Several efforts have been made in s

Several efforts have been made in seeking emergent or new
cardiovascular risk factors to improve cardiovascular disease
prediction. And, in an attempt to optimize the predictive capacity
of the lipid profile, several lipoprotein ratios or “atherogenic indices”
have been defined [9]. These indices could prove to be a better
alternative to the routine investigations. One of them is CARDIAC
RISK RATIO (CRR) which is frequently used for risk assessment of
cardiovascular disease (CVD) and is given by the total cholesterol to
HDL cholesterol ratio [10]. Another index is ATHEROGENIC INDEX
OF PLASMA (AIP), calculated as log (TG/HDL-C). It has recently
been proposed as a marker of plasma atherogenecity because it is increased in people at higher risk for coronary heart disease and is
inversely correlated with LDL particle size. The association of TGs
and HDL-C in this simple ratio theoretically reflects the balance
between risk and protective lipoprotein forces, and both TGs and
HDL-C are widely measured and available [11]. ATHEROGENIC
COEFFICIENT (AC) is another index which is given by the ratio of non
HDL cholesterol to HDL cholesterol. Non HDL-c is easily calculated,
with no need for previous fasting of the patient. It is essentially the
cholesterol analogue to an apo B level, having a higher correlation
coefficient in comparison with the LDL cholesterol concentration
[12]. In developed countries, atherosclerosis is the major cause
of death and premature disability and is predicted to become the
leading global cause of total disease burden by the year 2020 [13].
Research work on the topic and particularly on its long term
complications is lacking in this region (Assam) where, lack of
health awareness and education among women prevents them
from seeking timely medical care during pregnancy. In view of this
background, the present study has been undertaken in Gauhati
Medical College and Hospital of Assam with the objectives to assess
the fasting lipid profile in women diagnosed with pre-eclampsia
as well as in women with normal pregnancy, to calculate their
atherogenic indices and to correlate the findings of pre-eclamptic
women with that of normal pregnant women in an attempt to utilize
the data for the development of a new clinical approach for early
recognition and prevention of risk of future cardiovascular diseases
in women with pregnancy induced hypertension.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความพยายามหลายได้ทำในการแสวงหาใหม่ หรือฉุกเฉินหัวใจและหลอดเลือดปัจจัยเสี่ยงในการปรับปรุงโรคหลอดเลือดหัวใจคาดเดา และ ในความพยายามที่เพิ่มกำลังการผลิตที่คาดการณ์ค่าไขมัน หลายอัตราส่วนไลโปโปรตีน หรือ "atherogenic ดัชนี"มีการกำหนด [9] ดัชนีเหล่านี้สามารถพิสูจน์ได้ว่าจะ ดีกว่าทางเลือกในการตรวจสอบเป็นประจำ หนึ่งในนั้นคือหัวใจความเสี่ยงอัตรา (CRR) ซึ่งมักใช้สำหรับการประเมินความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจ (CVD) และถูกกำหนด โดยโครวมไปHDL คอเลสเตอรสม [10] ATHEROGENIC INDEX คือดัชนีอื่นของพลาสม่า (AIP), คำนวณเป็นบันทึก (TG/HDL-C) ไม่นานนี้เสนอเป็นเครื่องหมายของพลา atherogenecity เพราะมันจะเพิ่มขึ้นในคนที่เสี่ยงโรคสูงขึ้น และมีinversely ความสัมพันธ์กับขนาดอนุภาค LDL ความสัมพันธ์ของ TGsHDL-C ในอัตราส่วนนี้ง่ายในทางทฤษฎีสะท้อนให้เห็นถึงความสมดุลระหว่างความเสี่ยง และกองกำลังป้องกันไลโปโปรตีน TGs ทั้งสอง และHDL-C นั้นจะวัดกันอย่างแพร่หลาย และ [11] ATHEROGENICค่าสัมประสิทธิ์ (AC) เป็นดัชนีอื่นที่กำหนด โดยอัตราส่วนของห้องไขมัน HDL ให้ HDL คอเลสเตอร ได้มีคำนวณไม่ใช่ HDL-cไม่จำเป็นสำหรับการถือศีลอดของผู้ป่วยก่อน เป็นหลักการคอเลสเตอรอนาล็อกในระดับอาโป B ที่มีความสัมพันธ์สูงค่าสัมประสิทธิ์เมื่อเปรียบเทียบกับความเข้มข้นของไขมัน LDL[12] . ในประเทศที่พัฒนาแล้ว หลอดเลือดเป็นสาเหตุสำคัญof death and premature disability and is predicted to become theleading global cause of total disease burden by the year 2020 [13].Research work on the topic and particularly on its long termcomplications is lacking in this region (Assam) where, lack ofhealth awareness and education among women prevents themfrom seeking timely medical care during pregnancy. In view of thisbackground, the present study has been undertaken in GauhatiMedical College and Hospital of Assam with the objectives to assessthe fasting lipid profile in women diagnosed with pre-eclampsiaas well as in women with normal pregnancy, to calculate theiratherogenic indices and to correlate the findings of pre-eclampticwomen with that of normal pregnant women in an attempt to utilizethe data for the development of a new clinical approach for earlyrecognition and prevention of risk of future cardiovascular diseasesin women with pregnancy induced hypertension.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความพยายามของหลายคนได้รับการทำในการแสวงหาโผล่ออกมาใหม่หรือ
ปัจจัยเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือดในการปรับปรุงโรคหัวใจและหลอดเลือด
ทำนาย และในความพยายามที่จะเพิ่มประสิทธิภาพความสามารถในการคาดการณ์
ของโปรไฟล์ไขมันอัตราส่วนไลโปโปรตีนหลายหรือ "ดัชนีไขมัน"
ได้รับการกำหนด [9] ดัชนีเหล่านี้สามารถพิสูจน์ให้เป็นที่ดีกว่า
ทางเลือกในการสืบสวนประจำ หนึ่งในนั้นคือหัวใจ
ความเสี่ยงจากอัตราส่วนผสม (CRR) ซึ่งมักจะถูกใช้สำหรับการประเมินความเสี่ยงของ
โรคหัวใจและหลอดเลือด (CVD) และจะได้รับจากคอเลสเตอรอลรวม
อัตราส่วน HDL คอเลสเตอรอล [10] ดัชนีก็คือ INDEX atherogenic
พลาสม่า (AIP) คำนวณตาม log (TG / HDL-C) มันได้เมื่อเร็ว ๆ นี้
ได้รับการเสนอให้เป็นเครื่องหมายของ atherogenecity พลาสม่าเพราะมันจะเพิ่มขึ้นในผู้ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบและมี
ความสัมพันธ์ผกผันกับขนาดอนุภาค LDL สมาคม TGs
และ HDL-C ในอัตราส่วนที่เรียบง่ายในทางทฤษฎีนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสมดุล
ระหว่างความเสี่ยงและกองกำลังป้องกันไลโปโปรตีนและทั้งสอง TGs และ
HDL-C จะถูกวัดกันอย่างแพร่หลายและสามารถใช้ได้ [11] หลอดเลือดตีบแข็ง
ค่าสัมประสิทธิ์ (AC) เป็นดัชนีการที่จะได้รับจากอัตราส่วนของที่ไม่ใช่
HDL คอเลสเตอรอลจะ HDL คอเลสเตอรอล ไม่ใช่ HDL-C จะถูกคำนวณได้อย่างง่ายดาย
โดยไม่จำเป็นต้องอดอาหารก่อนหน้านี้ของผู้ป่วยไม่มี มันเป็นหลัก
อะนาล็อกคอเลสเตอรอลให้อยู่ในระดับ APO B มีความสัมพันธ์ที่สูงกว่า
ค่าสัมประสิทธิ์ในการเปรียบเทียบกับความเข้มข้นของคอเลสเตอรอล
[12] ในประเทศที่พัฒนาหลอดเลือดเป็นสาเหตุสำคัญ
ของการเสียชีวิตและความพิการก่อนวัยอันควรและคาดว่าจะกลายเป็น
สาเหตุชั้นนำระดับโลกของภาระโรคทั้งหมดในปี 2020 [13].
งานวิจัยในหัวข้อและโดยเฉพาะอย่างยิ่งในระยะยาวของ
ภาวะแทรกซ้อนที่จะขาดใน ภูมิภาคนี้ (อัสสัม) ที่ขาดการ
รับรู้สุขภาพและการศึกษาในหมู่ผู้หญิงป้องกันพวกเขา
จากการแสวงหาการดูแลทางการแพทย์ทันเวลาในระหว่างตั้งครรภ์ ในมุมมองนี้
พื้นหลังการศึกษาในปัจจุบันได้รับการดำเนินการใน Gauhati
วิทยาลัยแพทย์และโรงพยาบาลของรัฐอัสสัมมีวัตถุประสงค์เพื่อประเมิน
รายละเอียดไขมันอดอาหารในผู้หญิงกับการวินิจฉัยก่อน eclampsia
เช่นเดียวกับในผู้หญิงที่มีการตั้งครรภ์ปกติในการคำนวณของพวกเขา
ดัชนีไขมัน และความสัมพันธ์ของผลการวิจัยก่อน eclamptic
ผู้หญิงกับที่ของหญิงตั้งครรภ์ปกติในความพยายามที่จะใช้ประโยชน์จาก
ข้อมูลสำหรับการพัฒนาวิธีการทางคลินิกต้นใหม่สำหรับ
การรับรู้และการป้องกันความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือดในอนาคต
ในผู้หญิงกับการตั้งครรภ์เหนี่ยวนำให้เกิดความดันโลหิตสูง