In December 1941, Japan attacked Pe

In December 1941, Japan attacked Pearl Harbor and the east coast of Malaya, causing the Pacific War to begin in earnest. Both attacks occurred at the same time, but due to the international dateline, the Honolulu attack is dated December 7 while the Kota Bharu attack is dated December 8. One of Japan's objectives was to capture Southeast Asia and secure the rich supply of natural resources to feed its military and industry needs. Singapore, the main Allied base in the region, was an obvious military target because of its flourishing trade and wealth. The British military commanders in Singapore had believed that the Japanese attack would come by sea from the south, since the dense Malayan jungle in the north would serve as a natural barrier against invasion. Although they had drawn up a plan for dealing with an attack on northern Malaya, preparations were never completed. The military was confident that "Fortress Singapore" would withstand any Japanese attack and this confidence was further reinforced by the arrival of Force Z, a squadron of British warships dispatched to the defense of Singapore, including the battleship HMS Prince of Wales, and cruiser HMS Repulse. The squadron was to have been accompanied by a third capital ship, the aircraft carrier HMS Indomitable, but it ran aground en route, leaving the squadron without air cover.

On 8 December 1941, Japanese forces landed at Kota Bharu in northern Malaya. Just two days after the start of the invasion of Malaya, Prince of Wales and Repulse were sunk 50 miles off the coast of Kuantan in Pahang, by a force of Japanese bombers and torpedo bomber aircraft, in the worst British naval defeat of World War II. Allied air support did not arrive in time to protect the two capital ships.[36] After this incident, Singapore and Malaya suffered daily air raids, including those targeting civilian structures such as hospitals or shophouses with casualties ranging from the tens to the hundreds each time.

The Japanese army advanced swiftly southward through the Malay Peninsula, crushing or bypassing Allied resistance.[37] The Allied forces did not have tanks, which they considered unsuitable in the tropical rainforest, and their infantry proved powerless against the Japanese light tanks. As their resistance failed against the Japanese advance, the Allied forces were forced to retreat southwards towards Singapore. By 31 January 1942, a mere 55 days after the start of the invasion, the Japanese had conquered the entire Malay Peninsula and were poised to attack Singapore.[38]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในเดือน 1941 ธันวาคม ญี่ปุ่นโจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์และฝั่งตะวันออกของสหพันธรัฐมาลายา สาเหตุสงครามแปซิฟิคจะเริ่มต้นอย่างจริงจัง ทั้งโจมตีที่เกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน แต่เนื่องจาก dateline นานาชาติ โจมตีโฮโนลูลูเป็นลงวันที่ 7 ธันวาคมขณะโจมตีตาจะลงวันที่ 8 ธันวาคม หนึ่งในวัตถุประสงค์ของญี่ปุ่นคือการจับภาพเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และทางคนรวยจัดหาทรัพยากรธรรมชาติเพื่อป้อนความต้องการของทหารและอุตสาหกรรม สิงคโปร์ ฐานพันธมิตรหลักในภูมิภาค เป้าหมายทางทหารชัดเจน เพราะการค้าและความมั่งคั่งเฟื่องฟู ระดับผู้บัญชาการทหารอังกฤษในสิงคโปร์ได้เชื่อว่า การโจมตีญี่ปุ่นจะมาทะเลใต้ ตั้งแต่ป่ามาลายาในภาคเหนือจะทำหน้าที่เป็นกำแพงธรรมชาติต้านการรุกราน ถึงแม้ว่าพวกเขาได้ออกค่าแผนสำหรับจัดการกับการโจมตีสหพันธรัฐมาลายาเหนือ เตรียมได้ไม่สมบูรณ์ ทหารมีความมั่นใจว่า "ป้อมปราการสิงคโปร์" ต้องทนต่อการโจมตีญี่ปุ่น และความเชื่อมั่นนี้ถูกเสริมเพิ่มเติม ด้วยมาแรง Z กองของเรือรบอังกฤษที่ให้การป้องกันของสิงคโปร์ รวมถึงเรือรบเฮชเอ็มเอ็สปริ๊นซ์ออฟเวลส์ ครุยเซอร์เฮชเอ็มเอ็ส Repulse กองได้ถูกติดตาม โดยเรือหลวงสาม บรรทุกเฮชเอ็มเอ็ส Indomitable แต่มันวิ่ง aground เส้น กองไม่ มีฝาครอบแอร์ออกใน 8 1941 ธันวาคม ที่ดินกองกำลังญี่ปุ่นที่โกตาบารูในมาลายาเหนือ เพียงสองวันหลังจากเริ่มต้นของการบุกรุกของสหพันธรัฐมาลายา ปริ๊นซ์ออฟเวลส์และ Repulse ถูกจมหายไป 50 ไมล์จากชายฝั่งกวนใน Pahang แรงระเบิดพลีชีพที่ญี่ปุ่นและอากาศยานเครื่องบินทิ้งระเบิดตอร์ปิโด ในพ่ายแพ้กองทัพเรืออังกฤษเลวร้ายที่สุดของสงครามโลกครั้งที่สอง สนับสนุนพันธมิตรไม่ได้ได้มาถึงในเวลาปกป้องเรือหลวงสอง [36] หลังจากเหตุการณ์นี้ สหพันธรัฐมาลายาและสิงคโปร์ประสบปะทะอากาศรายวัน รวมทั้งโครงสร้างที่พลเรือน targeting เช่นโรงพยาบาลหรือห้องแถว มีตั้งแต่หลักสิบไปหลักร้อยแต่ละครั้งจำนวนผู้บาดเจ็บกองทัพญี่ปุ่นสูงอย่างรวดเร็วตอนใต้ถึงมลายู บด หรือต่อต้านฝ่ายสัมพันธมิตร [37] กองกำลังฝ่ายสัมพันธมิตรไม่มีถัง ซึ่งพวกเขาถือว่าไม่เหมาะสมในป่า และทหารราบของพวกเขาพิสูจน์แล้วว่าใช้กับรถถังเบาญี่ปุ่น เป็นความล้มเหลวกับล่วงหน้าญี่ปุ่น กองกำลังฝ่ายสัมพันธมิตรถูกบังคับให้ถอย southwards ต่อสิงคโปร์ โดย 31 มกราคมพ.ศ. 2485 เป็นเพียง 55 วันนับจากวันเริ่มต้นของการบุกรุก ญี่ปุ่นมีแปลกมลายูทั้งหมด และมีการทรงตัวเพื่อโจมตีสิงคโปร์ [38]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในเดือนธันวาคมปี 1941 ญี่ปุ่นโจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์และชายฝั่งตะวันออกของแหลมมลายูที่ก่อให้เกิดสงครามในมหาสมุทรแปซิฟิกที่จะเริ่มต้นอย่างจริงจัง ทั้งการโจมตีที่เกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน แต่เนืองจากวันเดือนปีต่างประเทศโจมตีโฮโนลูลูลงวันที่ 7 ธันวาคมในขณะที่การโจมตีโกตาบารูลงวันที่ 8 ธันวาคมหนึ่งในวัตถุประสงค์ของญี่ปุ่นคือการจับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และมีความปลอดภัยแหล่งที่อุดมไปด้วยทรัพยากรทางธรรมชาติที่จะ ฟีดทหารและความต้องการของอุตสาหกรรม สิงคโปร์ฐานพันธมิตรหลักในภูมิภาคเป็นเป้าหมายทางทหารที่เห็นได้ชัดเพราะการค้าที่เจริญรุ่งเรืองและความมั่งคั่ง ผู้บัญชาการทหารอังกฤษในสิงคโปร์มีความเชื่อว่าการโจมตีของญี่ปุ่นจะมาจากทะเลจากทางทิศใต้ตั้งแต่ป่ามลายูหนาแน่นในภาคเหนือจะทำหน้าที่เป็นกำแพงธรรมชาติต่อต้านการรุกราน แม้ว่าพวกเขาจะได้ดึงขึ้นมาวางแผนในการจัดการกับการโจมตีในทางตอนเหนือของแหลมมลายูเตรียมไม่เคยเสร็จ ทหารก็มั่นใจว่า "ป้อมสิงคโปร์" จะทนต่อการโจมตีของญี่ปุ่นและความเชื่อมั่นนี้ถูกเสริมต่อไปโดยการมาถึงของกองทัพซีกองเรือของเรือรบอังกฤษส่งไปยังกระทรวงกลาโหมของสิงคโปร์รวมทั้งเรือรบ HMS เจ้าชายแห่งเวลส์และเรือลาดตระเวนร ขับไล่ กองทหารที่กำลังจะได้รับพร้อมด้วยเรือรบสามเรือบรรทุกเครื่องบินรเอาชนะไม่ได้ แต่มันวิ่งบนพื้นดินบนเส้นทางที่ออกจากกองเรือโดยไม่ต้องอากาศ. ที่ 8 ธันวาคม 1941 กองทัพญี่ปุ่นลงจอดที่โกตาบารูในภาคเหนือของแหลมมลายู เพียงสองวันหลังจากการเริ่มต้นของการบุกรุกของแหลมมลายูเจ้าชายแห่งเวลส์และผลักจม 50 ไมล์นอกชายฝั่งของกวนตันในปะหังโดยแรงระเบิดญี่ปุ่นและตอร์ปิโดเครื่องบินทิ้งระเบิดในความพ่ายแพ้เรืออังกฤษที่เลวร้ายที่สุดของสงครามโลกครั้งที่สอง . การสนับสนุนทางอากาศของฝ่ายพันธมิตรไม่ประสบความสำเร็จในเวลาที่จะปกป้องเรือสองลำทุน. [36] หลังจากเหตุการณ์นี้สิงคโปร์และแหลมมลายูได้รับความเดือดร้อนการโจมตีทางอากาศในชีวิตประจำวันรวมทั้งผู้ที่กำหนดเป้าหมายโครงสร้างพลเรือนเช่นโรงพยาบาลหรือร้านค้าที่มีการบาดเจ็บล้มตายตั้งแต่นับไปนับร้อยในแต่ละ เวลา. กองทัพญี่ปุ่นขั้นสูงอย่างรวดเร็วไปทางทิศใต้ผ่านคาบสมุทรมลายูบดหรือผ่านพันธมิตรต้านทาน. [37] กองกำลังพันธมิตรไม่ได้มีรถถังซึ่งพวกเขาคิดว่าไม่เหมาะสมในป่าฝนเขตร้อนและทหารราบของพวกเขาพิสูจน์แล้วว่าไม่มีอำนาจที่ต่อต้านรถถังเบาญี่ปุ่น ในฐานะที่พวกเขาล้มเหลวในการต้านทานต่อล่วงหน้าญี่ปุ่น, กองกำลังพันธมิตรถูกบังคับให้ต้องล่าถอยไปทางทิศใต้ไปทางสิงคโปร์ วันที่ 31 มกราคม 1942 เพียง 55 วันหลังจากที่เริ่มต้นของการบุกรุกที่ญี่ปุ่นจะสามารถเอาชนะได้ทั้งคาบสมุทรมลายูและก็พร้อมที่จะโจมตีสิงคโปร์. [38]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในเดือนธันวาคม 2484 ญี่ปุ่นโจมตีเพิร์ลฮาเบอร์และชายฝั่งตะวันออกของแหลมมลายู ก่อให้เกิดสงครามแปซิฟิกเริ่มอย่างจริงจัง ทั้งการโจมตีเกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน แต่เนื่องจากการขีดเส้นตายนานาชาติ , การโจมตีโฮโนลูลูลงวันที่ 7 ธันวาคมในขณะที่ Kota Bharu โจมตีลงวันที่ 8 ธันวาคม .หนึ่งในวัตถุประสงค์ของญี่ปุ่นได้จับภาพ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และการจัดหาที่อุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติให้ทหารของตนและความต้องการของอุตสาหกรรม สิงคโปร์ เป็นฐานหลักในภูมิภาค มีเป้าหมายที่ชัดเจน เพราะทหารของความรุ่งเรืองทางการค้าและความมั่งคั่ง ผู้บัญชาการกองทัพอังกฤษในสิงคโปร์มีความเชื่อว่า การโจมตีของญี่ปุ่นจะมาทางเรือจากใต้เนื่องจากป่ามลายูหนาแน่นในเกาหลีเหนือจะเป็นอุปสรรคธรรมชาติต่อต้านการรุกราน ถึงแม้ว่าพวกเขาได้วาดขึ้นแผนเพื่อรับมือกับการโจมตีในภาคเหนือของมลายู การเตรียมการยังไม่แล้วเสร็จ ทหารมั่นใจว่า " ป้อมสิงคโปร์ " จะทนต่อญี่ปุ่นโจมตีและความเชื่อมั่นนี้ยังเสริมด้วยการมาถึงของแรง ซีฝูงบินอังกฤษส่งเรือรบป้องกันของสิงคโปร์รวมทั้งเจ้าชายเรือรบและเรือ HMS HMS ของเวลส์ , การขับไล่ ฝูงบินที่จะได้รับมาพร้อมกับเรือทุน 3 , เรือบรรทุกเครื่องบิน HMS กร้าว แต่มันวิ่งบนพื้นดินบนเส้นทางออกจากฝูงบินไร้อากาศ

วันที่ 8 ธันวาคม 2484 กองทัพญี่ปุ่นยกพลขึ้นบกที่ Kota Bharu ทางตอนเหนือของแหลมมลายูเพียงแค่สองวันหลังจากที่เริ่มต้นของการรุกรานของแหลมมลายู เจ้าชายแห่งเวลส์ และ ขับไล่ ถูกจม 50 ไมล์จากชายฝั่งของ กวนตัน ใน ปะหัง โดยแรงระเบิดที่ญี่ปุ่น และเครื่องบินทิ้งระเบิดตอร์ปิโดอากาศยานที่เลวร้ายที่สุดในอังกฤษ เอาชนะ กองทัพเรือของสงครามโลกครั้งที่ อากาศสนับสนุนพันธมิตรไม่ได้มาถึงในเวลาเพื่อปกป้องสองเรือทุน [ 36 ] หลังจากเหตุการณ์นี้ สิงคโปร์และแหลมมลายูมาบุกอากาศรายวันรวมทั้งเป้าหมายพลเรือนโครงสร้าง เช่น โรงพยาบาล หรือตึกแถวมีผู้เสียชีวิตตั้งแต่หลักสิบถึงร้อยละ

กองทัพญี่ปุ่นขั้นสูงอย่างรวดเร็วใต้ผ่านคาบสมุทรมลายูบดหรือผ่านพันธมิตรต่อต้าน [ 37 ] กองกำลังพันธมิตรไม่ได้มีถัง ซึ่งพวกเขาถือว่าไม่เหมาะสมในป่าฝนเขตร้อน ,และทหารราบของพวกเขาพิสูจน์แล้วว่าไม่มีอำนาจต่อต้านรถถังเบาของญี่ปุ่น เป็นความต้านทานของพวกเขาล้มเหลวกับล่วงหน้าของญี่ปุ่น กองกำลังพันธมิตร ถูกบังคับให้ต้องล่าถอยไปทางใต้สู่สิงคโปร์ โดย 31 มกราคม 1942 เพียง 55 วันหลังจากที่เริ่มต้นของการรุกราน คนญี่ปุ่นเข้ายึดครองคาบสมุทรมลายูทั้งหมดและทรงตัวเพื่อโจมตีสิงคโปร์ [ 38 ]