These results show that retail chic

These results show that retail chicken can be contaminated by E. albertii. The inability to isolate E. albertii from 1 of the 3 PCR-positive samples might be caused by a low density of the bacterium in the sample and/or non-specific annealing of the primer pair lysP107F/lysP358R, as described previously [7]. The virulence-related gene patterns of the 2 strains, showing positive for eae and cdt, and negative for stx2f, were similar to those of previous reports that showed that most reported E. albertii strains carry eae (114/132) [4, 8, 9, 11,12,13,14] and cdt (121/132) [4, 8, 9, 11,12,13,14], and several contain stx2f (5/93) [8, 9, 11, 14], including bird isolates (Table 1). Interestingly, both E. albertii strains from the current study were susceptible to tetracycline, although only one of the 2 strains was resistant to streptomycin and sulfisoxazole. This is in contrast to 3 previous studies [5, 17, 19], which reported that E. albertii was resistant to tetracycline (Table 1). The results of the current study show that E. albertii contamination of chicken giblets might pose a potential health risk to humans because of the presence of virulence-related and antimicrobial resistance factors.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผลเหล่านี้แสดงว่า ไก่ขายปลีกสามารถปนเปื้อน โดย E. albertii ไม่สามารถแยก albertii E. 1 อย่าง PCR เป็นบวก 3 อาจเกิดจากความหนาแน่นต่ำของแบคทีเรียในตัวอย่างหรือการอบเหนียวไม่ใช่เฉพาะของรองพื้นคู่ lysP107F/lysP358R อธิบายไว้ก่อนหน้านี้ [7] รูปแบบของยีนที่เกี่ยวข้องกับ virulence ของสายพันธุ์ 2 แสดงค่าบวกสำหรับ eae และ cdt และค่าลบสำหรับ stx2f ได้ใกล้เคียงกับรายงานก่อนหน้านี้ว่า พบว่า ส่วนใหญ่รายงาน E. albertii สายพันธุ์ปฏิบัติ eae (114/132) [4, 8, 9, 11,12,13,14] และ cdt (121/132) [4, 8, 9, 11,12,13,14], และหลายประกอบด้วย stx2f (5/93) [8, 9, 11, 14], รวมถึงนกแยก (ตารางที่ 1) เป็นเรื่องน่าสนใจ สายพันธุ์ albertii ตะวันออกทั้งจากการศึกษาปัจจุบันได้ไวต่อการเตตราไซคลีน แม้เพียงหนึ่งสายพันธุ์ที่ 2 คือทนต่อ streptomycin และ sulfisoxazole อยู่ตรงข้าม 3 ก่อนหน้านี้ศึกษา [5, 17, 19], ซึ่งรายงานว่า albertii E. ไม่ทนต่อเตตราไซคลีน (ตาราง 1) ผลของการศึกษาปัจจุบันแสดงว่า ปน albertii ตะวันออกของ giblets ไก่อาจมีความเสี่ยงเกิดสุขภาพกับมนุษย์เนื่องจากสถานะของปัจจัยที่เกี่ยวข้อง กับ virulence และจุลินทรีย์ต้านทาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผลการศึกษานี้แสดงให้เห็นว่าไก่ค้าปลีกสามารถปนเปื้อนอี albertii ไม่สามารถที่จะแยกอี albertii จาก 1 ใน 3 ตัวอย่าง PCR-บวกอาจเกิดจากความหนาแน่นต่ำของแบคทีเรียในตัวอย่างและ / หรือการหลอมไม่ใช่เฉพาะคู่ไพรเมอร์ lysP107F / lysP358R ตามที่อธิบายไว้ก่อนหน้านี้ [7] . ความรุนแรงที่เกี่ยวข้องกับรูปแบบของยีนของ 2 สายพันธุ์ที่แสดงให้เห็นในเชิงบวกสำหรับ EAE และ CDT และเชิงลบสำหรับ stx2f มีความคล้ายคลึงกับรายงานก่อนหน้านี้ที่แสดงให้เห็นว่าส่วนใหญ่รายงานอีสายพันธุ์ albertii ดำเนิน EAE (114/132) [4, 8 , 9, 11,12,13,14] และ CDT (121/132) [4, 8, 9, 11,12,13,14] และอีกหลายมี stx2f (5/93) [8, 9, 11, 14] รวมทั้งสายพันธุ์นก (ตารางที่ 1) ที่น่าสนใจทั้งสองสายพันธุ์อี albertii จากการศึกษาในปัจจุบันมีความไวต่อยาแม้เพียงหนึ่งใน 2 สายพันธุ์ที่ทนต่อการเป็น streptomycin และซัลฟาฟูราโซล นี้เป็นในทางตรงกันข้ามกับการศึกษาก่อนหน้า 3 [5, 17, 19] ซึ่งมีรายงานว่าอี albertii เป็นทนต่อยา (ตารางที่ 1) ผลการศึกษาพบว่าในปัจจุบันการปนเปื้อนอี albertii ของเครื่องในห่านและนกไก่อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นกับมนุษย์เพราะการปรากฏตัวของความรุนแรงที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยและความต้านทานต่อยาต้านจุลชีพ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผลลัพธ์เหล่านี้แสดงให้เห็นว่าไก่ค้าปลีกสามารถปนเปื้อนโดย albertii . ไม่สามารถที่จะแยกเช่น albertii จาก 1 ใน 3 สามารถบวกตัวอย่างอาจจะทำให้เกิดความหนาแน่นต่ำของเชื้อในตัวอย่างและ / หรือเฉพาะการหลอมของไพรเมอร์คู่ lysp107f / lysp358r โดยตามที่อธิบายไว้ก่อนหน้านี้ [ 7 ] ความรุนแรงที่เกี่ยวข้องกับยีนรูปแบบของ 2 สายพันธุ์แสดงบวก ) และยัง ,และเชิงลบสำหรับ stx2f เป็นคล้ายกับบรรดาของรายงานก่อนหน้านี้ที่พบว่า ส่วนใหญ่รายงานเช่น albertii สายพันธุ์ขนยัง ( 114 / 132 ) [ 4 , 8 , 9 , 11,12,13,14 ] ) ( 121 / 132 ) [ 4 , 8 , 9 , 11,12,13,14 ] , และหลาย ประกอบด้วย stx2f ( 5 / 9 ) [ 8 9 , 11 , 14 ] รวมทั้งนกสายพันธุ์ ( ตารางที่ 1 ) น่าสนใจ ทั้ง อี albertii สายพันธุ์จากการศึกษาในปัจจุบันมีความไวต่อเตตราไซคลีนแม้ว่าจะมีเพียง 1 ใน 2 สายพันธุ์ คือ ทนต่อยารักษา และซัลฟิซ ซาโซล . นี้เป็นในทางตรงกันข้ามกับ 3 การศึกษาก่อนหน้านี้ [ 5 , 17 , 19 ) ซึ่งรายงานว่า E . albertii คือทนต่อเตตราไซคลีน ( ตารางที่ 1 ) ผลของการแสดงการศึกษาในปัจจุบันที่ Eการปนเปื้อนของ albertii เครื่องในไก่ อาจจะก่อให้เกิดความเสี่ยงสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นกับมนุษย์ เพราะการปรากฏตัวของโรคและปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการต่อต้าน