ชีวิตเด็กหอ
“ชีวิตในมหาวิทยาลัย” นับว่าเป็นเรื่องที่แปลกใหม่ในชีวิตของผมอีกเรื่องหนึ่ง เพราะผมใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวของผมมาตั้งแต่เด็กจนกระทั่งถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 แต่ทว่าหลังจากที่ผมสอบติดเข้ามหาวิทยาลัยได้ แม่ของก็บอกกับผมว่า “แม่อยากให้ไปอยู่หอ จะได้รู้จักการเรียนรู้การใช้ชีวิต” เมื่อผมได้ยินคำพูดของแม่แล้ว ผมก็แอบคิดในใจว่า ผมคงอยู่ไม่ได้หรอก เพราะว่าผมใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวมาตลอด ขาดเหลือสิ่งใดก็บอกแม่ให้หาให้ทุกครั้ง และอีกอย่างหนึ่งก็คือ ผมมีเพื่อนที่อยู่หอพักตั้งแต่เรียนชั้นมัธยม เพื่อนๆก็ต้องช่วยเหลือตัวเองทุกอย่าง อีกทั้งยังต้องดูแลตนเองเมื่อไม่สบายอีกด้วย ผมคิดว่าตนเองคงทำไม่ได้แน่ๆ
ผมเคยคัดค้านกับพ่อและแม่ว่า ผมไม่อยากอยู่หอ แต่ทว่าคำพูดของพ่อก็ทำให้ผมมีแรงกระตุ้นที่จะมาอยู่หอพักในช่วงชีวิตมหาวิทยาลัย “บางครั้งคนเราก็ต้องหัดที่จะเรียนรู้การใช้ชีวิตด้วยตนเอง พ่อกับแม่ก็ไม่ได้อยู่กับลูกไปตลอดชีวิตหรอกนะ ชีวิตเด็กหอในมหาวิทยาลัยจะทำให้ลูกเรียนรู้ว่าอะไรถูกอะไรผิดและจะได้เลือกทำในสิ่งที่ถูกต้อง”
หลังจากที่ผมเข้ามาอยู่หอพักในคืนแรก ผมก็รู้สึกว่า ผมคิดถึงบ้านมากๆ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ผมไม่เคยคิดถึงบ้านมากขนาดนี้ ทำให้คืนแรกของการมาอยู่หอพักทำให้ผมนอนไม่หลับ แต่แม่ของผมก็โทรมาให้กำลังใจในตอนเช้าว่า ช่วงแรกก็เป็นแบบนี้ แต่ต่อมาก็จะดีขึ้นเอง และหลังจากนั้นการใช้ชีวิตในหอพักของผมก็เริ่ม แม้ว่าจะมีเรื่องตื่นเต้นให้ลุ้นกันทุกๆวัน
ตอนที่ผมอยู่บ้าน แม่ของผมจะปลุกผมให้มาโรงเรียน แต่เมื่อมาอยู่หอ ผมต้องตื่นไปเรียนเองทุกวัน ทำให้บางวันก็ตื่นทันเข้าเรียน แต่บางวันก็ตื่นตอนเวลาเข้าเรียน ทำให้ผมต้องรีบอาบน้ำ แต่งตัวเพื่อไปเข้าเรียน อีกทั้งเพื่อนก็จะโทรมาบอกว่า อาจารย์จะเช็คชื่อเข้าเรียนให้รีบมา ผมก็ต้องรีบออกไป แต่เพื่อนก็ยังโทรมาตามอยู่เรื่อยๆ ผมก็รู้ถึงความหวังดีของเพื่อน แต่บางครั้งผมก็อยากจะบอกเพื่อนว่า ผมรีบแล้ว ก็ภาวนาเหมือนกันว่าขอให้ทันเช็คชื่อเข้าเรียน
การใช้ชีวิตหอพักในวันนี้ ทำให้ผมโตเป็นผู้ใหญ่อีกขั้นหนึ่ง ผมสามารถตัดสินใจในเรื่องต่างๆได้ด้วยตนเอง และรู้จักการใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นมากขึ้น