Vitamin E refers to a group of comp

Vitamin E refers to a group of compounds that include both tocopherols and tocotrienols.[1] Of the many different forms of vitamin E, γ-tocopherol is the most common form found in the North American diet.[2] γ-Tocopherol can be found in corn oil, soybean oil, margarine, and dressings.[3][4] α-tocopherol, the most biologically active form of vitamin E, is the second-most common form of vitamin E in the diet. This variant can be found most abundantly in wheat germ oil, sunflower, and safflower oils.[4][5] As a fat-soluble antioxidant, it stops the production of reactive oxygen species formed when fat undergoes oxidation.[6][7][8] Regular consumption of more than 1,000 mg (1,500 IU) of tocopherols per day[9] may be expected to cause hypervitaminosis E, with an associated risk of vitamin K deficiency and consequently of bleeding problems.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วิตามินหมายถึงกลุ่มของสาร tocopherols และ tocotrienols [1] ของแบบฟอร์มแตกต่างกันมากของวิตามินอี γ-tocopherol เป็นแบบฟอร์มทั่วไปที่พบในอาหารอเมริกาเหนือ [2] γ-Tocopherol ที่สามารถพบได้ในน้ำมันข้าวโพด น้ำมันถั่วเหลือง เนยเทียม และแผล [3] [4] ด้วยกองทัพ-tocopherol แบบฟอร์มมากที่สุดชิ้นงานของวิตามินอี แบบฟอร์มที่สองส่วนใหญ่ทั่วไปของวิตามินอีในอาหารได้ สามารถพบตัวแปรนี้อุดมสมบูรณ์มากที่สุดในน้ำมันจมูกข้าวสาลี ทานตะวัน และน้ำมันดอกคำฝอย [4] [5] เป็นการ fat-soluble สารต้านอนุมูลอิสระ จะหยุดผลิตชนิดออกซิเจนปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นเมื่อไขมันผ่านการเกิดออกซิเดชัน [6] [7] [8] มากกว่า 1000 มิลลิกรัม (1500 IU) ของ tocopherols ต่อวัน [9] ปกติใช้อาจคาดว่าทำให้ hypervitaminosis E กับความเสี่ยงเกี่ยวข้องขาดวิตามิน K และดังของปัญหาเลือดออกได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วิตามิน อี หมายถึงกลุ่มของสารประกอบที่ประกอบด้วยทั้งโทโคฟีรอลและโทโคไทรอีน [ 1 ] ของที่แตกต่างกันหลายรูปแบบของวิตามิน E , γรอล เป็นรูปแบบที่พบมากที่สุดที่พบในอาหารอเมริกาเหนือ [ 2 ] γรอลสามารถพบได้ในข้าวโพดน้ำมันถั่วเหลืองน้ำมัน มาร์การีน และน้ำสลัด . 3 ] [ 4 ] แอลฟาโทโคเฟอรอล รูปแบบส่วนใหญ่ที่ใช้งานทางชีวภาพของวิตามินอีเป็นรูปแบบที่พบมากที่สุดที่สองของวิตามินอีในอาหาร ตัวแปรนี้สามารถพบมากที่สุดมากในจมูกข้าวสาลี น้ำมันทานตะวัน และน้ำมันดอกคำฝอย [ 4 ] [ 5 ] เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ละลายในไขมัน มันก็จะหยุดการผลิตของชนิดออกซิเจนปฏิกิริยาออกซิเดชันเกิดขึ้นเมื่อผ่านไขมัน [ 6 ] [ 7 ] [ 8 ] การบริโภคปกติของมากกว่า 1000 มิลลิกรัม ( 1500 IU ) โทโคฟีรอลต่อวัน [ 9 ] คาดว่าอาจจะเพราะ hypervitaminosis E ที่มีความเสี่ยงของการขาดวิตามิน K เกี่ยวข้องและจึงมีปัญหา