บทที่ ๒เอกสารอ้างอิงการปฐมพยาบาลเบื้องต้นการปฐมพยาบาล หมายถึง การให้คว การแปล - บทที่ ๒เอกสารอ้างอิงการปฐมพยาบาลเบื้องต้นการปฐมพยาบาล หมายถึง การให้คว ไทย วิธีการพูด

บทที่ ๒เอกสารอ้างอิงการปฐมพยาบาลเบื

บทที่ ๒
เอกสารอ้างอิง
การปฐมพยาบาลเบื้องต้น
การปฐมพยาบาล หมายถึง การให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ป่วยหรือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ณ สถานที่เกิดเหตุ โดยใช้อุปกรณ์เท่าที่จะหาได้ในขณะนั้น นำมาใช้ในการรักษาเบื้องต้น ควรทำการปฐมพยาบาลให้เร็วที่สุดหลังเกิดเหตุโดยอาจทำได้ในทันที หรือระหว่างการนำผู้ป่วยหรือผู้บาดเจ็บไปยังโรงพยาบาลหรือสถานที่รักษาพยาบาลอื่นๆ เพื่อช่วยบรรเทาอาการเจ็บป่วย หรืออาการบาดเจ็บนั้นๆ ก่อนที่ผู้ป่วยหรือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจะได้รับการดูแลรักษาจากบุคลากรทางการแพทย์ หรือถูกนำส่งไปยังโรงพยาบาล
การปฐมพยาบาล มีวัตถุประสงค์ที่สำคัญคือ
๑. เพื่อช่วยชีวิตผู้ป่วย หรือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์หรืออุบัติเหตุต่างๆในขณะนั้น
๒. เพื่อเป็นการลดความรุนแรงของอาการบาดเจ็บหรือการเจ็บป่วย
๓. เพื่อทำให้บรรเทาความเจ็บปวดทรมานของผู้ป่วยหรือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ และช่วยให้กลับสู่สภาพเดิมโดยเร็ว
4. เพื่อป้องกันความพิการ หรือความเจ็บปวดอื่นๆที่จะเกิดขึ้นตามมาภายหลัง
ขอบเขตของผู้ทำการปฐมพยาบาล
ผู้ปฐมพยาบาลมีหน้าที่ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บหรือผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น จะหมดหน้าที่เมื่อผู้บาดเจ็บปลอดภัยหรือได้รับการรักษาจากแพทย์หรือสถานพยาบาลแล้ว
ขอบเขตหน้าที่ของผู้ปฐมพยาบาลมี 2 ประการใหญ่ ๆ คือ
1. วิเคราะห์สาเหตุและความรุนแรงของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น เพื่อเป็นแนวทางในการช่วยเหลือได้ถูกต้อง มีขั้นตอนดังนี้
1.1 ซักประวัติของอุบัติเหตุ จากผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์หรือผู้บาดเจ็บที่รู้สึกตัวดี
1.2 ซักถามอาการผิดปกติหลังได้รับอุบัติเหตุ เช่น ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดมากที่บริเวณใด ฯลฯ
1.3 ตรวจร่างกายผู้บาดเจ็บทุกครั้งก่อนให้การปฐมพยาบาล โดยตรวจตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เพื่อค้นหาสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้น เช่น อาการบวม บาดแผล กระดูกหัก เป็นต้น
ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ โดยช่วยเป็นลำดับขั้นดังนี้
2.1 ถ้าผู้บาดเจ็บอยู่ในบริเวณที่มีอันตรายต้องเคลื่อนย้ายออกมาก่อน เช่น ตึกพังถล่มลงมา ไฟไหม้ในโรงภาพยนต์ เป็นต้น
2.2 ช่วยชีวิต โดยจะตรวจดูลักษณะการหายใจว่ามีการอุดตันของทางเดินหายใจหรือไม่ หัวใจหยุดเต้นหรือไม่ ถ้ามีก็ให้รีบช่วยกู้ชีวิตซึ่งจะกล่าวในตอนต่อไป
2.3 ช่วยมิให้เกิดอันตรายมากขึ้น ถ้ามีกระดูกหักต้องเข้าเฝือกก่อน เพื่อมิให้มีการฉีกขาดของเนื้อเยื่อมากขึ้น ถ้ามีบาดแผลต้องคลุมด้วยผ้าสะอาด เพื่อมิให้ฝุ่นละอองเข้าไปทำให้ติดเชื้อ ในรายที่สงสัยว่ามีการหักของกระดูกสันหลัง ต้องให้อยู่นิ่งที่สุด และถ้าจะต้องเคลื่อนย้ายจะต้องให้แนวกระดูกสันหลังตรง โดยนอนราบบนพื้นไม้แข็ง มีหมอนหรือผ้าประคองศีรษะมิให้เคลื่อนไหว ให้คำปลอบโยนผู้บาดเจ็บ ให้กำลังใจ อยู่กับผู้บาดเจ็บตลอดเวลา พลิกตัว หรือ จับต้องด้วยความอ่อนโยนและระมัดระวัง ไม่ละทิ้งผู้บาดเจ็บอาจต้องหาผู้อื่นมาอยู่ด้วยถ้าจำเป็น


การปฐมพยาบาลเบื้องต้น
การห้ามเลือด

การห้ามเลือดของร่างกาย เป็นขบวนการทางชีวเคมีที่สำคัญของร่างกาย เพื่อควบคุมให้เลือดคสภาพเป็นของเหลวไหลเวียนเป็นปกติอยู่ภายในหลอดเลือด และเปลี่ยนสภาพเป็นลิ่มเลือด ป้องกันการสูญเสียเลือดจากระบบไหลเวียนเลือดเมื่อเกิดการบาดเจ็บของหลอด เลือด โดยจะมีเกล็ดเลือดและไฟบรินมาปกคลุมบริเวณผนังหลอดเลือดที่เกิดการบาดเจ็บ เพื่อให้เลือดหยุดไหลและเริ่มต้นการซ่อมแซมหลอดเลือดที่เสียหาย ความผิดปกติของการแข็งตัวของเลือดจะนำไปสู่ความเสี่ยงต่อการเลือดออก (Hemorrhage) และ
หรือ การเกิดลิ่มเลือด (Thrombosis) การแข็งตัว ของเลือดเป็นระบบที่มีความซับซ้อน เกี่ยวข้องกับระบบหลอดเลือด, ระบบเกล็ดเลือด และการสร้างลิ่มเลือด โดยเมื่อเกิดการบาดเจ็บของหลอดเลือด หลอดเลือดจะหดตัวอย่างรวดเร็วและทันที เพื่อจำกัดจำนวนเลือดไม่ให้สูญเสียออกไป นอกจากนั้นเซลล์เยื่อบุของหลอดเลือด (Endothelial cell) จะสร้างสารที่จำเป็นสำหรับการสร้างลิ่มเลือด และกระตุ้นเกล็ดเลือดให้มาเกาะกลุ่มกันบริเวณบาดแผล เรียกกลไกการเกาะกลุ่มกันของเกล็ดเลือดว่า กลไกห้ามเลือดปฐมภูมิ (Primary Hemostasis) สำหรับกลไกห้ามเลือดทุติยภูมิ (Secondary Hemosatasis)จะ เกิดจากโปรตีนในเลือดที่เรียกว่า Coagulation factor (ปัจจัยการแข็งตัวของเลือด) ซึ่งผลที่ตามมาคือ ทำให้เกิดลิ่มเลือด และไฟบรินที่ช่วยสร้างความแข็งแรงให้กับกลุ่มของเกล็ดเลือด

การห้ามเลือด
การห้ามเลือดโดยทั่วไป จะใช้วิธีการอยู่ 2 วิธีคือ การใช้มือกด และการใช้ผ้ากดเพื่อพันแผล ซึ่งเป็นวิธีการที่ใช้กันอยู่ เพียงแต่จะมีเทคนิควิธีการที่ค่อนข้างเฉพาะจุด ซึ่งต้องทำความเข้าใจโดยวิธีการลงมือปฏิบัติ
1) การใช้มือกด สามารถห้ามเลือดได้โดยการใช้มือกด หรือใช้นิ้วกดบาดแผลโดยตรง นอกจากนี้ยังใช้มือหรือนิ้วบีบปากแผลเข้าหากัน ใช้สำหรับกรณีที่บาดแผลมีขนาดใหญ่ส่วนวิธีการใช้นิ้วกดเส้นเลือดแดงใหญ่เหนือบาดแผล ใช้ในบาดแผลบริเวณแขนขาที่เลือดออกมาก โดยส่วนใหญ่เกิดจากการบาดเจ็บต่อหลอดเลือดแดง และห้ามกดติดต่อกันนานเกิน 15 นาที เพราะจะทำให้เนื้อเยื่อส่วนปลายขาดเลือดได้
2) การใช้ผ้ากดและการใช้ผ้าพันแผล มีด้วยกัน 3 วิธีคือขยุ้มผ้าสะอาดกดลงบนบาดแผลโดยตรงขยุ้มผ้าสะอาดกดลงบนบาดแผลแล้วใช้ผ้าสามเหลี่ยมพันขยุ้มผ้าสะอาดกดลงบนบาดแผลแล้วใช้ผ้ายืดพัน
หากไม่มีกระดูกหัก ควรยกบริเวณที่มีเลือดออกให้สูงกว่าระดับหัวใจ และไม่ควรกดหรือพันแน่นจนเกินไป เพราะจะทำให้อวัยวะส่วยปลายที่กดหรือพันขาดเลือดได้ (ยกเว้นกรณีที่ห้ามเลือดโดยวิธีกดเส้นเลือดแดงใหญ่) หากนำผ้าปิดแผลชุ่มเลือดแล้วไม่ควรเอาออกและควรนำผ้าอีกชิ้นมาปิดทับบนผ้าชิ้นแรก
วิธีการข้างต้นเป็นสิ่งที่คุณผู้อ่านทุกท่านสามารถนำไปใช้ได้ แต่หากต้องระมัดระวัง ในเรื่องการติดเชื้อ การสัมผัสตัวผู้ป่วยด้วยเป็นสำคัญ ทางที่ดีเมื่อทำการปฐมพยาบาลแล้ว ให้รีบส่งตัวเข้าโรงพยาบาลทันทีในแผนกฉุกเฉิน

ชนิดของบาดแผล
ชนิดของบาดแผลที่พบ สามารถแบ่งออกได้เป็น 7 ชนิด ดังต่อไปนี้
1) บาดแผลฟกช้ำ ห้อเลือด
วิธีการปฐมพยาบาล ให้ประคบด้วยความเย็นทันทีภายใน 24 ชั่วโมงแรกและให้ประคบด้วยความร้อนภายใน 24 ชั่วโมงหลัง
2) บาดแผล
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
บทที่ ๒เอกสารอ้างอิงการปฐมพยาบาลเบื้องต้นการปฐมพยาบาลหมายถึงการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ป่วยหรือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บณสถานที่เกิดเหตุโดยใช้อุปกรณ์เท่าที่จะหาได้ในขณะนั้นนำมาใช้ในการรักษาเบื้องต้นควรทำการปฐมพยาบาลให้เร็วที่สุดหลังเกิดเหตุโดยอาจทำได้ในทันทีหรือระหว่างการนำผู้ป่วยหรือผู้บาดเจ็บไปยังโรงพยาบาลหรือสถานที่รักษาพยาบาลอื่น ๆ เพื่อช่วยบรรเทาอาการเจ็บป่วยหรืออาการบาดเจ็บนั้น ๆ ก่อนที่ผู้ป่วยหรือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจะได้รับการดูแลรักษาจากบุคลากรทางการแพทย์หรือถูกนำส่งไปยังโรงพยาบาลการปฐมพยาบาลมีวัตถุประสงค์ที่สำคัญคือ๑ . เพื่อช่วยชีวิตผู้ป่วยหรือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์หรืออุบัติเหตุต่างๆในขณะนั้น ๒ . เพื่อเป็นการลดความรุนแรงของอาการบาดเจ็บหรือการเจ็บป่วย๓ . เพื่อทำให้บรรเทาความเจ็บปวดทรมานของผู้ป่วยหรือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและช่วยให้กลับสู่สภาพเดิมโดยเร็ว4. เพื่อป้องกันความพิการหรือความเจ็บปวดอื่นๆที่จะเกิดขึ้นตามมาภายหลังขอบเขตของผู้ทำการปฐมพยาบาลผู้ปฐมพยาบาลมีหน้าที่ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บหรือผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้นจะหมดหน้าที่เมื่อผู้บาดเจ็บปลอดภัยหรือได้รับการรักษาจากแพทย์หรือสถานพยาบาลแล้ว ขอบเขตหน้าที่ของผู้ปฐมพยาบาลมี 2 ประการใหญ่ๆ คือ1. วิเคราะห์สาเหตุและความรุนแรงของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเพื่อเป็นแนวทางในการช่วยเหลือได้ถูกต้องมีขั้นตอนดังนี้1.1 ซักประวัติของอุบัติเหตุจากผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์หรือผู้บาดเจ็บที่รู้สึกตัวดี 1.2 ซักถามอาการผิดปกติหลังได้รับอุบัติเหตุเช่นปวดศีรษะคลื่นไส้อาเจียนปวดมากที่บริเวณใดฯลฯ1.3 ตรวจร่างกายผู้บาดเจ็บทุกครั้งก่อนให้การปฐมพยาบาลโดยตรวจตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าเพื่อค้นหาสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นเช่นอาการบวมบาดแผลกระดูกหักเป็นต้นช่วยเหลือผู้บาดเจ็บโดยช่วยเป็นลำดับขั้นดังนี้2.1 ถ้าผู้บาดเจ็บอยู่ในบริเวณที่มีอันตรายต้องเคลื่อนย้ายออกมาก่อนเช่นตึกพังถล่มลงมาไฟไหม้ในโรงภาพยนต์เป็นต้น2.2 ช่วยชีวิตโดยจะตรวจดูลักษณะการหายใจว่ามีการอุดตันของทางเดินหายใจหรือไม่หัวใจหยุดเต้นหรือไม่ถ้ามีก็ให้รีบช่วยกู้ชีวิตซึ่งจะกล่าวในตอนต่อไป2.3 ช่วยมิให้เกิดอันตรายมากขึ้นถ้ามีกระดูกหักต้องเข้าเฝือกก่อนเพื่อมิให้มีการฉีกขาดของเนื้อเยื่อมากขึ้นถ้ามีบาดแผลต้องคลุมด้วยผ้าสะอาดเพื่อมิให้ฝุ่นละอองเข้าไปทำให้ติดเชื้อในรายที่สงสัยว่ามีการหักของกระดูกสันหลังต้องให้อยู่นิ่งที่สุดและถ้าจะต้องเคลื่อนย้ายจะต้องให้แนวกระดูกสันหลังตรงโดยนอนราบบนพื้นไม้แข็งมีหมอนหรือผ้าประคองศีรษะมิให้เคลื่อนไหวให้คำปลอบโยนผู้บาดเจ็บให้กำลังใจอยู่กับผู้บาดเจ็บตลอดเวลาพลิกตัวหรือจับต้องด้วยความอ่อนโยนและระมัดระวังไม่ละทิ้งผู้บาดเจ็บอาจต้องหาผู้อื่นมาอยู่ด้วยถ้าจำเป็นการปฐมพยาบาลเบื้องต้น การห้ามเลือด การห้ามเลือดของร่างกายเป็นขบวนการทางชีวเคมีที่สำคัญของร่างกายเพื่อควบคุมให้เลือดคสภาพเป็นของเหลวไหลเวียนเป็นปกติอยู่ภายในหลอดเลือดและเปลี่ยนสภาพเป็นลิ่มเลือดป้องกันการสูญเสียเลือดจากระบบไหลเวียนเลือดเมื่อเกิดการบาดเจ็บของหลอดเลือดโดยจะมีเกล็ดเลือดและไฟบรินมาปกคลุมบริเวณผนังหลอดเลือดที่เกิดการบาดเจ็บเพื่อให้เลือดหยุดไหลและเริ่มต้นการซ่อมแซมหลอดเลือดที่เสียหายความผิดปกติของการแข็งตัวของเลือดจะนำไปสู่ความเสี่ยงต่อการเลือดออก (ตกเลือด) และหรือ การเกิดลิ่มเลือด (Thrombosis) การแข็งตัว ของเลือดเป็นระบบที่มีความซับซ้อน เกี่ยวข้องกับระบบหลอดเลือด, ระบบเกล็ดเลือด และการสร้างลิ่มเลือด โดยเมื่อเกิดการบาดเจ็บของหลอดเลือด หลอดเลือดจะหดตัวอย่างรวดเร็วและทันที เพื่อจำกัดจำนวนเลือดไม่ให้สูญเสียออกไป นอกจากนั้นเซลล์เยื่อบุของหลอดเลือด (Endothelial cell) จะสร้างสารที่จำเป็นสำหรับการสร้างลิ่มเลือด และกระตุ้นเกล็ดเลือดให้มาเกาะกลุ่มกันบริเวณบาดแผล เรียกกลไกการเกาะกลุ่มกันของเกล็ดเลือดว่า กลไกห้ามเลือดปฐมภูมิ (Primary Hemostasis) สำหรับกลไกห้ามเลือดทุติยภูมิ (Secondary Hemosatasis)จะ เกิดจากโปรตีนในเลือดที่เรียกว่า Coagulation factor (ปัจจัยการแข็งตัวของเลือด) ซึ่งผลที่ตามมาคือ ทำให้เกิดลิ่มเลือด และไฟบรินที่ช่วยสร้างความแข็งแรงให้กับกลุ่มของเกล็ดเลือดการห้ามเลือดการห้ามเลือดโดยทั่วไป จะใช้วิธีการอยู่ 2 วิธีคือ การใช้มือกด และการใช้ผ้ากดเพื่อพันแผล ซึ่งเป็นวิธีการที่ใช้กันอยู่ เพียงแต่จะมีเทคนิควิธีการที่ค่อนข้างเฉพาะจุด ซึ่งต้องทำความเข้าใจโดยวิธีการลงมือปฏิบัติ1) การใช้มือกด สามารถห้ามเลือดได้โดยการใช้มือกด หรือใช้นิ้วกดบาดแผลโดยตรง นอกจากนี้ยังใช้มือหรือนิ้วบีบปากแผลเข้าหากัน ใช้สำหรับกรณีที่บาดแผลมีขนาดใหญ่ส่วนวิธีการใช้นิ้วกดเส้นเลือดแดงใหญ่เหนือบาดแผล ใช้ในบาดแผลบริเวณแขนขาที่เลือดออกมาก โดยส่วนใหญ่เกิดจากการบาดเจ็บต่อหลอดเลือดแดง และห้ามกดติดต่อกันนานเกิน 15 นาที เพราะจะทำให้เนื้อเยื่อส่วนปลายขาดเลือดได้2) การใช้ผ้ากดและการใช้ผ้าพันแผล มีด้วยกัน 3 วิธีคือขยุ้มผ้าสะอาดกดลงบนบาดแผลโดยตรงขยุ้มผ้าสะอาดกดลงบนบาดแผลแล้วใช้ผ้าสามเหลี่ยมพันขยุ้มผ้าสะอาดกดลงบนบาดแผลแล้วใช้ผ้ายืดพันหากไม่มีกระดูกหัก ควรยกบริเวณที่มีเลือดออกให้สูงกว่าระดับหัวใจ และไม่ควรกดหรือพันแน่นจนเกินไป เพราะจะทำให้อวัยวะส่วยปลายที่กดหรือพันขาดเลือดได้ (ยกเว้นกรณีที่ห้ามเลือดโดยวิธีกดเส้นเลือดแดงใหญ่) หากนำผ้าปิดแผลชุ่มเลือดแล้วไม่ควรเอาออกและควรนำผ้าอีกชิ้นมาปิดทับบนผ้าชิ้นแรกวิธีการข้างต้นเป็นสิ่งที่คุณผู้อ่านทุกท่านสามารถนำไปใช้ได้ แต่หากต้องระมัดระวัง ในเรื่องการติดเชื้อ การสัมผัสตัวผู้ป่วยด้วยเป็นสำคัญ ทางที่ดีเมื่อทำการปฐมพยาบาลแล้ว ให้รีบส่งตัวเข้าโรงพยาบาลทันทีในแผนกฉุกเฉินชนิดของบาดแผล ชนิดของบาดแผลที่พบ สามารถแบ่งออกได้เป็น 7 ชนิด ดังต่อไปนี้1) บาดแผลฟกช้ำ ห้อเลือดวิธีการปฐมพยาบาล ให้ประคบด้วยความเย็นทันทีภายใน 24 ชั่วโมงแรกและให้ประคบด้วยความร้อนภายใน 24 ชั่วโมงหลัง2) บาดแผล
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
บทที่ หมายถึง ณ สถานที่เกิดเหตุ นำมาใช้ในการรักษาเบื้องต้น เพื่อช่วยบรรเทาอาการเจ็บป่วยหรืออาการบาดเจ็บ นั้น ๆ มีวัตถุประสงค์ที่สำคัญคือ1 เพื่อช่วยชีวิตผู้ป่วย และช่วยให้กลับสู่สภาพเดิมโดย เร็ว 4 เพื่อป้องกันความพิการ 2 ประการใหญ่ ๆ คือ1 มีขั้นตอนดังนี้1.1 ซักประวัติของอุบัติเหตุ เช่นปวดศีรษะคลื่นไส้อาเจียนปวดมากที่ บริเวณใด ฯลฯ 1.3 ตั้งแต่ตรวจโดยศีรษะจรดปลายวุฒิการเท้าเพื่อค้นหาสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นเช่นอาการบวมบาดแผลกระดูกหักเป็นต้นช่วยเหลือสร้างคุณผู้บาดเจ็บโดยช่วยเป็นลำดับขั้นดังนี้2.1 เช่นตึกพังถล่มลงมาไฟไหม้ ในโรงภาพยนต์เป็นต้น 2.2 ช่วยชีวิต หัวใจหยุดเต้นหรือไม่ ช่วยมิให้เกิดอันตรายมากขึ้นถ้า มีกระดูกหักต้องเข้าเฝือกก่อน ถ้ามีบาดแผลต้องคลุมด้วยผ้าสะอาด ต้องให้อยู่นิ่งที่สุด โดยนอนราบบนพื้นไม้แข็ง ให้คำปลอบโยนผู้บาดเจ็บให้กำลังใจอยู่ กับผู้บาดเจ็บตลอดเวลาพลิกตัวหรือ และเปลี่ยนสภาพเป็นลิ่มเลือด เลือด (การตกเลือด) และหรือหัวเรื่อง: การเกิดลิ่มเลือด (Thrombosis) การแข็งตัวของเลือดเป็นระบบที่มี ความซับซ้อนเกี่ยวข้องกับระบบหลอดเลือด , ระบบเกล็ดเลือดและการสร้างลิ่มเลือด (เซลล์บุผนังหลอดเลือด) กลไกห้ามเลือดปฐมภูมิ (อัลกอริธึประถม) สำหรับกลไกห้ามเลือดทุติยภูมิ (Secondary Hemosatasis) จะเกิดจากโปรตีนในเลือดที่เรียก ว่า ปัจจัยการแข็งตัว (ปัจจัยการแข็งตัวของเลือด) ซึ่งผลที่ตามมาคือทำให้เกิด ลิ่มเลือด จะใช้วิธีการอยู่ 2 วิธีคือการใช้มือกดและการ ใช้ผ้ากดเพื่อพันแผลซึ่งเป็นวิธีการที่ใช้กันอยู่ การใช้มือกดสามารถห้ามเลือดได้โดย การใช้มือกดหรือใช้นิ้วกดบาดแผลโดยตรง และห้ามกดติดต่อกันนานเกิน 15 นาที การใช้ผ้ากดและการใช้ผ้าพันแผล มีด้วยกัน 3 และไม่ควรกดหรือพันแน่นจน เกินไป แต่หากต้องระมัดระวังในเรื่องการติด เชื้อการสัมผัสตัวผู้ป่วยด้วยเป็นสำคัญทางที่ดีเมื่อทำการปฐมพยาบาลแล้ว สามารถแบ่งออกได้เป็น 7 ชนิดดังต่อไปนี้1) ฟกช้ำห้อบาดแผลเลือดวิธีหัวเรื่อง: การปฐมพยาบาลให้ประคบด้วยความสามารถเย็นทันทีภายใน 24 24 ชั่วโมงหลัง2) บาดแผล






































การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
บทที่๒เอกสารอ้างอิงการปฐมพยาบาลเบื้องต้นการปฐมพยาบาลหมายถึงการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ป่วยหรือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บณสถานที่เกิดเหตุโดยใช้อุปกรณ์เท่าที่จะหาได้ในขณะนั้นนำมาใช้ในการรักษาเบื้องต้นควรทำการปฐมพยาบาลให้เร็วที่สุดหลังเกิดเหตุโดยอาจทำได้ในทันทีหรือระหว่างการนำผู้ป่วยหรือผู้บาดเจ็บไ ปยังโรงพยาบาลหรือสถานที่รักษาพยาบาลอื่นๆเพื่อช่วยบรรเทาอาการเจ็บป่วยหรืออาการบาดเจ็บนั้นๆก่อนที่ผู้ป่วยหรือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจะได้รับการดูแลรักษาจากบุคลากรทางการแพทย์หรือถูกนำส่งไปยังโรงพยาบาลการปฐมพยาบาลมีวัตถุประสงค์ที่สำคัญคือ๑ . เพื่อช่วยชีวิตผู้ป่วยหรือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์หรืออุบัติเหตุต่างๆในขณะนั้น๒ . เพื่อเป็นการลดความรุนแรงของอาการบาดเจ็บหรือการเจ็บป่วยกัน . เพื่อทำให้บรรเทาความเจ็บปวดทรมานของผู้ป่วยหรือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและช่วยให้กลับสู่สภาพเดิมโดยเร็ว4 . เพื่อป้องกันความพิการหรือความเจ็บปวดอื่นๆที่จะเกิดขึ้นตามมาภายหลังขอบเขตของผู้ทำการปฐมพยาบาลผู้ปฐมพยาบาลมีหน้าที่ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บหรือผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้นจะหมดหน้าที่เมื่อผู้บาดเจ็บปลอดภัยหรือได้รับการรักษาจากแพทย์หรือสถานพยาบาลแล้วขอบเขตหน้าที่ของผู้ปฐมพยาบาลมีประการใหญ่ไม่มีความ 21 . วิเคราะห์สาเหตุและความรุนแรงของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเพื่อเป็นแนวทางในการช่วยเหลือได้ถูกต้องมีขั้นตอนดังนี้1.1 ซักประวัติของอุบัติเหตุจากผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์หรือผู้บาดเจ็บที่รู้สึกตัวดี1.2 ซักถามอาการผิดปกติหลังได้รับอุบัติเหตุเช่นปวดศีรษะคลื่นไส้อาเจียนปวดมากที่บริเวณใดฯลฯ1.3 ตรวจร่างกายผู้บาดเจ็บทุกครั้งก่อนให้การปฐมพยาบาลโดยตรวจตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าเพื่อค้นหาสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นเช่นอาการบวมบาดแผลกระดูกหักเป็นต้นช่วยเหลือผู้บาดเจ็บโดยช่วยเป็นลำดับขั้นดังนี้2.1 ถ้าผู้บาดเจ็บอยู่ในบริเวณที่มีอันตรายต้องเคลื่อนย้ายออกมาก่อนเช่นตึกพังถล่มลงมาไฟไหม้ในโรงภาพยนต์เป็นต้น2.2 ช่วยชีวิตโดยจะตรวจดูลักษณะการหายใจว่ามีก
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: