Irving Langmuir first introduced th

Irving Langmuir first introduced the term plasma in 1929 [6] to describe the behavior of ionized gases in high current vacuum tubes. Plasma is often referred to as the "Fourth State of Matter", the other three being solid, liquid and gas. Plasma is a distinct state of matter containing a significant number of electrically charged particles, a number sufficient to affect its electrical properties and behavior. In an ordinary gas each atom contains an equal number of positive and
negative charges where the positive charges in the nucleus are surrounded by the of negatively charged electrons, so that each atom is electrically "neutral". A gas becomes plasma when the addition of heat or other energy causes a significant number of atoms to release some of their electrons. The remaining parts of those atoms are left with a positive charge, and the detached negative electrons are free to move about. When enough atoms are ionized to significantly affect the electrical characteristics of the gas, it is a plasma. The transformation between gas and plasma is depending on the material and gas pressure, but a typical characteristic of a plasma is the ability to screen out an internal electric field. Commonly used examples of well-known plasmas are the aurora borealis (or the northern light), neon signs, fluorescing lights and the solar corona. Plasma science underlies numerous important technological applications and devices as well as

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Langmuir เออร์วิงแนะนำพลาสมาระยะแรกในปีพ.ศ. 2472 [6] เพื่ออธิบายพฤติกรรมของ ionized ก๊าซในหลอดสูญญากาปัจจุบันสูง พลาสม่ามักเรียกว่า "สี่รัฐของเรื่อง" สามอื่น ๆ ที่เป็นของแข็ง ของเหลวและแก๊ส พลาสมาเป็นสถานะแตกต่างกันของเรื่องที่ประกอบด้วยสำคัญ electrically charged อนุภาค จำนวนที่เพียงพอมีผลกับคุณสมบัติทางไฟฟ้าและลักษณะการทำงานของ ในก๊าซธรรมดาเป็น อะตอมแต่ละตัวของบวก และลบค่าที่ค่าบวกในนิวเคลียสถูกล้อมรอบด้วยที่ของอิเล็กตรอน การคิดค่าบริการส่งเพื่อให้แต่ละอะตอมไฟฟ้า "เป็นกลาง" ก๊าซกลายเป็น พลาสม่าเมื่อเพิ่มความร้อนหรือพลังงานอื่นทำให้จำนวนอะตอมจะปล่อยอิเล็กตรอนของบางอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนที่เหลือของอะตอมเหล่านั้นจะเหลือไว้กับค่าบวก และลบอิเล็กตรอนเดี่ยวมีอิสระในการเคลื่อน เมื่ออะตอมพอถูก ionized มากมีผลต่อลักษณะไฟฟ้าของก๊าซ จะเป็นพลาสม่า การแปลงระหว่างก๊าซและพลาสมาจะขึ้นอยู่กับวัสดุและก๊าซความดัน แต่ลักษณะทั่วไปของพลาสมามีความสามารถในการคัดเลือกสนามไฟฟ้าภายใน ใช้โดยทั่วไปของ plasmas รู้จักอย่างแสงเหนือ (หรือแสงเหนือ) , ป้ายนีออน ไฟ fluorescing และโคโรนาพลังงานแสงอาทิตย์ วิทยาศาสตร์พลา underlies โปรแกรมประยุกต์เทคโนโลยีที่สำคัญจำนวนมากและอุปกรณ์ตลอดจน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Langmuir เออร์วิงแรกที่แนะนำพลาสม่าระยะในปี 1929 [6] เพื่ออธิบายพฤติกรรมของก๊าซแตกตัวเป็นไอออนในหลอดสูญญากาศสูงในปัจจุบัน พลาสม่ามักจะเรียกกันว่า "สี่รัฐเรื่อง" อีกสามเป็นของแข็งของเหลวและก๊าซ พลาสม่าเป็นรัฐที่มีความโดดเด่นในเรื่องที่มีความสำคัญของอนุภาคประจุไฟฟ้าจำนวนเพียงพอที่จะส่งผลกระทบต่อคุณสมบัติทางไฟฟ้าและพฤติกรรม ในก๊าซสามัญแต่ละอะตอมมีจำนวนเท่ากันบวกและ
ประจุลบที่ประจุบวกในนิวเคลียสถูกล้อมรอบด้วยของอิเล็กตรอนประจุลบเพื่อให้แต่ละอะตอมเป็นไฟฟ้า "เป็นกลาง" ก๊าซจะกลายเป็นพลาสม่าเมื่อนอกเหนือจากความร้อนหรือพลังงานอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดจำนวนมากของอะตอมที่จะปล่อยบางส่วนของอิเล็กตรอน ชิ้นส่วนที่เหลือของอะตอมเหล่านั้นจะถูกทิ้งให้อยู่กับประจุบวกและเชิงลบอิเล็กตรอนเดี่ยวมีอิสระที่จะย้ายเกี่ยวกับ เมื่ออะตอมพอที่จะแตกตัวเป็นไอออนที่จะส่งผลกระทบต่อคุณสมบัติทางไฟฟ้าของก๊าซมันเป็นพลาสม่า การเปลี่ยนแปลงระหว่างก๊าซและพลาสม่าขึ้นอยู่กับวัสดุและความดันก๊าซ แต่ลักษณะโดยทั่วไปของพลาสม่าคือความสามารถในหน้าจอออกสนามไฟฟ้าภายใน ตัวอย่างที่ใช้ทั่วไปของพลาสมาที่รู้จักกันดีมีแสงเงินแสงทองเหนือ (ภาคเหนือหรือแสง), ป้ายนีออน, ไฟเรืองแสงและโคโรนาแสงอาทิตย์ พลาสม่าวิทยาศาสตร์รองรับการใช้งานเทคโนโลยีต่าง ๆ นานาที่สำคัญและอุปกรณ์เช่นเดียวกับ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เออร์วิง Langmuir ครั้งแรกในระยะพลาสมาใน 1929 [ 6 ] เพื่ออธิบายพฤติกรรมของก๊าซบริสุทธิ์สูงในปัจจุบันหลอดสูญญากาศ . พลาสม่ามักจะเรียกว่าเป็น " สี่รัฐของเรื่อง " อีกสามถูกของแข็ง ของเหลว และก๊าซ พลาสมาเป็นที่แตกต่างกันสถานะของสสารที่มีจํานวนของประจุไฟฟ้าอนุภาคจำนวนเพียงพอที่จะส่งผลกระทบต่อคุณสมบัติทางไฟฟ้าและพฤติกรรม ในก๊าซธรรมดาแต่ละอะตอมมีจำนวนเท่ากับค่าใช้จ่ายบวกลบและ
ที่ค่าใช้จ่ายในเชิงบวกในนิวเคลียสซึ่งมีประจุลบที่ถูกล้อมรอบด้วยของอิเล็กตรอน ดังนั้นแต่ละอะตอมด้วยระบบไฟฟ้า " เป็นกลาง "ก๊าซกลายเป็นพลาสมาเมื่อนอกเหนือจากความร้อนหรือพลังงานอื่น ๆทำให้จำนวนของอะตอมที่จะปล่อยบางส่วนของอิเล็กตรอนของ ส่วนที่เหลือของอะตอมนั้นจะเหลือประจุบวกและลบ อิเล็กตรอนเดี่ยวมีอิสระที่จะย้ายเกี่ยวกับ เมื่ออะตอมพอประจุจะมีผลต่อคุณลักษณะทางไฟฟ้าของก๊าซเป็นพลาสมาการแปลงระหว่างก๊าซและพลาสมา ขึ้นอยู่กับวัสดุและความดันก๊าซ แต่ลักษณะโดยทั่วไปของพลาสมาคือความสามารถในการคัดกรองหาสนามไฟฟ้าภายใน ที่ใช้กันทั่วไปตัวอย่างพลาสมาที่รู้จักกันดี ออโรร่า borealis ( หรือแสงเหนือ ) , ป้ายนีออน , fluorescing ไฟและโคโรนาแสงอาทิตย์พลาสมาวิทยาศาสตร์แผ่นอยู่มากมายที่สำคัญเทคโนโลยีการใช้งานและอุปกรณ์รวมทั้ง