GlassGlass is a non-crystalline sol

Glass
Glass is a non-crystalline solid that is often transparent and has widespread practical, technological, and decorative usage in things like window panes, tableware, and optoelectronics. Scientifically, the term "glass" is often defined in a broader sense, encompassing every solid that possesses a non-crystalline (that is, amorphous) structure at the atomic scale and that exhibits a glass transition when heated towards the liquid state.
The most familiar, and historically the oldest, types of glass are based on the chemical compound silica (silicon dioxide), the primary constituent of sand. The term glass, in popular usage, is often used to refer only to this type of material, which is familiar from use as window glass and in glass bottles. Of the many silica-based glasses that exist, ordinary glazing and container glass is formed from a specific type called soda-lime glass, composed of approximately 75% silicon dioxide (SiO2), sodium oxide (Na2O) from sodium carbonate (Na2CO3), calcium oxide, also called lime (CaO), and several minor additives. A very clear and durablequartz glass can be made from pure silica which is very tough and resistant to thermal shock, being able to survive immersion in water while red hot. However, quartz must be heated to well over 3,000 °F (1,650 °C) (white hot) before it begins to melt, and it has a very narrow glass transition, making glassblowing and hot working difficult. In glasses like soda lime, the other compounds are used to lower the melting temperature and improve the temperature workability of the product at a cost in the toughness, thermal stability, and optical transmittance.
Many applications of silicate glasses derive from their optical transparency, which gives rise to one of silicate glasses' primary uses as window panes. Glass will transmit, reflect and refract light; these qualities can be enhanced by cutting and polishing to make optical lenses, prisms, fine glassware, and optical fibersfor high speed data transmission by light. Glass can be colored by adding metallic salts, and can also be painted. These qualities have led to the extensive use of glass in the manufacture of art objects and in particular, stained glass windows. Although brittle, silicate glass is extremely durable, and many examples of glass fragments exist from early glass-making cultures. Because glass can be formed or molded into any shape, and also because it is a sterile product, it has been traditionally used for vessels: bowls, vases, bottles, jars and drinking glasses. In its most solid forms it has also been used for paperweights, marbles, and beads. When extruded as glass fiber and matted as glass wool in a way to trap air, it becomes a thermal insulating material, and when these glass fibers are embedded into an organic polymer plastic, they are a key structural reinforcement part of the composite material fiberglass. Some objects are so commonly made of glass that they are simply called by the name of the material, such as drinking glasses and reading glasses.
In science, porcelains and many polymer thermoplastics familiar from everyday use are glasses too. These sorts of glasses can be made of quite different kinds of materials than silica: metallic alloys, ionic melts, aqueous solutions, molecular liquids, and polymers. For many applications, like glass bottles or eyewear, polymer glasses (acrylic glass, polycarbonate orpolyethylene terephthalate) are a lighter alternative than traditional glass.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แก้วแก้วเป็นของแข็งที่ไม่ใช่ผลึกที่มักจะโปร่งใส และมีใช้แพร่หลายในทางปฏิบัติ เทคโนโลยี และตกแต่งสิ่งต่าง ๆ เช่นบานหน้าต่าง จานชาม และออปโตอิเล็กทรอนิกส์ วิทยาศาสตร์ คำว่า "แก้ว" มักจะกำหนดไว้ในความรู้สึกกว้าง ครอบคลุมทุกของแข็งที่มีคุณสมบัติไม่ใช่ผลึก (นั่นคือ ไป) การจัดแสดงโครงสร้างในระดับอะตอมและเปลี่ยนกระจกเมื่อผ่านความร้อนต่อสถานะของเหลวคุ้นเคยมากที่สุด และอดีตเก่าแก่ที่สุด ชนิดของแก้วขึ้นอยู่กับการเคมีผสมซิลิก้า (ซิลิคอนไดออกไซด์), วิภาคหลักของทราย แก้วคำ การใช้งานยอดนิยม มักใช้อ้างถึงวัสดุ ซึ่งเป็นที่คุ้นเคยจากการใช้กระจก และ ในขวดแก้ว ชนิดนี้เท่านั้น ของหลายซิลิก้าที่ใช้แว่นตาที่มีอยู่ กระจกและขวดแก้วปกติจะเกิดขึ้นจากเรียกแก้วโซดาไลม์ ประกอบประมาณ 75% ซิลิกอนไดออกไซด์ (SiO2), โซเดียมออกไซด์ (Na2O) จากโซเดียมคาร์บอเนต (Na2CO3), แคลเซียมออกไซด์ เรียกว่า lime (CaO), และสารย่อยหลายชนิด ชัดเจนมาก และ durablequartz แก้วสามารถทำจากซิลิก้าบริสุทธิ์ซึ่งยากมาก และทนต่อความร้อนช็อค ความสามารถในการอยู่รอดแช่ในน้ำในขณะที่สีแดงร้อน อย่างไรก็ตาม ควอตซ์ต้องอุ่นจะดีกว่า 3000 ° F (1650 ° C) (สีขาวร้อน) ก่อนเริ่มหลอม และมีเปลี่ยนกระจกแคบมาก ทำให้ glassblowing และพร้อมทำงานที่ยาก ในแก้วเช่นโซดามะนาว สารอื่นที่ใช้ การลดอุณหภูมิละลายเทอุณหภูมิของผลิตภัณฑ์ต้นทุนการปรับปรุงในนึ่ง เสถียรภาพความร้อน และแสง transmittanceMany applications of silicate glasses derive from their optical transparency, which gives rise to one of silicate glasses' primary uses as window panes. Glass will transmit, reflect and refract light; these qualities can be enhanced by cutting and polishing to make optical lenses, prisms, fine glassware, and optical fibersfor high speed data transmission by light. Glass can be colored by adding metallic salts, and can also be painted. These qualities have led to the extensive use of glass in the manufacture of art objects and in particular, stained glass windows. Although brittle, silicate glass is extremely durable, and many examples of glass fragments exist from early glass-making cultures. Because glass can be formed or molded into any shape, and also because it is a sterile product, it has been traditionally used for vessels: bowls, vases, bottles, jars and drinking glasses. In its most solid forms it has also been used for paperweights, marbles, and beads. When extruded as glass fiber and matted as glass wool in a way to trap air, it becomes a thermal insulating material, and when these glass fibers are embedded into an organic polymer plastic, they are a key structural reinforcement part of the composite material fiberglass. Some objects are so commonly made of glass that they are simply called by the name of the material, such as drinking glasses and reading glasses.In science, porcelains and many polymer thermoplastics familiar from everyday use are glasses too. These sorts of glasses can be made of quite different kinds of materials than silica: metallic alloys, ionic melts, aqueous solutions, molecular liquids, and polymers. For many applications, like glass bottles or eyewear, polymer glasses (acrylic glass, polycarbonate orpolyethylene terephthalate) are a lighter alternative than traditional glass.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แก้วแก้วเป็นไม่เป็นผลึกของแข็งที่มักจะมีความโปร่งใสและมีการแพร่หลายในทางปฏิบัติเทคโนโลยีและการใช้งานการตกแต่งในสิ่งที่ต้องการหน้าต่างบานหน้าต่างบนโต๊ะอาหารและใยแก้วนำแสง วิทยาศาสตร์คำว่า "แก้ว" หมายมักจะอยู่ในความหมายกว้างครอบคลุมทุกของแข็งที่มีคุณสมบัติไม่เป็นผลึก (นั่นคือสัณฐาน) โครงสร้างในระดับอะตอมและที่แสดงการเปลี่ยนแปลงแก้วเมื่อถูกความร้อนที่มีต่อสถานะของเหลว.
มากที่สุด ที่คุ้นเคยและประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุดชนิดของกระจกจะขึ้นอยู่กับซิลิกาสารประกอบทางเคมี (ซิลิคอนไดออกไซด์) ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของทราย แก้วยาวในการใช้งานที่เป็นที่นิยมมักจะใช้เพื่อกล่าวถึงเฉพาะชนิดของวัสดุนี้ซึ่งเป็นที่คุ้นเคยจากการใช้กระจกหน้าต่างและในขวดแก้ว ของแก้วซิลิกาที่ใช้จำนวนมากที่มีอยู่กระจกธรรมดาและกระจกภาชนะที่จะเกิดขึ้นจากประเภทเฉพาะที่เรียกว่าแก้วโซดาไลม์ประกอบด้วยประมาณ 75% ซิลิคอนไดออกไซด์ (SiO2) โซเดียมออกไซด์ (Na2O) จากโซเดียมคาร์บอเนต (Na2CO3) แคลเซียมออกไซด์ที่เรียกว่ามะนาว (CaO) และสารเติมแต่งหลายผู้เยาว์ แก้วที่ชัดเจนและ durablequartz สามารถทำจากซิลิกาบริสุทธิ์ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากมากและทนต่อการช็อกความร้อน, ความสามารถในการอยู่รอดการแช่ในน้ำในขณะที่สีแดงร้อน อย่างไรก็ตามควอทซ์จะต้องอุ่นไปดีกว่า 3,000 ° F (1,650 ° C) (สีขาวร้อน) ก่อนที่จะเริ่มละลายและจะมีการเปลี่ยนแปลงแก้วแคบมากทำให้ glassblowing และร้อนในการทำงานที่ยากลำบาก ในแก้วเช่นมะนาวโซดาสารประกอบอื่น ๆ ที่ใช้ในการลดอุณหภูมิหลอมละลายและปรับปรุงความสามารถทำงานได้ที่อุณหภูมิของผลิตภัณฑ์ที่ค่าใช้จ่ายในความเหนียวที่เสถียรภาพทางความร้อนและการส่งผ่านแสง.
หลายโปรแกรมของแก้วซิลิเกตเป็นผลมาจากความโปร่งใสแสงของพวกเขาซึ่ง ก่อให้เกิดเป็นหนึ่งในแก้วซิลิเกต 'ใช้หลักเป็นหน้าต่างบานหน้าต่าง แก้วจะส่งสะท้อนและหักเหแสง คุณสมบัติเหล่านี้สามารถเพิ่มโดยการตัดและการขัดเพื่อให้เลนส์สายตาปริซึมแก้วดีและแสง fibersfor การส่งข้อมูลความเร็วสูงด้วยแสง แก้วจะมีสีโดยการเพิ่มเกลือโลหะและยังสามารถวาด คุณสมบัติเหล่านี้ได้นำไปสู่การใช้งานที่กว้างขวางของแก้วในการผลิตของศิลปะวัตถุและโดยเฉพาะอย่างยิ่งหน้าต่างกระจกสี แม้ว่าเปราะแก้วซิลิเกตมีความทนทานมากและหลายตัวอย่างของเศษแก้วอยู่จากวัฒนธรรมการทำแก้วในช่วงต้น เพราะกระจกสามารถเกิดขึ้นหรือขึ้นรูปเป็นรูปร่างใด ๆ และยังเพราะมันเป็นผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อจะได้รับการประเพณีที่ใช้สำหรับเรือ: ชามแจกันขวดขวดและแก้วน้ำ ในรูปแบบที่แข็งที่สุดของมันยังได้รับการใช้สำหรับการทับกระดาษ, หินอ่อน, และลูกปัด เมื่ออัดใยแก้วและสังกะตังเป็นใยแก้วในทางที่จะดักอากาศมันจะกลายเป็นวัสดุฉนวนความร้อนและเมื่อเหล่าใยแก้วจะถูกฝังลงในพลาสติกโพลีเมออินทรีย์พวกเขาจะเป็นส่วนหนึ่งที่เสริมโครงสร้างที่สำคัญของวัสดุผสมไฟเบอร์กลาส วัตถุบางอย่างจึงมักทำจากแก้วว่าพวกเขาจะเรียกว่าเพียงแค่ตามชื่อของวัสดุเช่นแก้วน้ำและแว่นอ่านหนังสือ.
ในวิทยาศาสตร์และเทอร์โม porcelains ลิเมอร์หลายคนคุ้นเคยในชีวิตประจำวันจากการใช้แว่นตาเกินไป ประเภทนี้ของแก้วสามารถทำชนิดที่แตกต่างกันของวัสดุกว่าซิลิกา: โลหะผสมโลหะละลายอิออนสารละลายของเหลวโมเลกุลและโพลีเมอ สำหรับการใช้งานมากเช่นขวดแก้วหรือแว่นตา, แว่นตาลิเมอร์ (แก้วคริลิคโพลีคาร์บอเนต orpolyethylene terephthalate) เป็นทางเลือกที่เบากว่ากระจกแบบดั้งเดิม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แก้วผลึกของแข็ง
เป็นไม่ที่มักจะโปร่งใสและได้แพร่หลายในทางปฏิบัติ , เทคโนโลยี , และการตกแต่งใช้ในสิ่งที่ชอบบาน หน้าต่าง บนโต๊ะอาหารและออปโตอิเล็กทรอนิกส์ . เป็นคำว่า " แก้ว " มักจะถูกกำหนดในความรู้สึกที่กว้างขึ้นครอบคลุมทุกของแข็งมีคุณสมบัติที่ไม่ใช่ผลึก ( นั่นคือสัณฐาน ) โครงสร้างในระดับอะตอมและที่จัดแสดงแก้วอุ่น เมื่อเปลี่ยนไปสู่สถานะของเหลว
คุ้นเคยมากที่สุด และในประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุด , ชนิดของกระจกจะขึ้นอยู่กับสารประกอบซิลิกา ( ซิลิคอนไดออกไซด์ ) องค์ประกอบหลักของทราย แก้วระยะยาวในการใช้งานที่นิยม คือ มักจะใช้ในการอ้างถึงเฉพาะของวัสดุชนิดนี้ที่คุ้นเคยจากใช้เป็นหน้าต่างกระจกและขวดแก้ว ของซิลิกาจากที่มีอยู่หลายแก้ว , กระจกธรรมดาและรูปแบบจากภาชนะแก้วเฉพาะชนิดที่เรียกว่าโซดามะนาวแก้ว , ประกอบด้วยประมาณ 75% ซิลิคอนไดออกไซด์ ( SiO2 ) , โซเดียมออกไซด์ ( na2o ) จากโซเดียมคาร์บอเนต , แคลเซียมออกไซด์ , ยังเรียกว่าปูน ) และหลายรายย่อย เจือปนใสและ durablequartz แก้วสามารถทำจากซิลิกาบริสุทธิ์ซึ่งจะเหนียวมากและทนต่อการช็อกความร้อน สามารถอยู่รอดได้แช่ในน้ำในขณะที่สีแดงร้อน อย่างไรก็ตาม , ควอทซ์ต้องอุ่นได้ดีกว่า 3 , 000 ° F ( 1650 ° C ) สีขาว ( ร้อน ) ก่อนที่มันจะเริ่มละลาย และมีการเปลี่ยนแปลงของแก้วที่แคบมาก ทำให้ glassblowing และร้อนทำงานยาก ใส่แว่นเหมือนโซดามะนาวสารประกอบอื่น ๆ ที่ใช้เพื่อลดอุณหภูมิและอุณหภูมิหลอมปรับปรุงความสามารถของผลิตภัณฑ์ที่ต้นทุนในความเหนียว , เสถียรภาพทางความร้อน และการส่งผ่านแสง
การใช้งานหลายแก้วซิลิเกตที่สืบทอดมาจากความโปร่งใส ซึ่งจะช่วยให้สูงขึ้นไปหนึ่งแก้วซิลิเกตหลักใช้เป็นบานหน้าต่าง แก้วจะถ่ายทอด สะท้อนและหักเหแสงคุณสมบัติเหล่านี้สามารถเพิ่มโดยการตัดและขัดเพื่อให้เลนส์แสงปริซึม ดีแก้ว และข้อมูลความเร็วสูง fibersfor ส่งแสงโดยแสง แก้วสามารถสี โดยการเพิ่มเกลือของโลหะ และยังสามารถทาสี คุณสมบัติเหล่านี้ทำให้การใช้ที่กว้างขวางของกระจกในการผลิตวัตถุศิลปะและโดยเฉพาะอย่างยิ่ง หน้าต่างกระจกสี แม้ว่า เปราะซิลิเกตกลาสมีความทนทานมากและหลายตัวอย่างของเศษกระจกที่แตกอยู่ จากแก้วก่อนทำวัฒนธรรม เพราะแก้วสามารถปั้นหรือขึ้นรูปเป็นรูปร่างใด ๆและยังเพราะมันเป็นผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อ มันได้รับการใช้แบบดั้งเดิมสำหรับเรือ : ชาม , แจกัน , ขวด , ขวดและแก้วน้ำ ในรูปมันเป็นของแข็งที่สุดยังถูกใช้สำหรับ paperweights , หินอ่อน , และลูกปัดเมื่ออัดเป็นใยแก้วและสังกะตังเป็นใยแก้วในวิธีดักอากาศ มันกลายเป็นความร้อน insulating วัสดุ และเมื่อเส้นใยเหล่านี้จะฝังตัวลงในแก้วพลาสติกพอลิเมอร์อินทรีย์ พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของใยแก้วเสริมแรงโครงสร้างวัสดุคอมโพสิต วัตถุบางอย่างจึงมักทำจากแก้วที่พวกเขาเป็นเพียงการเรียกตามชื่อของวัสดุเช่น ดื่มแว่นตาและแว่นตาอ่าน
วิทยาศาสตร์ , porcelains และหลายพอลิเมอร์พลาสติกที่คุ้นเคยจากใช้ทุกวันมีแว่นตาด้วย เหล่านี้ประเภทของแว่นตาสามารถทำจากประเภทแตกต่างกันมากของวัสดุ : อัลลอย โลหะไอออนมีค่ามากกว่าซิลิกาละลาย สารละลายของเหลว โมเลกุลและพอลิเมอร์ สำหรับการใช้งานมาก เช่น ขวดแก้ว หรือ แว่นตา แว่นตา โพลิเมอร์ ( คริลิคกระจก