Researchers at Caltech discovered i

Researchers at Caltech discovered in 1971 that the circular mitochondrial DNA from growing cells included a short segment of three strands which they called a displacement loop.[1] They found the third strand was a replicated segment of the heavy strand (or H-strand) of the molecule, which it displaced, and was hydrogen bonded to the light strand (or L-strand). Since then, it has been shown that the third strand is the initial segment generated by a replication of the heavy strand that has been arrested shortly after initiation and is often maintained for some period in that state.[2] The D-loop occurs in the main non-coding area of the mitochondrial DNA molecule, a segment called the control region or D-loop region.

Replication of the mitochondrial DNA can occur in two different ways, both starting in the D-loop region.[3] One way continues replication of the heavy strand through a substantial part (e.g. two-thirds) of the circular molecule, and then replication of the light strand begins. The more recently reported mode starts at a different origin within the D-loop region and uses coupled-strand replication with simultaneous synthesis of both strands.[3][4]

Certain bases within the D-loop region are conserved, but large parts are highly variable and the region has proven to be useful for the study of the evolutionary history of vertebrates.[5] The region contains promoters for the transcription of RNA from the two strands of mitochondrial DNA immediately adjacent to the D-loop structure that is associated with initiation of DNA replication.[6] D-loop sequences are also of interest in the study of cancers.[7]

The function of the D-loop is not yet clear, but recent research suggests that it participates in the organization of the mitochondrial nucleoid.[8][9]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

นักวิจัยที่ Caltech พบในปี 1971 ว่า จื่อวงกลมจากเซลล์การเจริญเติบโตรวมช่วงสั้นของเส้นสามซึ่งพวกเขาเรียกว่าลูปแทน [1]พบสาระสาม ส่วนจำลองของสาระหนัก (หรือสแตรนด์ H แรก) ของโมเลกุล ซึ่งมันพลัดถิ่น และไฮโดรเจนโยมแสงสาระ (หรือสแตรนด์ L) หลังจากนั้น มันแสดงว่าสาระสามส่วนแรกที่สร้างขึ้น โดยการจำลองแบบของเดอะสแตรนด์หนักที่ได้ถูกจับกุมหลังจากที่เริ่มต้น และมักจะถูกรักษาไว้สำหรับบางเวลาในรัฐ [2 D-ห่วง]ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ไม่ใช่โค้ดหลักของโมเลกุลดีเอ็นเอยล เป็นส่วนที่เรียกว่าพื้นที่ควบคุมหรือภูมิภาค D-ห่วงการจำลองแบบ DNA ยลสามารถเกิดขึ้นได้สองวิธี ทั้งสองเริ่มต้นในภูมิภาค D-ห่วง [3] ทางหนึ่งต่อการจำลองแบบของสาระหนักผ่านสำคัญชิ้นส่วน (เช่นสองในสาม) ของโมเลกุลแบบวงกลม และเริ่มต้นการจำลองแบบของเดอะสแตรนด์แสง โหมดรายงานเมื่อเร็ว ๆ นี้เพิ่มเติมเริ่มต้นที่จุดเริ่มต้นแตกต่างกันภายในภูมิภาค D-ห่วง และใช้สาระควบคู่การจำลองแบบกับสังเคราะห์พร้อมกันของทั้งสองสาย [3] [4]มี อนุรักษ์บางฐานในภูมิภาค D-ห่วง แต่ส่วนใหญ่จะผันแปรสูง และภูมิภาคได้พิสูจน์ให้เป็นประโยชน์สำหรับการศึกษาประวัติศาสตร์วิวัฒนาการของสัตว์มีกระดูกสันหลัง [5] ในภูมิภาคประกอบด้วยก่อการสำหรับการถอดรหัสของ RNA จากสองเส้นของจื่อติดกับโครงสร้าง D-ห่วงที่เกี่ยวข้องกับการเริ่มต้นของการจำลองดีเอ็นเอ [6] ลำดับ D วงนี้ยังมีความสนใจในการศึกษาโรคมะเร็ง [7]ฟังก์ชันของ D-ห่วงยังไม่ชัดเจน แต่การวิจัยล่าสุดแสดงให้เห็นว่า มีส่วนร่วมในองค์กรของ nucleoid ยล [8] [9]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นักวิจัยที่คาลเทคค้นพบในปี 1971 ว่าวงกลมยลดีเอ็นเอจากเซลล์เจริญเติบโตรวมส่วนสั้นสามเส้นที่พวกเขาเรียกว่าห่วงกระจัด. [1] พวกเขาพบว่าสาระที่สามคือส่วนที่จำลองแบบของสาระหนัก (หรือ H-Strand) ของโมเลกุลซึ่งพลัดถิ่นและถูกผูกมัดกับไฮโดรเจน Strand แสง (หรือ L-Strand) ตั้งแต่นั้นมาก็มีการแสดงให้เห็นว่าสาระที่สามเป็นส่วนเริ่มต้นที่สร้างขึ้นโดยจำลองแบบของ The Strand หนักที่ถูกจับกุมไม่นานหลังจากที่เริ่มต้นและมักจะถูกเก็บรักษาไว้เป็นระยะเวลาบางส่วนในรัฐที่. [2] D-ห่วงเกิดขึ้นในพื้นที่หลักที่ไม่ใช่การเข้ารหัสของโมเลกุลยลดีเอ็นเอส่วนที่เรียกว่าเขตควบคุมหรือ D-ห่วงภูมิภาค.

จำลองแบบของยลดีเอ็นเอสามารถเกิดขึ้นได้ในสองวิธีที่แตกต่างกันทั้งสองเริ่มต้นในภูมิภาค D-ห่วง . [3] วิธีการหนึ่งที่ยังคงการจำลองแบบของสาระหนักผ่านส่วนหนึ่งที่สำคัญ (เช่นสองในสาม) ของโมเลกุลวงกลมแล้วจำลองแบบของสาระแสงเริ่มต้น โหมดอื่น ๆ รายงานเมื่อเร็ว ๆ นี้เริ่มต้นที่ต้นกำเนิดที่แตกต่างกันภายในภูมิภาค D-ห่วงและใช้การจำลองแบบควบคู่สาระกับการสังเคราะห์พร้อมกันของทั้งสองเส้น. [3] [4]

ฐานบางอย่างภายในภูมิภาค D-ห่วงป่าสงวน แต่ชิ้นส่วนที่มีขนาดใหญ่ สูงตัวแปรและภูมิภาคได้พิสูจน์ให้เป็นประโยชน์สำหรับการศึกษาประวัติศาสตร์วิวัฒนาการของสัตว์มีกระดูกสันหลัง. [5] ภูมิภาคมีโปรโมเตอร์สำหรับการถอดความของ RNA จากทั้งสองเส้นของยลดีเอ็นเอติดกับโครงสร้างของ D-วงที่มีความเกี่ยวข้องกับการเริ่มต้นของการจำลองดีเอ็นเอ. [6] ลำดับ D-ห่วงนอกจากนี้ยังมีความสนใจในการศึกษาโรคมะเร็ง. [7]

การทำงานของ D-ห่วงยังไม่ชัดเจน แต่งานวิจัยล่าสุดแสดงให้เห็นว่ามีส่วนร่วมในองค์กรของ nucleoid ยล. [8] [9]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นักวิจัยที่ Caltech ค้นพบในปี 1971 ที่วงกลมดีเอ็นเอ จากการปลูกเซลล์รวมส่วนสั้น ๆ สามเส้น ซึ่งพวกเขาเรียกว่า การกระจัดห่วง [ 1 ] พวกเขาพบเส้นที่สามเป็นแบบส่วนของเส้นหนัก ( หรือ h-strand ) ของโมเลกุล ซึ่งพลัดถิ่นและไฮโดรเจนถูกผูกมัดกับเส้นแสง ( หรือ l-strand ) เพราะงั้น มันได้ถูกแสดงว่า กลุ่มที่สาม คือ ส่วนแรกที่สร้างขึ้นโดยการจำลองแบบของหนัก ชายหาด ที่ถูกจับในไม่ช้าหลังจากที่เริ่มต้นและมักจะรักษาสำหรับระยะเวลาในบางรัฐ . [ 2 ] d-loop เกิดขึ้นในไม่หลักรหัสพื้นที่ของดีเอ็นเอโมเลกุล เป็นส่วนที่เรียกว่า การควบคุม d-loop เขตหรือภูมิภาคการจำลองแบบของ mitochondrial DNA สามารถเกิดขึ้นได้ในสองวิธีที่แตกต่างกัน ทั้งเริ่มต้นใน d-loop ภูมิภาค . [ 3 ] วิธีหนึ่งที่ยังคงการเกลียวหนักผ่านส่วนหนึ่งที่สําคัญ เช่น สองในสาม ) ของโมเลกุลที่เป็นวงกลม แล้วคำตอบของเส้นใยแสงจะเริ่มขึ้น ยิ่งเพิ่งรายงานโหมดเริ่มต้นที่แตกต่างกันประเทศภายในภูมิภาค และใช้ d-loop ควบคู่สาระซ้ำกับการสังเคราะห์พร้อมกันทั้งเส้น [ 3 ] [ 5 ]ฐานหนึ่งภายใน d-loop เขตอนุรักษ์ แต่ส่วนใหญ่จะสูง ตัวแปร และภูมิภาค ได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นประโยชน์สำหรับการศึกษาประวัติศาสตร์วิวัฒนาการของสัตว์มีกระดูกสันหลัง [ 5 ] ภูมิภาคมีโปรโมเตอร์สำหรับการถอดรหัสของยีนจากสองเส้นดีเอ็นเอทันทีติดกับ d-loop โครงสร้างที่เกี่ยวข้องกับการเริ่มต้นของ การจำลองตัวเองของดีเอ็นเอ . [ 6 ] d-loop ลำดับยังมีความสนใจในการศึกษาโรคมะเร็ง [ 7 ]การทำงานของ d-loop ยังไม่ชัดเจน แต่การวิจัยล่าสุดชี้ให้เห็นว่ามันมีส่วนร่วมในองค์กรของ nucleoid ยล . [ 8 ] [ 9 ]