 1999 ; Stratton , 1997 )