AbstractINTRODUCTION:This study was

Abstract
INTRODUCTION:
This study was carried out at nine (9) special schools for disabled children in Albania. The aim of the study is to determine the caries prevalence and oral hygiene status of children with different disabilities attending different schools for disabled at Albania.
METHODS:
Participants are grouped according disability Autistic Spectrum Disorder, Down syndrome, Cerebral Palsy, Mental Retarded, Blind, Deaf-Mute and age group (0-5, 6-10, 11-14, 15-18 years old children). Caries and oral health status were examined and assessed according WHO 1997 criteria.
RESULTS:
Overall caries prevalence at permanent dentition for all groups is 85.3% and for primary dentition 72%. The mean deft index is 3.4 ± 3.5(p≤0.029), mean DMFT= 4.9±4.6 (p≤0.001) with significance difference across type of disability (Kruskal-Wallis test) for both dentition. The mean OHI-S of total population is 1.91; there is significant difference across disability type (p≤0.001, Anova test) for OHI-S index. In total 43.2 % have good, 49.4% fair and 7.4% bad oral hygiene.
CONCLUSIONS:
The subjects in this study had a high prevalence of dental caries, poor oral hygiene and need for restorative care.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทคัดย่อแนะนำ:การศึกษานี้ได้รับการดำเนินที่เก้า (9) พิเศษโรงเรียนสำหรับเด็กพิการในแอลเบเนีย จุดมุ่งหมายของการศึกษาคือ กำหนดชุกผุ และสถานะสุขภาพช่องปากเด็กพิการต่าง ๆ เข้าโรงเรียนต่าง ๆ สำหรับคนพิการที่แอลเบเนียวิธีการ:ผู้เรียนมีความพิการตามกลุ่มโรคสเปกตรัม Autistic ดาวน์ สมอง Retarded จิต ตาบอด Deaf-Mute และกลุ่มอายุ (0-5, 6-10, 11-14, 15-18 ปีเด็ก) ผุและสถานะสุขภาพของช่องปากได้ตรวจสอบ และประเมินตามเกณฑ์ปี 1997 คนผลลัพธ์:คำ ผุชุกที่ dentition ถาวรสำหรับกลุ่มทั้งหมดเป็น 85.3% และ % 72 dentition หลัก เป็นดัชนีมือดีเฉลี่ย 3.4 ± 3.5(p≤0.029) หมายถึง DMFT = 4.9±4.6 (p≤0.001) มีความสำคัญความแตกต่างระหว่างชนิดของความพิการ (การทดสอบ Kruskal วาลลิ) สำหรับ dentition ทั้งนั้น หมายความว่าดีครับ OHI S ของประชากรเป็น 1.91 มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญในประเภทความพิการ (p≤0.001 ทดสอบการวิเคราะห์ความแปรปรวน) ดัชนี S ดีครับ OHI รวม 43.2% ได้ดี ธรรม 49.4% และ 7.4% อนามัยช่องปากไม่ดีบทสรุป:หัวข้อในการศึกษานี้มีความชุกสูงของฟันผุ อนามัยช่องปากที่ดี และจำเป็นสำหรับการดูแลฟื้นฟู

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทคัดย่อ
บทนำ:
การศึกษาครั้งนี้ได้ดำเนินการที่เก้า (9) โรงเรียนพิเศษสำหรับเด็กพิการในอัลบาเนีย จุดมุ่งหมายของการศึกษาคือการกำหนดความชุกโรคฟันผุและสถานะสุขภาพช่องปากของเด็กที่มีความพิการที่แตกต่างกันเข้าโรงเรียนแตกต่างกันสำหรับคนพิการที่แอลเบเนีย.
วิธีการ:
ผู้เข้าร่วมเป็นกลุ่มตามความพิการออทิสติกสเปกตรัมผิดปกติ, ดาวน์ซินโดร, สมองพิการปัญญาอ่อนจิต, คนตาบอด หูหนวกใบ้และกลุ่มอายุ (0-5, 6-10, 11-14, 15-18 ปีเด็กอายุ) โรคฟันผุและสถานะสุขภาพช่องปากที่มีการตรวจสอบและการประเมินตามเกณฑ์ขององค์การอนามัยโลก 1997.
ผลการศึกษา:
ความชุกโรคฟันผุโดยรวมที่งอกถาวรสำหรับทุกกลุ่มเป็น 85.3% และงอกหลัก 72% ค่าเฉลี่ยดัชนีคล่องแคล่วคือ 3.4 ± 3.5 (p≤0.029) ค่าเฉลี่ยฟันผุถอนอุด = 4.9 ± 4.6 (p≤0.001) มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทั่วประเภทของความพิการ (ทดสอบ Kruskal-Wallis) สำหรับงอกทั้ง เฉลี่ย OHI-S ของประชากรทั้งหมดคือ 1.91; มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทั่วประเภทความพิการ (p≤0.001ทดสอบ Anova) สำหรับดัชนี OHI-S รวม 43.2% มีดี 49.4% ที่เป็นธรรมและ 7.4% สุขอนามัยช่องปากไม่ดี.
สรุป
วิชาในการศึกษาครั้งนี้มีความชุกสูงของโรคฟันผุ, สุขอนามัยช่องปากที่ไม่ดีและจำเป็นสำหรับการดูแลบูรณะ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บทคัดย่อ : บทนำ

ศึกษาที่เก้า ( 9 ) โรงเรียนพิเศษสำหรับเด็กพิการในแอลเบเนีย จุดมุ่งหมายของการศึกษาคือ เพื่อศึกษาความชุกของภาวะโรคฟันผุและอนามัยช่องปากของเด็กที่มีความพิการเข้าต่างโรงเรียนสำหรับคนพิการในแอลเบเนีย .

วิธีการเข้าร่วมการจัดกลุ่มตามความพิการออทิสติกสเปกตรัมโรคดาวน์ซินโดรม ,สมองพิการ ปัญญาอ่อน โรคจิต คนตาบอด หูหนวก เป็นใบ้ และกลุ่มอายุ ( 0-5 , 6-10 , 000 เด็ก 15-18 ปี ) สภาวะสุขภาพช่องปากและการตรวจร่างกายและประเมินตามหลักเกณฑ์ที่ 1997 .

โดยรวมผล : ความชุกในการฟันถาวรสำหรับทุกกลุ่มเป็น 85.3 % และหลักฟัน 72 % ค่าเฉลี่ยดัชนีปรับเวลา± 3.5 ( P ≤ 0.029 ) หมายถึง dmft = 4.9 ± 4.6 ( P ≤ 0001 ) กับความแตกต่างในประเภทของความพิการ ( Kruskal Wallis Test ) ทั้งฟัน . ค่าเฉลี่ยของจำนวนประชากรทั้งหมด ohi-s เป็น 1.91 ; มีความแตกต่างในประเภทความพิการ ( P ≤ 0.001 , การทดสอบ ANOVA ) สำหรับดัชนี ohi-s . รวม 43.2 มีที่ดี , 49.4 % ยุติธรรมและ 7.4% อนามัยช่องปากไม่ดี

สรุป : ใช้ในการศึกษานี้มีความชุกสูงของโรคฟันผุยากจนสุขภาพช่องปากและความต้องการการดูแลบูรณะ .