4.3.2 The second research objective

4.3.2 The second research objective: To identify whether there are significant differences between demographic
factors (gender, age and experience), with informal learning cultures in the organisation of teachers
workplace
Results from this study showed that there was no significant difference using gender as a factor against a culture
of informal learning in work organisations. T tests showed that all seven of these informal learning cultures of
continuous learning (p = 0392), dialogue and inquiry (p = 0507), team learning (p = 0924), creating a system (p =
0869), authorise (p = 0.707), the relationship (p = 0692) and leadership (p = 0403) were not significant based on
gender. According to Liebowitz and Chen (2003), differences in attitudes and interest among gender will influence
the readiness to learn. The findings also revealed that men are usually more interested in taking science and
mathematics, while women will take home economics and other subjects. Study conducted by Royo and Mahmood
(2006) also showed that significant differences in learning cultures between males and females also contributes to
the difference in their performance.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

4.3.2 วัตถุประสงค์การวิจัยที่สอง: ในการระบุว่ามีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญระหว่างประชากร
ปัจจัย (เพศอายุและประสบการณ์) ที่มีวัฒนธรรมการเรียนรู้ทางการในองค์กรของครู
ในสถานที่ทำงาน
ผลลัพธ์ที่ได้จากการศึกษาครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญโดยใช้เพศเป็น ปัจจัยกับวัฒนธรรม
ของการเรียนรู้อย่างไม่เป็นทางการในองค์กรทำงาน การทดสอบแสดงให้เห็นว่า T ทั้งเจ็ดของวัฒนธรรมการเรียนรู้เหล่านี้อย่างไม่เป็นทางการของ
การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง (p = 0392) การเจรจาและสอบถามรายละเอียด (p = 0507) ทีมการเรียนรู้ (p = 0924), การสร้างระบบ (p =
0869) อนุญาต (p = 0.707) ความสัมพันธ์ (p = 0692) และความเป็นผู้นำ (p = 0403) ไม่ได้มีนัยสำคัญขึ้นอยู่กับ
เพศ ตาม Liebowitz และเฉิน (2003), ความแตกต่างในทัศนคติและความสนใจในหมู่เพศจะมีผลต่อ
การเตรียมความพร้อมที่จะเรียนรู้ ผลการวิจัยยังพบว่าผู้ชายมักจะสนใจมากขึ้นในการใช้วิทยาศาสตร์และ
คณิตศาสตร์ในขณะที่ผู้หญิงจะใช้เวลาคหกรรมและวิชาอื่น ๆ การศึกษาที่จัดทำโดย Royo และลอย
(2006) ยังพบว่าแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญในการเรียนรู้วัฒนธรรมระหว่างเพศชายและหญิงยังก่อให้เกิด
ความแตกต่างในการทำงานของพวกเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

4.3.2 ที่สองการวิจัย วัตถุประสงค์ : เพื่อศึกษาว่ามีความแตกต่างระหว่างปัจจัยส่วนบุคคล
( เพศ อายุ และประสบการณ์ ) กับวัฒนธรรมการเรียนรู้นอกระบบในองค์กรของครูที่ทำงาน

ผลจากการศึกษานี้แสดงให้เห็นว่าไม่มีความแตกต่างโดยใช้เพศเป็นปัจจัยต่อวัฒนธรรมการเรียนรู้ในองค์กรทำงานอย่าง
.ทดสอบ t พบว่าทั้ง 7 ลักษณะการเรียนรู้วัฒนธรรมของ
การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ( P = 0392 ) สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม และการสนทนา ( P = 0507 ) การเรียนรู้ร่วมกันเป็นทีม ( P = กระดาษ ) , การสร้างระบบ ( P =
0869 ) อนุญาต ( P = 0.707 ) ความสัมพันธ์ ( P = 0692 ) และภาวะผู้นำ ( p = 0403 ) ที่สําคัญไม่ได้ขึ้นอยู่กับ
เพศ ตามลีเบอวิตส์ และ เฉิน ( 2003 )ความแตกต่างในทัศนคติและความสนใจของเพศจะมีอิทธิพลต่อ
ความพร้อมที่จะเรียนรู้ ผลการวิจัยยังพบว่าผู้ชายมักจะสนใจในวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์
ถ่าย ในขณะที่ผู้หญิงจะใช้เศรษฐศาสตร์และวิชาอื่น ๆ และการศึกษาโดย royo Mahmood
( 2006 ) นอกจากนี้ยังพบว่า ความแตกต่างในการเรียนรู้วัฒนธรรมระหว่างเพศชายและเพศหญิงที่มี
ความแตกต่างในการปฏิบัติงานของตนเอง