Risk of running out of stock: By no

Risk of running out of stock: By not carrying much stock, it is imperative you have the correct procedures in place to ensure stock can become readily available, and quickly. To do this, you need to have a good relationship with your supplier(s). You may need to form an exclusive agreement with suppliers that specifies supplying goods within a certain time frame, prioritising your company. JIT means that you become extremely reliant on the consistency of your supply chain. What if your supplier struggles with your requirements, or goes out of business? Can you get the products quickly from somewhere else?

Lack of control over time frame: Having to rely on the timeliness of suppliers for each order puts you at risk of delaying your customers’ receipt of goods. If you don’t meet your customers’ expectations, they could take their business elsewhere, which would have a huge impact on your business if this occurs often.

More planning required: With JIT inventory management, it’s imperative that companies understand their sales trends and variances in close detail. Most companies have seasonal sales periods, meaning a number of products will need a higher stock level at certain times of the year due to higher demand. Therefore, you need to factor that into planning for inventory levels, ensuring suppliers are able to meet different volume requirements at different times.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความเสี่ยงจากสต็อก: โดยไม่ได้แบกสต็อกมาก มันเป็นความจำเป็นที่คุณมีขั้นตอนถูกต้องเพื่อให้มั่นใจว่า สต็อกจะกลายเป็นพร้อมใช้งาน และรวดเร็ว การทำเช่นนี้ คุณต้องมีความสัมพันธ์ที่ดีกับ supplier(s) ของคุณ คุณอาจต้องการแบบฟอร์มข้อตกลงพิเศษกับซัพพลายเออร์ที่ระบุการจัดส่งสินค้าภายในเวลากำหนด การให้ความสำคัญกับบริษัทของคุณ จิตหมายความ ว่า คุณเป็นมากขึ้นอยู่กับความสอดคล้องของโซ่อุปทาน ถ้าผู้จำหน่ายของคุณกับความต้องการของคุณ หรือออกไปของธุรกิจ คุณจะได้รับสินค้าอย่างรวดเร็วจากที่อื่นขาดการควบคุมเวลา: ไม่ต้องใช้ทันเวลาของซัพพลายเออร์สำหรับใบสั่งแต่ละที่ทำให้คุณเสี่ยงต่อการล่าช้าของลูกค้ารับสินค้า ถ้าคุณไม่ตอบสนองความคาดหวังของลูกค้าของคุณ พวกเขาอาจใช้ธุรกิจอื่น ๆ ซึ่งจะมีมากในธุรกิจของคุณถ้าปัญหานี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งการวางแผนเพิ่มเติมจำเป็น: การจัดการสินค้าคงคลังกับ JIT จำเป็นอย่างยิ่งที่บริษัทเข้าใจแนวโน้มการขายและผลต่างของรายละเอียดปิด บริษัทส่วนใหญ่มีระยะเวลาในการขายตามฤดูกาล ซึ่งหมายความว่า จำนวนของผลิตภัณฑ์จะต้องระดับสต็อกสูงขึ้นในบางช่วงเวลาเนื่องจากความต้องการ ดังนั้น คุณต้องปัจจัยที่ในการวางแผนสำหรับระดับสินค้าคงคลัง การให้ซัพพลายเออร์สามารถตอบสนองความต้องการระดับเสียงแตกต่างกันต่างเวลากัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความเสี่ยงของการทำงานออกจากสต็อก: โดยไม่ได้ถือหุ้นมากก็เป็นความจำเป็นที่คุณมีวิธีการที่ถูกต้องในสถานที่เพื่อให้แน่ใจว่าหุ้นจะกลายเป็นพร้อมใช้งานได้อย่างรวดเร็วและ การทำเช่นนี้คุณจะต้องมีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้จำหน่ายของคุณ (s) คุณอาจต้องสร้างข้อตกลงพิเศษกับซัพพลายเออร์ที่ระบุการจัดส่งสินค้าภายในกรอบเวลาที่แน่นอนจัดลำดับความสำคัญของ บริษัท JIT หมายความว่าคุณจะกลายเป็นอย่างมากพึ่งพาความสอดคล้องของห่วงโซ่อุปทานของคุณ เกิดอะไรขึ้นถ้าผู้จำหน่ายของคุณต่อสู้กับความต้องการของคุณหรือออกไปจากธุรกิจ? คุณจะได้รับผลิตภัณฑ์ได้อย่างรวดเร็วจากที่อื่น?

ขาดการควบคุมมากกว่ากรอบเวลา: ต้องพึ่งพาทันเวลาของซัพพลายเออร์สำหรับการสั่งซื้อแต่ละครั้งจะทำให้คุณมีความเสี่ยงของการล่าช้าในใบเสร็จรับเงินของลูกค้าของสินค้า หากคุณไม่ได้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่พวกเขาสามารถนำธุรกิจของพวกเขาที่อื่น ๆ ซึ่งจะมีผลกระทบอย่างมากต่อธุรกิจของคุณถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง.

วางแผนเพิ่มเติมที่จำเป็น: ด้วยการจัดการสินค้าคงคลัง JIT มันเป็นความจำเป็นที่ บริษัท เข้าใจแนวโน้มยอดขายของพวกเขาและ ความแปรปรวนในรายละเอียดอย่างใกล้ชิด บริษัท ส่วนใหญ่มีระยะเวลาการขายตามฤดูกาลซึ่งหมายถึงจำนวนของผลิตภัณฑ์ที่จะต้องมีระดับหุ้นที่สูงขึ้นในบางช่วงของปีเนื่องจากความต้องการที่สูงขึ้น ดังนั้นคุณต้องคำนึงถึงปัจจัยที่เข้าสู่การวางแผนสำหรับระดับสินค้าคงคลังและซัพพลายเออร์เพื่อให้มั่นใจว่าจะสามารถตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกันปริมาณเวลาที่ต่างกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความเสี่ยงของหมด Stock : ไม่ถือหุ้นมาก มันขวาง คุณมีขั้นตอนที่ถูกต้องในสถานที่เพื่อให้แน่ใจว่าหุ้นจะกลายเป็นพร้อมใช้งาน และรวดเร็ว การทำเช่นนี้คุณจะต้องมีความสัมพันธ์ที่ดีกับซัพพลายเออร์ของคุณ ( s ) คุณอาจต้องการแบบฟอร์มข้อตกลงพิเศษกับซัพพลายเออร์ที่ระบุขายสินค้าภายในกรอบเวลาที่แน่นอน prioritising บริษัท ของคุณ จิต หมายความ ว่า คุณกลายเป็นสิ่งพึ่งพาองค์ประกอบของห่วงโซ่อุปทานของคุณ ถ้าผู้ขายของคุณต่อสู้กับความต้องการของคุณหรือไปออกของธุรกิจ คุณสามารถรับสินค้าได้อย่างรวดเร็วจากที่อื่นขาดการควบคุมมากกว่ากรอบเวลา : ต้องอาศัยความสมดุลของซัพพลายเออร์แต่ละเพื่อให้คุณมีความเสี่ยงของการล่าช้าของลูกค้าได้รับสินค้า ถ้าคุณไม่ตอบสนองความคาดหวังของลูกค้าของคุณ พวกเขาจะนำธุรกิจของพวกเขาที่อื่น ๆ ซึ่งจะมีผลกระทบอย่างมากต่อธุรกิจของคุณถ้านี้เกิดขึ้นบ่อยๆต้องวางแผนกับการจัดการสินค้าคงคลัง JIT , มันสำคัญมากที่ บริษัท ของพวกเขาขาย แนวโน้ม และความเข้าใจในรายละเอียดใกล้ๆ บริษัท ส่วนใหญ่มีช่วงฤดูกาลขาย หมายถึง จำนวนของผลิตภัณฑ์จะต้องสูงกว่าหุ้นระดับในบางช่วงเวลาของปีเนื่องจากความต้องการที่สูงขึ้น ดังนั้น คุณต้องการปัจจัยในการวางแผนระดับสินค้าคงคลังให้ซัพพลายเออร์สามารถตอบสนองปริมาณความต้องการที่แตกต่างกันเวลาที่ต่างกัน