จากสถานการณ์ผิดปกติ เสียงส่วนใหญ่ชาวกรีกในประเทศกรีซได้ตัดสินใจชะตาประเทศแล้ว สารพัดผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมเกิดขึ้นแล้ว
แทบจะไม่มีใครรู้แน่ชัดว่า จากวันนี้ (จันทร์ 6 กรกฎาคม 2558) เป็นต้นไป กรีซจะต้องหาเงินมาชดใช้หนี้เงินกู้ให้กับเจ้าหนี้ทั้ง 3 ราย ได้แก่ ธนาคารกลางกลุ่มยูโร สหภาพยุโรป และไอเอ็มเอฟ มีมูลค่าเท่าไหร่เพื่อจะได้เพียงพอต่อความต้องการหมุนเวียนเงินในตลาดเงินทั้งประเทศกรีซ คือ นับจากวันนี้ไปอีก 3 ปีครึ่ง หรือสิ้นสุดเดือนธันวาคมปี 2561 นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันต้องหาเงินสดให้ได้ 60,000 ล้านยูโรขึ้นไป หรือราว 2.28 ล้านล้านบาท เทียบเท่าได้กับงบประมาณรัฐบาลไทย 1 ปี จึงจะพอให้ประชาชน เจ้าของธุรกิจ ร้านค้าร้านขาย คนวัยเกษียณ ไปจนถึงเด็กเล็กที่จะเติบโตในอีก 3 ปีครึ่งข้างหน้า จากเงินสดที่ต้องหาให้ได้นั้น เมื่อดูจากสถานะหนี้ประเทศที่ท่วมสูงกว่ามูลค่าเศรษฐกิจทั้งประเทศ ในแง่จะหาเวลามาชดใช้หนี้เงินกู้มากมาย พูดง่ายๆ ให้เวลาชดใช้หนี้สิน 20 ปีจากนี้ไป จนกระทั่งสามารถสร้างความน่าเชื่อถือในสายตานานาชาติทั่วโลกต้องใช้เวลาถึงจากเดิม 20 ปี ต้องเพิ่มอีก 2 เท่า เป็น 40 ปีจากนี้ไป
ทุกวันนี้กรีซมีหนี้มากกว่า 177% ต่อเศรษฐกิจทั้งประเทศ โอกาสต้องออกจากกลุ่มยูโรมาใช้สกุลเงินแดรกม่าของตัวเองอีกครั้ง