Does yogurt deserve a spot in the f

Does yogurt deserve a spot in the fridge? (Photo: Getty Images)

Yogurt has long worn a health halo, but a new study in the Journal of the Academy of Nutrition and Dietetics suggests the food may not hold as many benefits as previously thought.

In the study, researchers from the Autonomous University of Madrid analyzed data on 4,445 adults and their yogurt consumption that was collected over nearly four years. They found that those who ate yogurt regularly did not have any significant improvement in their health-related quality of life — physically or mentally. (There was a slight improvement in mental health, but it wasn’t statistically significant.)

The new study seemingly contradicts previous research that has linked regular yogurt consumption to a slew of health benefits.

Research published last year in the journal BMC Medicine, for instance, found that people who eat yogurt every day have a lower risk of developing Type 2 diabetes. A recent study from the American Heart Association also showed that adding more yogurt to your diet without increasing the number of calories you eat may help lower risk of developing high blood pressure. And a study published last year in the American Journal of Clinical Nutrition found that people who regularly eat yogurt may gain less weight over time.

Eating yogurt has even been shown to help pregnant women and their fetuses. A study published in the journal of the American Society for Microbiology found that yogurt containing the probiotic Lactobacillus rhamnosus successfully protected children and pregnant women against exposure to toxic metals like mercury and arsenic.

So … what are we supposed to think?

New York-based nutritionist Karen Ansel, RD, tells Yahoo Health that people shouldn’t toss their yogurt containers just yet. “Plain, unsweetened yogurt is one of the healthiest foods a person can eat,” she says. “It’s packed with calcium and potassium, two nutrients that most of us don’t get enough of.”



Yogurt also contains probiotics, beneficial bacteria that keep your digestive system healthy and may even help fight depression.

Related: New Evidence Shows Probiotics Could Help Fight Depression

Ansel says it just makes sense to eat yogurt, and that we should strive to have a serving of it a day. “In return, you’ll get a third of your day’s calcium plus 9 grams of protein,” she says.

Of course, there is a big trap to beware of: sugar. Ansel recommends reading yogurt nutrition labels carefully to make sure the type you’re considering is unsweetened, since some sweetened varieties can contain up to eight teaspoons of sugar (more than you’d get from an eight-ounce soda).

She also says it’s best to avoid artificially sweetened yogurts (a study published in the Journal of Behavioral Neuroscience linked artificial sweeteners with weight gain). Instead, add flavor to plain yogurt with berries, a sprinkle of cinnamon, or a teaspoon of honey or maple syrup.

Related: 20 Foods That Are Sugar Bombs

It’s worth noting that researchers of the new study stated that they didn’t find health improvements in the specific parameters they analyzed. They used health-related quality of life (HRQOL) metrics, which the Centers for Disease Control and Prevention states is a self-reported measure of physical and mental health, and not a blood test or analysis.

Ansel also points out that this particular study didn’t distinguish between sugar-sweetened and unsweetened yogurt in its formal analysis, although researchers observed that most of the yogurt that participants ate was sugar-sweetened. In fact, the people who ate the most yogurt also consumed the most sugar, which can have a negative impact on several aspects of health.

Researchers admit that more work needs to be done before people give up on yogurt altogether. “For future research, more specific instruments must be used, which may increase the probability of finding a potential benefit of this food,” study author Esther López-García said in a statement.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

โยเกิร์ตไม่สมควรจุดในตู้เย็นหรือไม่ (ภาพ: ภาพพอลเก็ตตี)โยเกิร์ตได้นานสวมใส่ halo สุขภาพ แต่การศึกษาใหม่ในสมุดรายวันของสถาบันโภชนาการและโภชนาการแนะนำอาหารอาจค้างคิดว่า ก่อนหน้านี้เป็น ประโยชน์มากในการศึกษา นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยอิสระแห่งมาดริดวิเคราะห์ข้อมูลผู้ใหญ่ 4,445 และปริมาณการใช้ของโยเกิร์ตที่รวบรวมไว้เกือบสี่ปี พวกเขาพบว่า คนที่กินโยเกิร์ตเป็นประจำไม่มีการปรับปรุงที่สำคัญใด ๆ ในสุขภาพคุณภาพชีวิตของ — ร่างกาย หรือจิตใจ (มีปรับปรุงเล็กน้อยในด้านสุขภาพจิต แต่มันไม่ได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ) การศึกษาใหม่ดูเหมือนว่าทุกงานวิจัยก่อนหน้านี้ที่มีการเชื่อมโยงการใช้โยเกิร์ตปกติการฆ่าของประโยชน์ต่อสุขภาพงานวิจัยที่เผยแพร่ปีในรายที่แพทย์ BMC เช่น พบว่า คนที่กินโยเกิร์ตทุกวันมีความเสี่ยงต่ำโรคเบาหวานประเภท 2 การศึกษาล่าสุดจากสมาคมหัวใจอเมริกันยังแสดงให้เห็นว่า เพิ่มโยเกิร์ตมากขึ้นเพื่ออาหารของคุณโดยไม่ต้องเพิ่มจำนวนแคลอรี่ที่คุณกินอาจช่วยลดความเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูง และการศึกษาที่ประกาศปีสุดท้ายในแบบอเมริกันสมุดรายวันของคลินิกโภชนาการพบว่า คนที่กินโยเกิร์ตเป็นประจำอาจได้รับน้ำหนักน้อยกว่าช่วงเวลา กินโยเกิร์ตได้แม้การแสดงเพื่อช่วยให้หญิงตั้งครรภ์และ fetuses ของพวกเขา การศึกษาที่ตีพิมพ์ในสมุดรายวันของสังคมอเมริกันสำหรับจุลชีววิทยาพบว่า โยเกิร์ตที่ประกอบด้วยโปรไบโอติกส์แลคโตบาซิลลัส rhamnosus สำเร็จป้องกันเด็ก และหญิงตั้งครรภ์กับสัมผัสกับโลหะที่เป็นพิษเช่นปรอทและสารหนูดังนั้น...สิ่งเราควรจะคิดว่าจากนิวยอร์กนักโภชนาการที่ Ansel กะเหรี่ยง RD บอก Yahoo สุขภาพที่ คนไม่ควรโยนคอนเทนเนอร์ของโยเกิร์ตได้เพียง "โยเกิร์ตธรรมดา unsweetened เป็นหนึ่งหนีจากอาหารที่กินคน เธอกล่าว "มันจะเต็มไป ด้วยแคลเซียมและโพแทสเซียม สารอาหารสองที่ส่วนใหญ่เราไม่ได้รับเพียงพอของ" โยเกิร์ตยังประกอบด้วย probiotics แบคทีเรียที่เป็นประโยชน์ที่สุขภาพของระบบย่อยอาหาร และอาจช่วยเหลือ ต่อสู้กับภาวะซึมเศร้า ที่เกี่ยวข้อง: หลักฐานใหม่แสดง Probiotics ช่วยต่อสู้ภาวะซึมเศร้าAnsel กล่าวว่า มันก็ทำให้รู้สึกกินโยเกิร์ต และการที่เราจะมุ่งมั่นให้บริการของวัน "กลับ คุณจะได้รับหนึ่งในสามของแคลเซียมของวันบวก 9 กรัมโปรตีน เธอกล่าวแน่นอน มีกับดักขนาดใหญ่ต้องระวัง: น้ำตาล Ansel แนะนำให้อ่านฉลากโภชนาการโยเกิร์ตอย่างระมัดระวังเพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าชนิดที่คุณกำลังพิจารณามี unsweetened เนื่องจากบางพันธุ์หวานประกอบด้วยน้ำตาล (กว่าคุณจะได้รับจากการแปดออนซ์โซดา) ถึง 8 ช้อนชา นอกจากนี้เธอกล่าวว่า ควรหลีกเลี่ยงการ yogurts หวานเหือด (การศึกษาเผยแพร่ในการสมุดรายวันของพฤติกรรมประสาทการลิงค์ประดิษฐ์สารให้ความหวานกับน้ำหนัก) เพิ่มรสโยเกิร์ตธรรมดามีครบ หัวฉีดน้ำของอบเชย หรือช้อนชาน้ำผึ้งหรือน้ำเชื่อมเมเปิ้ลแทน ที่เกี่ยวข้อง: อาหาร 20 ที่มีระเบิดน้ำตาลได้เร็ว ๆ นี้ที่ นักวิจัยศึกษาใหม่ระบุว่า พวกเขาไม่พบการปรับปรุงสุขภาพในพารามิเตอร์เฉพาะพวกเขาวิเคราะห์ พวกเขาใช้วัดสุขภาพคุณภาพชีวิต (HRQOL) ซึ่งเป็นศูนย์สำหรับสถานะการป้องกันและควบคุมโรคการวัดสุขภาพกาย และจิตใจ รายงานด้วยตนเอง และไม่มีเลือด หรือวิเคราะห์Ansel ยังจุดออกที่ นี้ศึกษาเฉพาะไม่ได้แยกระหว่างโยเกิร์ตน้ำตาลใส และ unsweetened ในการวิเคราะห์ทาง แม้ว่านักวิจัยพบว่า โยเกิร์ตที่กินร่วมทั้งมีน้ำตาลใส ในความเป็นจริง คนที่กินโยเกิร์ตส่วนใหญ่ยังใช้น้ำตาลมากที่สุด ซึ่งสามารถมีผลกระทบเชิงลบในหลายแง่มุมของสุขภาพนักวิจัยยอมรับว่า เพิ่มเติมทำงานจำเป็นต้องทำก่อนคนให้ขึ้นบนโยเกิร์ตทั้งหมด "การวิจัยในอนาคต เครื่องมือเฉพาะต้องใช้ ซึ่งอาจเพิ่มความน่าเป็นการหาประโยชน์ของศักยภาพของอาหารนี้ ศึกษาผู้เขียนเอสเธอร์ López García กล่าวในคำแถลง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โยเกิร์ตไม่สมควรได้รับจุดในตู้เย็นหรือไม่? (ภาพ: Getty Images) โยเกิร์ตได้สวมใส่ยาวรัศมีสุขภาพ แต่การศึกษาใหม่ในวารสารของสถาบันโภชนาการและอาหารที่แสดงให้เห็นอาหารที่ไม่อาจถือผลประโยชน์ให้มากที่สุดเท่าที่เคยคิด. ในการศึกษานักวิจัยจากมหาวิทยาลัยอิสระ มาดริดวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใหญ่ 4445 และการบริโภคโยเกิร์ตของพวกเขาที่ถูกเก็บรวบรวมในช่วงเกือบสี่ปี พวกเขาพบว่าผู้ที่กินโยเกิร์ตเป็นประจำไม่ได้มีการปรับปรุงที่สำคัญใด ๆ ในคุณภาพที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพชีวิตของพวกเขา - ร่างกายหรือจิตใจ (มีการปรับปรุงเล็กน้อยในด้านสุขภาพจิตได้ แต่มันก็ไม่ได้มีนัยสำคัญทางสถิติ.) การศึกษาใหม่ที่ดูเหมือนจะขัดแย้งกับงานวิจัยก่อนหน้านี้ที่มีการเชื่อมโยงการบริโภคโยเกิร์ตเป็นประจำเพื่อฆ่าของประโยชน์ต่อสุขภาพ. การวิจัยที่ตีพิมพ์เมื่อปีที่แล้วในวารสาร BMC แพทย์สำหรับ เช่นพบว่าคนที่กินโยเกิร์ตทุกวันมีความเสี่ยงต่ำในการพัฒนาโรคเบาหวานประเภท 2 การศึกษาล่าสุดจากสมาคมหัวใจอเมริกันยังแสดงให้เห็นว่าการเพิ่มมากขึ้นในโยเกิร์ตอาหารของคุณโดยไม่ต้องเพิ่มจำนวนแคลอรี่ที่คุณกินอาจช่วยลดความเสี่ยงของการพัฒนาความดันโลหิตสูง และการศึกษาที่เผยแพร่เมื่อปีที่แล้วในวารสารอเมริกันคลินิกโภชนาการพบว่าคนที่กินโยเกิร์ตเป็นประจำอาจได้รับน้ำหนักน้อยลงเมื่อเวลาผ่านไป. การรับประทานโยเกิร์ตได้รับการแสดงเพื่อช่วยให้หญิงตั้งครรภ์และทารกของพวกเขา ศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสารของสมาคมอเมริกันสำหรับจุลชีววิทยาพบว่าโยเกิร์ตที่มี rhamnosus แลคโตบาซิลลัสโปรไบโอติกเด็กที่มีการป้องกันที่ประสบความสำเร็จและสตรีมีครรภ์กับการสัมผัสกับโลหะที่เป็นพิษเช่นปรอทและสารหนู. ดังนั้น ... สิ่งที่เราควรจะคิดว่า? โภชนาการนิวยอร์กตาม กะเหรี่ยง Ansel, RD บอก Yahoo สุขภาพที่คนไม่ควรโยนภาชนะโยเกิร์ตของพวกเขาเพียง แต่ "ธรรมดา, โยเกิร์ตไม่ได้ทำให้หวานเป็นหนึ่งในอาหารสุขภาพที่คนสามารถกิน" เธอกล่าว "มันเต็มไปด้วยแคลเซียมและโพแทสเซียมสองสารอาหารที่มากที่สุดของเราไม่ได้รับเพียงพอของ." โยเกิร์ตนอกจากนี้ยังมีโปรไบโอติกแบคทีเรียที่มีประโยชน์ที่ทำให้ระบบการย่อยอาหารของคุณมีสุขภาพดีและอาจจะช่วยต่อสู้กับภาวะซึมเศร้า. ที่เกี่ยวข้อง: หลักฐานใหม่แสดงให้เห็นโปรไบโอติกจะช่วย ต่อสู้กับอาการซึมเศร้าAnsel บอกว่ามันจะทำให้ความรู้สึกที่จะกินโยเกิร์ตและที่เราควรมุ่งมั่นที่จะมีการให้บริการของมันวัน . "ในทางกลับกันคุณจะได้รับแคลเซียมในสามของวันของคุณเป็นบวก 9 กรัมของโปรตีน" เธอกล่าวแน่นอนว่ายังมีเป็นกับดักขนาดใหญ่ที่จะระวังของน้ำตาล Ansel แนะนำให้อ่านฉลากโภชนาการโยเกิร์ตอย่างระมัดระวังเพื่อให้แน่ใจว่าประเภทที่คุณกำลังพิจารณาเป็นไม่ได้ทำให้หวานเนื่องจากรสหวานบางพันธุ์สามารถมีได้ถึงแปดช้อนชาน้ำตาล (มากกว่าที่คุณจะได้รับจากโซดาแปดออนซ์). นอกจากนี้เธอยังบอกว่ามันเป็น ที่ดีที่สุดที่จะหลีกเลี่ยงโยเกิร์ตรสหวานเทียม (การศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสารประสาทที่เชื่อมโยงกับพฤติกรรมความหวานเทียมที่มีน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น) แต่เพิ่มรสชาติให้โยเกิร์ตธรรมดาที่มีผลเบอร์รี่โรยอบเชยหรือช้อนชาของน้ำผึ้งหรือน้ำเชื่อมเมเปิ้ล. ที่เกี่ยวข้อง: 20 อาหารที่มีระเบิดน้ำตาลมันเป็นที่น่าสังเกตว่านักวิจัยของการศึกษาใหม่ที่ระบุว่าพวกเขาไม่พบการปรับปรุงสุขภาพในพารามิเตอร์ที่เฉพาะเจาะจงที่พวกเขาวิเคราะห์ พวกเขาใช้ที่มีคุณภาพที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพของชีวิต (HRQOL) ตัวชี้วัดที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯเป็นตัวชี้วัดที่ตนเองรายงานของสุขภาพกายและสุขภาพจิตและไม่ได้ตรวจเลือดหรือการวิเคราะห์. Ansel ยังชี้ให้เห็นว่าการศึกษานี้โดยเฉพาะ ไม่ได้แตกต่างระหว่างรสหวานน้ำตาลและโยเกิร์ตไม่ได้ทำให้หวานในการวิเคราะห์อย่างเป็นทางการถึงแม้ว่านักวิจัยตั้งข้อสังเกตว่าส่วนใหญ่ของโยเกิร์ตที่เข้าร่วมกินได้รสหวานน้ำตาล ในความเป็นจริงคนที่กินโยเกิร์ตมากที่สุดนอกจากนี้ยังมีการบริโภคน้ำตาลมากที่สุดซึ่งอาจมีผลกระทบในทางลบต่อหลายแง่มุมของสุขภาพ. นักวิจัยยอมรับว่าการทำงานมากขึ้นจะต้องมีการทำมาก่อนคนให้ขึ้นกับโยเกิร์ตโดยสิ้นเชิง "สำหรับการวิจัยในอนาคตเครื่องมือเฉพาะเจาะจงมากขึ้นจะต้องใช้ซึ่งอาจจะเพิ่มโอกาสในการหาผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้นของอาหารนี้," การศึกษาผู้เขียนเอสเธอร์LópezGarcía-กล่าวในการแถลง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ทำโยเกิร์ต ควรจุดในตู้เย็น ? ( ภาพ : Getty Images )

โยเกิร์ตได้สวมใส่รัศมีสุขภาพ แต่การศึกษาใหม่ในวารสารของสถาบันโภชนาการและการกำหนดอาหารแนะนำอาหารอาจจะไม่ถือเป็นประโยชน์มากมายอย่างที่คิดไว้ก่อนหน้านี้

ในการทดลอง นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยมาดริด วิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับ 4พวกผู้ใหญ่ของโยเกิร์ตและการบริโภคที่สะสมมาเกือบสี่ปี พวกเขาพบว่าคนที่กินโยเกิร์ตเป็นประจำไม่ได้มีใด ๆที่สำคัญในการปรับปรุงคุณภาพที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพของชีวิต ร่างกาย หรือจิตใจ ( มีการปรับปรุงเล็กน้อยในสุขภาพจิต แต่ไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ )

การศึกษาใหม่ที่ดูเหมือนจะขัดแย้งกับงานวิจัยที่เชื่อมโยงการบริโภคโยเกิร์ตปกติเพื่อฆ่าของประโยชน์ต่อสุขภาพ

งานวิจัยที่ตีพิมพ์เมื่อปีที่แล้วในวารสาร BMC ยาตัวอย่าง พบว่า คนที่กินโยเกิร์ตทุกวันได้ลดความเสี่ยงของการพัฒนาโรคเบาหวานชนิดที่ 2 .ผลการศึกษาล่าสุดจากสมาคมหัวใจอเมริกัน นอกจากนี้ยังพบว่า การเพิ่มโยเกิร์ตเพิ่มเติมลงในอาหารของคุณโดยไม่ต้องเพิ่มจำนวนแคลอรี่ที่คุณกินอาจช่วยลดความเสี่ยงของการพัฒนาความดันโลหิตสูง และการศึกษาที่ตีพิมพ์เมื่อปีที่แล้วในวารสารอเมริกันคลินิกโภชนาการพบว่า คนที่กินโยเกิร์ตเป็นประจำจะได้รับน้ำหนักน้อยในช่วงเวลา

กินโยเกิร์ตยังถูกแสดงเพื่อช่วยให้หญิงตั้งครรภ์และทารกของพวกเขา การศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสารของสมาคมสำหรับจุลชีววิทยา พบว่า โยเกิร์ตที่มีโพรไบโอติกแลคโตบาซิลลัส rhamnosus เรียบร้อยแล้วป้องกันเด็กและสตรีมีครรภ์กับการสัมผัสกับโลหะที่เป็นพิษเช่นปรอทและสารหนู

งั้น . . . . . . . แล้วจะให้เราคิดยังไง

นิวยอร์กตาม นักโภชนาการ คาเรน เอนเซล , RD , บอกสุขภาพ yahoo ว่าประชาชนไม่ควรโยนภาชนะโยเกิร์ต ของพวกเขา เพียง แต่ " ธรรมดา ไม่ได้ทำให้หวานโยเกิร์ตเป็นหนึ่งในการค้นอาหารคนกินได้ " เธอกล่าว " มันเต็มไปด้วยแคลเซียมและโพแทสเซียม สองสารอาหารที่ส่วนใหญ่เราไม่ได้รับเพียงพอ "



โยเกิร์ตยังมีโปรไบโอติก ,แบคทีเรียที่มีประโยชน์ที่ทำให้ระบบย่อยอาหารของคุณมีสุขภาพดี และอาจช่วยในการต่อสู้กับภาวะซึมเศร้า

มีหลักฐานใหม่แสดงให้เห็นว่าโปรไบโอติกสามารถช่วยต่อสู้ depression

เอนเซลบอกว่ามันทำให้ความรู้สึกที่จะกินโยเกิร์ต และที่เราควรจะมุ่งมั่นที่จะมีให้บริการแล้ววันนี้ " ในคืนคุณจะได้รับสามของวันคือ แคลเซียม บวก 9 กรัมของโปรตีน , " เธอกล่าว .

แน่นอนมันเป็นกับดักใหญ่ให้ระวัง : น้ำตาล อันเซล แนะนำให้อ่านฉลากโภชนาการโยเกิร์ตอย่างระมัดระวังเพื่อให้แน่ใจว่าประเภทคุณกำลังพิจารณาเป็นชนิดหยาบ เนื่องจากมีรสหวาน บางพันธุ์สามารถมีได้ถึงแปดช้อนชาของน้ำตาล ( มากกว่าที่คุณจะได้รับจากแปดออนซ์โซดา )

เธอยังบอกว่ามันที่ดีที่สุดเพื่อหลีกเลี่ยงการตั้งใจ sweetened โยเกิร์ต ( ศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสารประสาทวิทยาศาสตร์พฤติกรรมเชื่อมโยงสารให้ความหวานเทียมที่มีน้ำหนัก ) แทน เพิ่มรสโยเกิร์ตเบอร์รี่ , โรยอบเชย หรือ 1 ช้อนชา น้ำผึ้ง หรือน้ำเชื่อมเมเปิ้ล

ที่ 20 อาหารที่มีน้ำตาลระเบิด

เป็นมูลค่า noting ว่านักวิจัยของการศึกษาใหม่กล่าวว่าพวกเขาไม่พบการปรับปรุงสุขภาพในพารามิเตอร์ที่ระบุพวกเขาวิเคราะห์ พวกเขาใช้คุณภาพชีวิต ( มี ) วัด ซึ่งศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐอเมริกา เป็นวัด self-reported ของสุขภาพกายและสุขภาพจิต และไม่มีการทดสอบเลือดหรือการวิเคราะห์ .

เอนเซลยังชี้ให้เห็นว่าการศึกษานี้โดยเฉพาะไม่ได้แยกแยะระหว่างน้ำตาลและโยเกิร์ตรสหวานชนิดหยาบในการวิเคราะห์อย่างเป็นทางการของ ถึงแม้ว่านักวิจัยพบว่าส่วนใหญ่ของโยเกิร์ตที่ผู้กินคือน้ำตาล หวานขึ้น ในความเป็นจริง คนที่กินโยเกิร์ตส่วนใหญ่ยังบริโภคน้ำตาลมากที่สุด ซึ่งอาจจะมีผลกระทบต่อหลายแง่มุมของสุขภาพ .

นักวิจัยยอมรับว่า งานต้องเสร็จก่อนคนแพ้โยเกิร์ตทั้งหมด " สำหรับการวิจัยในอนาคต เครื่องมือที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้นต้องใช้ ซึ่งอาจเพิ่มโอกาสของการหาประโยชน์ของอาหารนี้ " ผู้เขียนศึกษาเอสเธอร์ โลเปซกาโอ การ์ซีอากล่าวในงบ