Company Background Burger King was

Company Background

Burger King was originally knows as Insta-Burger King. It was founded in Florida in 1953 by Keith Kramer and Mathew Burns before they had financial difficulties and sold the company to its Miami based franchisee, James McLoamore and David Edgerton in 1955. The new owner renamed the company to Burger King. The first Whopper sandwich was introduced in 1957.The company again was sold to the other party. Pillsbury Coporation during their expansion to 250 locations in United States.

In 1989,Pillsy Corporation was sold to Grand Merropolitan, which in turn merged with Guinness to form Diageo, a British spirits company. Diageo’s management neglected the Burger King business, leading to poor operating performance. The business was damaged to the point that major franchise went out of business and the total value of the firm declined Diageo’s management decided to divest the money-losing chain by selling it to a partnership private equity firm led by TPG Capital in 2002. The company became re-energized by a series of promotional campaign and activties created by the investment group. In May 2006,the invesment group took Burger King public by issuing an Initial Public Offering (IPO).
The investment group con tinued to own 31% of the outstanding common stock.

As of June 2010,the company owned or franchised 12,174 restaurants in 76 countries and United States territories, of which 1,387 were company-owned by franchisees. Of Burger King’s restaurant total,60% were located in the United States. The restaurant featured-broiled hamburgers,chicken and other specialty sanwiches,french fries,soft drink and other low-priced food items






















CORPORATE RESPONSIBILITY
They define the liability towards the company and consider continuously krathu effect what they do, and improve the manner to date.They build confidence to the company and the employee. Build goodwill and strong communities in which they work. They emphasize the importance of food People, the environment and corporate governance.

COMMITMENT TO FOOD
Their restaurants have been serving high quality, great tasting and affordable food around the world. They are developing a variety of food to suit the taste and lifestyle of the individual. To meet customer demand.

COMMITMENT TO PEOPLE
They are dedicated to supporting and investing in their people – employees, franchisees, suppliers and restaurant guests – because they are the cornerstones of their business. They support the Foundation. The franchise community and their families because they have a lot of investments around the world.They work as a team and are committed to making the Burger King exist all over the world.

COMMITMENT TO THE ENVIRONMENT
They think of environmental impacts on people in the communities they serve. They committed to develop the change to affect the environment without impact to work as much as possible For example, they know that recycling and waste management are two of their biggest environmental challenges. They remain committed to working with suppliers to find ways they can reduce, reuse and recycle.

COMMITMENT TO CORPORATE GOVERNANCE
They are committed to ethical culture by promoting ethics, respect. Values every employee and person.
They support, obey the laws and policies of the company, to become a good citizen of the community, and improve the global community.

THE BURGER KING MCLAMORE FOUNDATION
At the heart of their philanthropy program is the BURGER KING McLAMORE Foundation.
McLAMORE Foundation is a not-for-profit Foundation, a public charity. They are intended to support the advancement of education and to help the members that there was a shortage Foundation. McLAMORE partnering with charities around the world who share the mission of advancing the Foundation McLAMORE a responsible global corporate and. Controlled by a committee consisting of executives and their franchisees.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประวัติบริษัท เบอร์เกอร์คิงเดิมรู้เป็น Insta เบอร์เกอร์คิง มันก่อตั้งในรัฐฟลอริดาในปีค.ศ. 1953 โดยคีธ Kramer และ Mathew ไหม้ก่อนที่จะมีความยากลำบากทางการเงิน และขายบริษัทของไมอามี่ตามแฟรนไชส์ James McLoamore และ David Edgerton ใน 1955 เจ้าของใหม่เปลี่ยนชื่อบริษัทเบอร์เกอร์คิง Whopper แรกที่แซนวิชถูกนำในบริษัท 1957.The อีกถูกขายให้บุคคลอื่น Coporation Pillsbury ในระหว่างการขยายตัวไปตั้ง 250 ในสหรัฐอเมริกา ในปี 1989, Pillsy บริษัทถูกขายไป Merropolitan แกรนด์ ที่จะผสานกับ Guinness เพื่อ Diageo บริษัทสุราอังกฤษ จัดการของ Diageo ที่ไม่มีกิจกรรมธุรกิจเบอร์เกอร์คิง นำไปสู่ผลจน ธุรกิจเสียหายไปยังจุดที่แฟรนไชส์หลักออกจากธุรกิจ และมูลค่ารวมของบริษัทปฏิเสธของ Diageo จัดการตัดสินใจ divest โซ่เงินแพ้ โดยขายให้กับหุ้นส่วนที่หุ้นส่วนของบริษัทนำ โดยทุน TPG ใน 2002 บริษัทเป็นอีกพลังงาน โดยชุดของแคมเปญส่งเสริมการขายและสร้างกลุ่มลงทุน activties พฤษภาคม 2549 กลุ่ม invesment เอาเบอร์เกอร์คิงสาธารณะโดยการเริ่มต้นเสนอขาย (IPO)กลุ่มลงทุนติด tinued 31% ของหุ้นโดดเด่นของตัวเอง มิถุนายน 2553 บริษัทเป็นเจ้าของ หรือร้านอาหาร 12,174 ใน 76 ประเทศและดินแดนสหรัฐอเมริกา ที่ 1,387 ถูกเจ้าของบริษัท โดย franchisees franchised รวมอาหารเบอร์เกอร์คิง 60% ตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกา ร้านอาหารที่โดดเด่น-broiled แฮมเบอร์เกอร์ ไก่ และ sanwiches พิเศษอื่น ๆ ทอด ดื่ม และสินค้าอื่น ๆ ราคาถูกอาหาร ความรับผิดชอบขององค์กรจะกำหนดความรับผิดชอบต่อบริษัท และพิจารณาอย่างต่อเนื่องถนนบางลามีผลอะไรจะทำ และปรับปรุงลักษณะวันที่ พวกเขาสร้างความมั่นใจในบริษัทและพนักงาน สร้างชุมชนเข้มแข็งที่พวกเขาทำงานและค่าความนิยม พวกเขาเน้นความสำคัญของอาหารคน สิ่งแวดล้อม และบรรษัทภิบาล เสน่ห์อาหารร้านอาหารของพวกเขาได้ให้บริการคุณภาพสูง ชิมดี และราคาไม่แพงอาหารทั่วโลก พวกเขาจะพัฒนาความหลากหลายของอาหารให้เหมาะสมกับรสชาติและชีวิตของบุคคล เพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้า ความมุ่งมั่นเพื่อคนพวกเขาจะทุ่มเทเพื่อสนับสนุน และลงทุนในประชาชน –พนักงาน franchisees ซัพพลายเออร์ และร้าน – เพราะเป็นสิ่งสำคัญของธุรกิจของพวกเขา พวกเขาสนับสนุนมูลนิธิ แฟรนไชส์ชุมชนและครอบครัวของพวกเขา เพราะพวกเขามีจำนวนมากของเงินลงทุนทั่วโลก พวกเขาทำงานเป็นทีม และมุ่งมั่นที่จะทำให้เบอร์เกอร์คิงที่มีอยู่ทั่วโลก ความมุ่งมั่นต่อสิ่งแวดล้อม พวกเขาคิดว่า สิ่งแวดล้อมผลกระทบต่อคนในชุมชนพวกเขาให้บริการ พวกเขามุ่งมั่นที่จะพัฒนาเปลี่ยนแปลงส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยไม่มีผลกระทบต่อการทำงานมากที่สุดเช่น พวกเขารู้ว่ารีไซเคิล และจัดการของเสียมีสองความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อม พวกเขายังคงมุ่งมั่นที่จะทำงานกับซัพพลายเออร์เพื่อหาวิธีที่พวกเขาสามารถลด ใช้ซ้ำ และรีไซเคิล มุ่งมั่นที่จะกำกับดูแลพวกเขาจะให้จริยธรรมวัฒนธรรม โดยส่งเสริมจริยธรรม ความเคารพ ค่าพนักงานและบุคคลทุกพวกเขาสนับสนุน เชื่อฟังกฎหมายและนโยบายของบริษัท การเป็น พลเมืองดีของชุมชน และปรับปรุงชุมชนทั่วโลก มูลนิธิ MCLAMORE เบอร์เกอร์คิง หัวใจของกุศลของ โปรแกรมเป็นพื้นฐาน McLAMORE เบอร์เกอร์คิงMcLAMORE มูลนิธิเป็นมูลนิธิไม่ใช่สำหรับกำไร สาธารณกุศล พวกเขามีวัตถุประสงค์ เพื่อสนับสนุนความก้าวหน้าของการศึกษา และช่วยเหลือสมาชิกที่มีการขาดแคลนมูลนิธิ McLAMORE ร่วมมือกับองค์กรการกุศลทั่วโลกที่ร่วมภารกิจของเลื่อน McLAMORE มูลนิธิรับผิดชอบส่วนกลางของบริษัท and. ควบคุมโดยคณะกรรมการประกอบด้วยผู้บริหารและ franchisees ของพวกเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ประวัติ บริษัทเบอร์เกอร์คิงเดิมรู้เป็นกษัตริย์ Insta-เบอร์เกอร์ ได้ก่อตั้งขึ้นในฟลอริด้าในปี 1953 โดยคี ธ เครเมและแม็ตธิวเบิร์นส์ก่อนที่พวกเขามีปัญหาทางการเงินและการขายให้กับ บริษัท แฟรนไชส์ที่ใช้ไมอามี่, เจมส์ McLoamore และเดวิดเอ็ดเกอร์ตันในปี 1955 เจ้าของใหม่เปลี่ยนชื่อ บริษัท ที่จะเบอร์เกอร์คิง สิ่งที่ใหญ่โตแซนวิชเป็นครั้งแรกที่นำมาใช้ใน บริษัท 1957.The อีกครั้งถูกขายให้กับบุคคลอื่น ๆ Pillsbury Coporation ระหว่างการขยายตัวของพวกเขา 250 สถานที่ในประเทศสหรัฐอเมริกา. ในปี 1989 Pillsy คอร์ปอเรชั่นถูกขายให้กับแกรนด์ Merropolitan ซึ่งจะรวมกับกินเนสส์ในรูปแบบดิอาจิโอซึ่งเป็น บริษัท เครื่องดื่มแอลกอฮอล์อังกฤษ การจัดการของดิอาจิโอที่ถูกทอดทิ้งธุรกิจเบอร์เกอร์คิงที่นำไปสู่ผลการดำเนินงานที่ไม่ดี ธุรกิจได้รับความเสียหายไปยังจุดที่แฟรนไชส์ที่สำคัญออกไปจากธุรกิจและมูลค่ารวมของ บริษัท ลดลงผู้บริหารของดิอาจิโอตัดสินใจที่จะปลดโซ่เงินสูญเสียโดยการขายให้กับ บริษัท ทุนภาคเอกชนนำโดย TPG Capital ในปี 2002 บริษัท ฯ กลายเป็นพลังอีกครั้งโดยชุดของแคมเปญส่งเสริมการขายและ activties ที่สร้างขึ้นโดยกลุ่มการลงทุน ในเดือนพฤษภาคมปี 2006 กลุ่มที่ลงทุนเอาประชาชนเบอร์เกอร์คิงโดยการออกเสนอขายประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO). กลุ่มการลงทุน tinued นักโทษที่จะเป็นเจ้าของ 31% ของหุ้นสามัญที่โดดเด่น. ณ เดือนมิถุนายน 2010 บริษัท เป็นเจ้าของหรือแฟรนไชส์ ​​12,174 ร้านอาหารใน 76 ประเทศและดินแดนสหรัฐอเมริกาซึ่งได้รับ 1,387 บริษัท ที่เป็นเจ้าของแฟรนไชส์โดย จากทั้งหมดร้านอาหารเบอร์เกอร์คิง 60% ตั้งอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ร้านอาหารที่มีคุณลักษณะย่างแฮมเบอร์เกอร์ไก่และ sanwiches พิเศษอื่น ๆ , มันฝรั่งทอดน้ำอัดลมและราคาต่ำอื่น ๆ รายการอาหารที่ความรับผิดชอบขององค์กรพวกเขากำหนดความรับผิดต่อบริษัท และพิจารณาอย่างต่อเนื่อง krathu ผลกระทบสิ่งที่พวกเขาทำและปรับปรุงลักษณะวันที่ พวกเขาสร้างความเชื่อมั่นให้กับ บริษัท และลูกจ้าง สร้างค่าความนิยมและชุมชนที่แข็งแกร่งในการที่พวกเขาทำงาน พวกเขาเน้นความสำคัญของคนอาหาร, สภาพแวดล้อมและการกำกับดูแลกิจการ. ผูกพันกับอาหารร้านอาหารของพวกเขาได้รับการบริการที่มีคุณภาพสูงรสชาติที่ดีและอาหารราคาไม่แพงทั่วโลก พวกเขามีการพัฒนาความหลากหลายของอาหารให้เหมาะกับรสนิยมและไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคล เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า. ผูกพัน TO PEOPLE พวกเขาจะทุ่มเทให้กับการสนับสนุนและการลงทุนในคนของพวกเขา - พนักงานแฟรนไชส์และซัพพลายเออร์และผู้เข้าพักร้านอาหาร - เพราะพวกเขาเป็นสิ่งสำคัญของธุรกิจของพวกเขา พวกเขาสนับสนุนมูลนิธิ ชุมชนแฟรนไชส์และครอบครัวของพวกเขาเพราะพวกเขามีจำนวนมากของการลงทุนรอบ world.They ทำงานเป็นทีมและมีความมุ่งมั่นที่จะทำให้เบอร์เกอร์คิงมีอยู่ทั่วทุกมุมโลก. มุ่งมั่นที่จะสิ่งแวดล้อมพวกเขาคิดว่าผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมกับคนในชุมชนพวกเขาให้บริการ พวกเขามุ่งมั่นที่จะพัฒนาเปลี่ยนแปลงส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมโดยไม่ส่งผลกระทบต่อการทำงานมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ตัวอย่างเช่นพวกเขารู้ว่าการรีไซเคิลและการจัดการของเสียเป็นสองความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมที่ใหญ่ที่สุดของ พวกเขายังคงมุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับซัพพลายเออร์เพื่อหาวิธีการที่พวกเขาสามารถลดนำมาใช้ใหม่และรีไซเคิล. ภาระผูกพันในการกำกับดูแลกิจการที่พวกเขามุ่งมั่นกับวัฒนธรรมจริยธรรมโดยการส่งเสริมจริยธรรมเคารพ ค่าพนักงานทุกคนและบุคคล. พวกเขาสนับสนุนโปรดปฏิบัติตามกฎหมายและนโยบายของ บริษัท ที่จะกลายเป็นพลเมืองที่ดีของชุมชนและปรับปรุงชุมชนทั่วโลก. เบอร์เกอร์คิง McLamore มูลนิธิหัวใจของโปรแกรมการทำบุญของพวกเขาเป็นเบอร์เกอร์คิงMcLamore มูลนิธิ. McLamore มูลนิธิที่ไม่แสวงหาผลกำไรสำหรับมูลนิธิการกุศลสาธารณะ พวกเขามีความตั้งใจที่จะสนับสนุนความก้าวหน้าของการศึกษาและเพื่อช่วยให้สมาชิกที่มีปัญหาการขาดแคลนมูลนิธิ McLamore เป็นพันธมิตรกับองค์กรการกุศลทั่วโลกที่แสดงความก้าวหน้าการปฏิบัติภารกิจของมูลนิธิ McLamore รับผิดชอบขององค์กรและระดับโลก ควบคุมโดยคณะกรรมการซึ่งประกอบด้วยผู้บริหารและแฟรนไชส์ของพวกเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

พื้นหลังของ บริษัท เบอร์เกอร์ คิง แต่เดิม

รู้เป็น Insta เบอร์เกอร์ คิง ก่อตั้งขึ้นในฟลอริด้าในปี 1953 โดย คีธ และ แมทธิว เครเมอร์ เบิร์นก่อนที่พวกเขามีปัญหาทางการเงินและการขาย บริษัท ไมอามี่ของแฟรนไชส์ โดย เจมส์ mcloamore ดาวิด กเกอร์ตันใน 1955 . เจ้าของใหม่เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท เบอร์เกอร์ คิง แซนด์วิชที่ปกปักษ์แรกแนะนำในปี 1957 .บริษัทอีกครั้ง ถูกขายให้กับพรรคอื่น ๆ คอร์ปอเรชั่น พิลส์เบอรี่ระหว่างขยาย 250 แห่งในสหรัฐอเมริกา .

ใน 1989 pillsy บริษัทถูกขายให้กับ แกรนด์ merropolitan ซึ่งจะรวมเข้ากับกินเนสส์ในรูปแบบ DIAGEO , บริษัทอานอังกฤษ การจัดการ DIAGEO ทิ้งธุรกิจเบอร์เกอร์ คิง นำไปสู่การทำงานที่ไม่ดีธุรกิจที่เสียหายไปยังจุดที่แฟรนไชส์สาขาออกไปของธุรกิจและมูลค่ารวมของบริษัทลดลงการจัดการ DIAGEO ตัดสินใจปลดโซ่เงินที่สูญเสียโดยการขายให้บริษัทเอกชน นำโดยหุ้นบริษัททุน ซึ่งในปี 2002 บริษัทเริ่มอีกครั้ง energized โดยชุดของแคมเปญส่งเสริมการขาย และการปฏิบัติกิจกรรมที่สร้างขึ้นโดยกลุ่มการลงทุน ในเดือนพฤษภาคม 2549กลุ่มลงทุนเอาเบอร์เกอร์กษัตริย์ประชาชน โดยการออกเสนอขายประชาชนครั้งแรก ( IPO ) .
กลุ่มลงทุนคอน tinued เอง 31 % ของหุ้นสามัญที่โดดเด่น

เมื่อวันที่มิถุนายน 2010 , บริษัท ที่เป็นเจ้าของ หรือ 12174 แฟรนไชส์ร้านอาหารใน 76 ประเทศและสหรัฐอเมริกาดินแดน ซึ่งตอนนั้นเป็น บริษัท ที่เป็นเจ้าของโดยแฟรนไชส์ ของเบอร์เกอร์คิงร้านอาหารทั้งหมด60% อยู่ในสหรัฐอเมริกา ร้านอาหารแนะนําย่างแฮมเบอร์เกอร์ไก่และ sanwiches พิเศษอื่น ๆ มันฝรั่ง เครื่องดื่ม และอื่น ๆราคาถูกสินค้าอาหาร






















ความรับผิดชอบ
พวกเขากำหนดความรับผิดต่อ บริษัท และพิจารณาอย่างต่อเนื่อง krathu ผลสิ่งที่พวกเขาทำและปรับปรุงลักษณะที่ทันสมัยก็สร้างความมั่นใจให้กับ บริษัท และพนักงาน สร้างค่าความนิยมและชุมชนที่แข็งแกร่งที่พวกเขาทำงาน พวกเขาเน้นความสำคัญของคน อาหาร สิ่งแวดล้อมและบรรษัทภิบาล ต่อ


อาหารของร้านอาหารได้ให้บริการคุณภาพสูง รสชาติดี และราคาอาหารทั่วโลก