American Society of Animal Science

American Society of Animal Science members, publishing in Journal of Animal Science (JAS), completed research that resulted in understanding the estrous cycle of cattle, which led to the ability to inseminate cattle on a given day with pregnancy rates similar to those achieved by 21-d breeding by a fertile and sound bull. Research published in JAS led to understanding estrus, ovulation, the estrous cycle, and postpartum interval for cattle (1930s through 1960s) and hormonal factors affecting corpus luteum lifespan of cattle (1950s through 1980s). Research during the 1940s to 1960s, using gonadotropins and progesterone to manage the estrous cycle of cattle, established the concepts for estrous synchronization and stimulated commercial research directed at developing cost-effective progestogen estrous synchronization products, leading to commercially available products from 1967 through today (Repromix, melengestrol acetate, Syncro-Mate-B, controlled internal drug release). Prostaglandin F2α products were approved for estrous synchronization (1970s, 1980s), and GnRH products were approved for use in cattle to treat ovarian follicular cysts (1970s, 1980s). Research published in JAS was essential for understanding the biology of and potential value of both PGF2α and GnRH and contributed both to new knowledge and scientific bases for future Food and Drug Administration Center for Veterinary Medicine approval of those products. Research during the1980s through 2000s led to understanding ovarian follicular waves and described the timing of follicular recruitment, selection, dominance, and atresia; this research was essential for the ability to effectively manage follicles to achieve success with timed AI. The knowledge gained through research published in JAS resulted in development of the numerous estrous synchronization and breeding management protocols that are cost-effective and meet the breeding management needs of most beef and dairy enterprises.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สังคมอเมริกันของสมาชิกสัตวศาสตร์, การเผยแพร่ในวารสารวิทยาศาสตร์สัตว์ (JAS), การวิจัยเสร็จสิ้นที่มีผลในการทำความเข้าใจวงจรการเป็นสัดของโคซึ่งนำไปสู่​​ความสามารถในการเพาะเชื้อวัวในวันที่กำหนดมีอัตราการตั้งครรภ์คล้ายกับผู้ที่ประสบความสำเร็จโดย 21 การปรับปรุงพันธุ์ -d โดยวัวที่อุดมสมบูรณ์และเสียง งานวิจัยที่ตีพิมพ์ใน JAS นำไปสู่​​ความเข้าใจตกมัน, การตกไข่วงจรการเป็นสัดและช่วงหลังคลอดสำหรับวัว (1930 ผ่าน 1960) และปัจจัยที่มีผลต่อฮอร์โมนอายุการใช้งานคลังข้อมูล luteum ของวัว (ปี 1950 ผ่าน 1980) การวิจัยในช่วงทศวรรษที่ 1940 เพื่อ 1960 โดยใช้ gonadotropins และ progesterone ในการจัดการวงจรการเป็นสัดของโคจัดตั้งแนวคิดสำหรับการประสานการเป็นสัดและกระตุ้นการวิจัยเชิงพาณิชย์กำกับที่พัฒนา progestogen ค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์การประสานการเป็นสัดที่นำไปสู่​​สินค้าที่มีจำหน่ายในเชิงพาณิชย์จาก 1967 ถึงวันนี้ ( Repromix, อะซิเตท melengestrol, Syncro-Mate-B, ควบคุมการปลดปล่อยตัวยาเสพติดภายใน) ผลิตภัณฑ์ prostaglandin F2αได้รับการอนุมัติสำหรับการประสานการเป็นสัด (1970, 1980) และผลิตภัณฑ์ GnRH ได้รับการอนุมัติสำหรับการใช้งานในวัวในการรักษาซีสต์รังไข่ follicular (1970, 1980) งานวิจัยที่ตีพิมพ์ใน JAS เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการทำความเข้าใจชีววิทยาและค่าศักยภาพของทั้งสองPGF2αและ GnRH และมีส่วนทั้งความรู้ใหม่และฐานทางวิทยาศาสตร์สำหรับอาหารและในอนาคตศูนย์ยาเพื่อขออนุมัติสัตวแพทยศาสตร์ของผลิตภัณฑ์เหล่านั้น การวิจัยในช่วง the1980s ผ่านยุค 2000 นำไปสู่​​การทำความเข้าใจคลื่น follicular รังไข่และอธิบายระยะเวลาของการรับสมัคร follicular เลือกการปกครองและ atresia; การวิจัยครั้งนี้เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับความสามารถในการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพรูขุมประสบความสำเร็จกับการตั้งเวลา AI ความรู้ที่ได้ผ่านการวิจัยที่ตีพิมพ์ใน JAS ผลในการพัฒนาของการประสานการเป็นสัดมากมายและโปรโตคอลผสมพันธุ์การจัดการที่มีค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพและตอบสนองความต้องการการจัดการการผสมพันธุ์ของเนื้อวัวมากที่สุดและผู้ประกอบการนม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สังคมของสมาชิกสัตวศาสตร์สหรัฐอเมริกา เผยแพร่ในวารสารสัตวศาสตร์ ( แจ๊ส ) , การวิจัยที่สมบูรณ์ที่ส่งผลให้เกิดความเข้าใจวงจรการเป็นสัดของโค ซึ่งนำไปสู่ความสามารถในการผสมเทียมโค ในวันหนึ่ง มีอัตราใกล้เคียงกับความ 21-d ผสมพันธุ์โดยอุดมสมบูรณ์และเสียงวัวตั้งครรภ์ งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในแจ๊ส ที่จะนำไปสู่ความเข้าใจกลไกการตกไข่ ,วงจรการเป็นสัด และช่วงหลังคลอดโค ( 1930 ถึง 1960 ) และฮอร์โมนที่มีผลต่อรังไข่คอร์ปัสลูเตียมอายุขัยของโค ( 1950 ถึง 1980 ) การวิจัยในช่วงทศวรรษ 1960 และการใช้ฮอร์โมนโกนาโดโทรการจัดการวงจรการเป็นสัดของโคสร้างแนวคิดเพื่อประสานและกระตุ้นการเป็นสัดพาณิชย์วิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะโปรเจสโตเจนเป็นสัด สู่ผลิตภัณฑ์ในเชิงพาณิชย์ จากปี 1967 ถึงวันนี้ ( repromix melengestrol acetate , syncro-mate-b ควบคุมการปลดปล่อยยาภายใน )โปรสตาแกลนดิน F2 αผลิตภัณฑ์ได้รับการอนุมัติสำหรับการเป็นสัด ( 1970 , 1980 ) และผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการอนุมัติสำหรับการใช้กล้องจุลทรรศน์ในโคเพื่อรักษารังไข่ follicular ซีสต์ ( 1970 , 1980 )งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในแจ๊ส สำคัญเพื่อความเข้าใจและชีววิทยาของค่าศักยภาพของทั้งสอง pgf2 αกล้องจุลทรรศน์และและสนับสนุนทั้งความรู้ใหม่ทางวิทยาศาสตร์และฐานศูนย์อาหารและยาอนุมัติสัตวแพทย์ในอนาคตของผลิตภัณฑ์เหล่านั้นการวิจัยในช่วงหลังจากปีผ่านยุค ที่จะนำไปสู่ความเข้าใจรังไข่ follicular คลื่นและอธิบายระยะเวลาของ follicular การสรรหา การคัดเลือก การปกครอง และผู้ป่วย การวิจัยนี้เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับความสามารถในการจัดการเพื่อให้บรรลุความสำเร็จกับรูขุมขนหมดเวลาไอได้อย่างมีประสิทธิภาพความรู้ที่ได้จากการวิจัยที่ตีพิมพ์ในแจ๊สเป็นผลในการพัฒนาของการเป็นสัดและผสมพันธุ์หลายโปรโตคอลการจัดการที่มีประสิทธิภาพและตรงกับความต้องการมากที่สุด และ การจัดการผสมพันธุ์วัวนม
Enterprises