Diabetes insipidus: Excessive urina

Diabetes insipidus: Excessive urination and extreme thirst as a result of inadequate output of the pituitary hormone ADH (antidiuretic hormone, also called vasopressin) or the lack of the normal response by the kidney to ADH.

There are two types of diabetes insipidus -- central and nephrogenic. Central diabetes insipidus is a lack of ADH production and is due to damage to the pituitary gland or hypothalamus where ADH is produced. Nephrogenic diabetes insipidus is lack of response of the kidney to the fluid-conserving action of ADH. Nephrogenic diabetes insipidus can be due to diseases of the kidney (such as polycystic kidney disease), certain drugs (such as lithium), and can also occur an inherited disorder.

In both central and nephrogenic diabetes insipidus, patients excrete extraordinarily large volumes of very dilute urine. They feel thirsty and drink very large amounts of water to compensate for the water they lose in the urine. The main danger with diabetes insipidus comes when fluid intake does not keep pace with urine output, resulting in dehydration and high blood sodium.

The treatment of central diabetes insipidus is with vasopressin used as a nasal spray or as tablets. Nephrogenic diabetes insipidus does not respond to vasopressin treatment. In cases of nephrogenic diabetes insipidus caused by a drug (such as lithium), stopping the drug usually leads to recovery. In cases of hereditary nephrogenic diabetes insipidus, treatment is with fluid intake to match urine output and drugs that lower urine output. Effective treatment is important because the dehydration and high blood sodium can cause brain damage and death

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เบาหวาน insipidus: ปัสสาวะมากเกินไป และกระหายน้ำมากเป็นผลมาจากผลผลิตไม่เพียงพอของฮอร์โมนต่อมใต้สมองอัซ (ต้านการขับปัสสาวะฮอร์โมน เรียกว่า vasopressin) หรือการขาดการตอบสนองที่ปกติด้วยไตกับอัซการมีสองประเภทของโรคเบาหวาน insipidus - กลาง และ nephrogenic เซ็นทรัล insipidus โรคเบาหวานคือ การขาดของอัซผลิต และครบกำหนดจะเสียหายไปยังต่อมใต้สมองหรือเซลล์ที่ผลิตอัซ ขาดการตอบสนองของไตเพื่อการประหยัดน้ำมันของอัซ nephrogenic insipidus โรคเบาหวานได้ Nephrogenic insipidus โรคเบาหวานอาจเกิดจากโรคของไต (เช่นโรคไต polycystic) ยาบางชนิด (เช่นลิเทียม), และสามารถเกิดความผิดปกติของการสืบทอดในเซ็นทรัล และ nephrogenic insipidus โรคเบาหวาน ผู้ป่วยขับถ่ายปัสสาวะเจือจางมากปริมาณมากเป็นพิเศษ พวกเขารู้สึกกระหายน้ำ และดื่มน้ำเพื่อชดเชยน้ำที่พวกเขาสูญเสียในปัสสาวะขนาดใหญ่มาก หลักอันตราย ด้วยโรคเบาหวาน insipidus มาเมื่อของเหลวให้ไม่ทันกับผลผลิตปัสสาวะ การคายน้ำและโซเดียมในเลือดสูงการรักษาของกลางหวาน insipidus มี vasopressin ที่ใช้ เป็นแบบสเปรย์ฉีดจมูก หรือ เป็นเม็ด เบาหวาน nephrogenic insipidus ไม่ตอบสนองการรักษา vasopressin ในกรณีของ nephrogenic หวาน insipidus เกิดจากยา (เช่นลิเธียม), หยุดยามักจะนำไปสู่การกู้คืน ในกรณีทางพันธุกรรม nephrogenic insipidus โรคเบาหวาน รักษาคือ มีปริมาณของเหลวให้ตรงกับยาที่ลดผลผลิตปัสสาวะและปัสสาวะออก รักษาที่มีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญ เพราะการคายน้ำและโซเดียมในเลือดสูงอาจทำให้สมองเสื่อมและความตาย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

. โรคเบาหวานเบาจืด: ปัสสาวะมากเกินไปและกระหายน้ำมากเป็นผลมาจากการส่งออกที่ไม่เพียงพอของ ADH ฮอร์โมนต่อมใต้สมอง (antidiuretic ฮอร์โมนที่เรียกว่า vasopressin) หรือขาดการตอบสนองโดยปกติไตจะ ADH

มีสองประเภทของโรคเบาหวานเบาจืดมี - เซ็นทรัล และ nephrogenic โรคเบาจืดกลางคือการขาดการผลิต ADH และมีกำหนดจะสร้างความเสียหายให้กับต่อมใต้สมองหรือมลรัฐที่ ADH ผลิต โรคเบาจืด nephrogenic คือการขาดการตอบสนองของไตการกระทำของเหลวอนุรักษ์ของ ADH โรคเบาจืด nephrogenic สามารถเกิดจากโรคของไต (เช่นโรคไต polycystic), ยาบางชนิด (เช่นลิเธียม) และยังสามารถเกิดขึ้นได้โรคพันธุกรรม.

ทั้งในส่วนกลางและ nephrogenic เบาจืดโรคเบาหวานผู้ป่วยขับถ่ายปริมาณมากเป็นพิเศษมาก เจือจางปัสสาวะ พวกเขารู้สึกกระหายน้ำและเครื่องดื่มจำนวนมากของน้ำเพื่อชดเชยน้ำที่พวกเขาสูญเสียในปัสสาวะ อันตรายหลักที่มีโรคเบาหวานเบาจืดมาเมื่อดื่มน้ำไม่ให้ทันกับปัสสาวะออกผลในการคายน้ำและโซเดียมในเลือดสูง.

การรักษาโรคเบาหวานเบาจืดกลางอยู่กับ vasopressin ใช้เป็นสเปรย์จมูกหรือเป็นแท็บเล็ต โรคเบาจืด nephrogenic ไม่ตอบสนองต่อการรักษา vasopressin ในกรณีของโรคเบาหวาน insipidus nephrogenic เกิดจากยาเสพติด (เช่นลิเธียม) หยุดยาเสพติดมักจะนำไปสู่การกู้คืน ในกรณีที่มีการถ่ายทอดทางพันธุกรรมโรคเบาจืด nephrogenic การรักษาขึ้นอยู่กับปริมาณการดื่มน้ำเพื่อให้ตรงกับปัสสาวะออกและยาเสพติดที่ปัสสาวะต่ำกว่าการส่งออก รักษาที่มีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญเพราะการคายน้ำและโซเดียมในเลือดสูงอาจทำให้เกิดความเสียหายของสมองและความตาย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

จุดประสงค์ : ปัสสาวะมากเกินไปและมากกระหายเป็นผลจากผลผลิตไม่เพียงพอของฮอร์โมน ( ฮอร์โมนแอนติไดยูเรติก ADH จากต่อมใต้สมองเรียกว่า Vasopressin ) หรือขาดปกติการตอบสนองโดยไต ADHมีอยู่สองชนิดของโรคเบาจืด -- กลางและการเกิดโรคเบาจืด . เซ็นทรัล จุดประสงค์คือการขาดการผลิต ADH และเนื่องจากความเสียหายต่อมใต้สมอง hypothalamus ซึ่งกายินทรีย์หรือการผลิต จำนวนเงินก้อนคือการขาดการตอบสนองของไตไปในของเหลว อนุรักษ์ การกระทำของ ADH จำนวนเงินก้อนได้เนื่องจากโรคของไต ( เช่นโรคไต polycystic ) , ยาบางอย่าง ( เช่นลิเธียม ) และยังสามารถเกิดขึ้นที่สืบทอดโรคทั้งในส่วนกลางและจำนวนเงินก้อน ผู้ป่วยถ่ายเล่มโคตรใหญ่มากเจือจางปัสสาวะ เขารู้สึกกระหายน้ำ และดื่มน้ำในปริมาณมากเพื่อชดเชยน้ำที่สูญเสียในปัสสาวะ อันตรายหลักกับโรคเบาจืดมาเมื่อบริโภคของเหลวไม่ให้ทันกับปัสสาวะ ทำให้ขาดน้ำและโซเดียมในเลือดสูงการรักษาของโรคเบาจืด คือ กลางกับ Vasopressin ใช้เป็นสเปรย์ช่องจมูก หรือเป็นเม็ด จำนวนเงินก้อนไม่ตอบสนองต่อฮอร์โมนวาโซเพรสซินรักษา ในกรณีของจำนวนเงินก้อนเกิดจากยา เช่น ลิเทียม ) หยุดยามักจะนำไปสู่การกู้คืน ในกรณีของพันธุกรรมจำนวนเงินก้อน , การรักษาด้วยน้ำบริโภคให้ตรงกับปัสสาวะและยาที่ลดปัสสาวะออก การรักษาที่มีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญเพราะขาดน้ำและโซเดียมในเลือดสูงอาจทำให้เกิดความเสียหายสมองและความตาย