พลังงานรังสีเอกซ์ด้วย (พ.ร.บ. พลังง

พลังงานรังสีเอกซ์ด้วย (พ.ร.บ. พลังงานเพื่อสั
1. พลังงานนิวเคลียร์แบบฟิซชั่น (Fission) ซึ่งเกิดจากการแตกตัวของนิวเคลียสธาตุหนัก เช่น ยูเรเนียม พลูโทเนียม เมื่อถูกชนด้วยนิวตรอนหรือโฟตอน
2. พลังงานนิวเคลียร์แบบฟิวชั่น (Fusion) เกิดจากการรวมตัวของนิวเคลียสธาตุเบา เช่น ไฮโดรเจน
3. พลังงานนิวเคลียร์ที่เกิดจากการสลายตัวของสารกัมมันตรังสี (Radioactivity) ซึ่งให้รังสีต่างๆ ออกมา เช่น อัลฟา เบตา แกมมา และนิวตรอน เป็นต้น
4. พลังงานนิวเคลียร์ที่เกิดจากการเร่งอนุภาคที่มีประจุ (Particle Accelerator) เช่น อิเล็กตรอน โปรตอน ดิวทีรอน และอัลฟา เป็นต้น
พลังงานนิวเคลียร์ บางครั้งใช้แทนกันกับคำว่า พลังงานปรมาณู นอกจากนี้พลังงานนิวเคลียร์ยังครอบคลุมไปถึงนติ ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2508) พลังงานนิวเคลียร์ สามารถปลดปล่อยออกมาเป็นพลังงานหลายรูปแบบ เช่น พลังงานความร้อน รังสีแกมมา อนุภาคเบต้า อนุภาคอัลฟา อนุภาคนิวตรอน เป็นต้น
X-ray energy with the Energy Act (to deliver t
1. Nuclear power-the fischan (Fission), which is caused by the rupture of heavy elements such as plutonium uranium nucleus when it was struck by a neutron or photon
2. Nuclear fusion energy (Fusion) is caused by light elements such as hydrogen nucleus of
3. Nuclear energy caused by the radioactive decay of the substance (Radioactivity), which provides various radiation such as gamma and alpha beta released neutron etc.
4. Nuclear energy caused by rengonuphak with battery (Particle Accelerator), such as electrons and protons, Alpha by a dio Byron
.Nuclear energy is sometimes used instead of Atomic Energy "with words. In addition, nuclear energy also covers the issue of nati 2. Nuclear energy can liberate 2508 (1965)) into multiple formats such as energy, heat energy, gamma rays, alpha particles, beta, neutron particles sector commander, etc.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

พลังงานรังสีเอกซ์ด้วย (พ.ร.บพลังงานเพื่อสั
1. พลังงานนิวเคลียร์แบบฟิซชั่น (ฟิชชัน) ซึ่งเกิดจากการแตกตัวของนิวเคลียสธาตุหนักเช่นยูเรเนียมพลูโทเนียมเมื่อถูกชนด้วยนิวตรอนหรือโฟตอน
2 ไฮโดรเจนเช่นเกิดจากการรวมตัวของนิวเคลียสธาตุเบาพลังงานนิวเคลียร์แบบฟิวชั่น (ฟิวชั่น)
3 (Radioactivity) พลังงานนิวเคลียร์ที่เกิดจากการสลายตัวของสารกัมมันตรังสีซึ่งให้รังสีต่าง ๆ ออกมาเช่นอัลฟาเบตาแกมมาและนิวตรอนเป็นต้น
4 พลังงานนิวเคลียร์ที่เกิดจากการเร่งอนุภาคที่มีประจุ (เครื่องเร่งอนุภาค) เช่นอิเล็กตรอนโปรตอนดิวทีรอนและอัลฟาเป็นต้น
พลังงานนิวเคลียร์บางครั้งใช้แทนกันกับคำว่าพลังงานปรมาณูนอกจากนี้พลังงานนิวเคลียร์ยังครอบคลุมไปถึงนติฉบับที่ 2 พ.ศ 2508) พลังงานนิวเคลียร์สามารถปลดปล่อยออกมาเป็นพลังงานหลายรูปแบบเช่นพลังงานความร้อนรังสีแกมมาอนุภาคเบต้าอนุภาคอัลฟาอนุภาคนิวตรอนเป็นต้น
พลังงานรังสี X กับพระราชบัญญัติพลังงาน (ส่ง t
1 โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ fischan (ฟิชชัน), ซึ่งเกิดจากการแตกขององค์ประกอบที่หนักเช่นนิวเคลียสยูเรเนียมพลูโทเนียมเมื่อถูกชน ด้วยนิวตรอนหรือโฟตอน
2 เกิดจากองค์ประกอบแสงเช่นนิวเคลียสของไฮโดรเจนของพลังงานนิวเคลียร์ฟิวชัน (ฟิวชั่น)
3 พลังงานนิวเคลียร์ที่เกิดจากการตัวของสารกัมมันตรังสีการสลายให้อนุภาคของสาร (Radioactivity), ซึ่งให้รังสีต่าง ๆ เช่นแกมมาและอัลฟาเบต้า ออกนิวตรอนฯลฯ
4 พลังงานนิวเคลียร์เกิดจาก rengonuphak กับแบตเตอรี่ (เครื่องเร่งอนุภาค), เช่นอิเล็กตรอนและโปรตอน อัลฟา โดย dio ไบรอน
พลังงานนิวเคลียร์บางครั้งใช้แทนพลังงานปรมาณู "กับคำนั้น นอกจากนี้ พลังงานนิวเคลียร์ยังครอบคลุมปัญหาของเมืองก่อตั้ง 2 Nuclear energy สามารถปลดปล่อย 2508 (1965)) ในหลายรูปแบบเช่นพลังงาน พลังงานความร้อน รังสีแกมมา อนุภาคแอลฟา เบต้า อนุภาคนิวตรอนภาคผู้บัญชาการ ฯลฯ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

พลังงานรังสีเอกซ์ด้วย (พ.ร.บ. พลังงานเพื่อสั
1 พลังงานนิวเคลียร์แบบฟิซชั่น (Fission) เช่นยูเรเนียมพลูโทเนียมเมื่อถูกชนด้วยนิวตรอนหรือโฟตอน
ที่ 2 พลังงานนิวเคลียร์แบบฟิวชั่น (Fusion) เช่นไฮโดรเจน
3 (กัมมันตภาพรังสี) ซึ่งให้รังสีต่างๆออกมาเช่นอัลฟาเบตาแกมมาและนิวตรอนเป็นต้น
4 (อนุภาค Accelerator) เช่นอิเล็กตรอนโปรตอนดิวทีรอนและอัลฟาเป็นต้น
พลังงานนิวเคลียร์บางครั้งใช้แทนกันกับคำว่าพลังงานปรมาณู ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2508) พลังงานนิวเคลียร์ เช่นพลังงานความร้อนรังสีแกมมาอนุภาคเบต้าอนุภาคอัลฟาอนุภาคนิวตรอนเป็นต้น
พลังงาน X-ray กับพระราชบัญญัติการพลังงาน (ที่จะส่งมอบเสื้อ
1 พลังงานนิวเคลียร์ fischan (Fission) ซึ่งเกิดจากการแตกของธาตุหนักเช่นพลูโตเนียม นิวเคลียสยูเรเนียมเมื่อมันถูกตีด้วยนิวตรอนหรือโฟตอน
ที่ 2 พลังงานนิวเคลียร์ฟิวชั่น (Fusion) เกิดจากองค์ประกอบแสงเช่นนิวเคลียสไฮโดรเจน
พลังงานนิวเคลียร์ที่ 3 ที่เกิดจากการสลายกัมมันตรังสีของสาร (กัมมันตภาพรังสี) ซึ่งให้รังสีต่างๆเช่น เป็นอัลฟาแกมมาและเบต้าปล่อยนิวตรอน ฯลฯ
4 พลังงานนิวเคลียร์ที่เกิดจากการ rengonuphak แบตเตอรี่ (อนุภาค Accelerator) เช่นอิเล็กตรอนและโปรตอน, อัลฟาโดยโอไบรอน
.Nuclear พลังงานบางครั้งใช้แทนพลังงานปรมาณู "กับคำ. นอกจากนี้ พลังงานนิวเคลียร์ยังครอบคลุมถึงปัญหาของ nati 2 พลังงานนิวเคลียร์สามารถปลดปล่อย 2508 (1965)) เป็นหลายรูปแบบเช่นพลังงาน, พลังงานความร้อนรังสีแกมมาอนุภาคแอลฟาเบต้าอนุภาคนิวตรอนบัญชาการภาคอื่น ๆ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

พลังงานรังสีเอกซ์ด้วย ( พ . Flying " . พลังงานเพื่อสั
1 พลังงานนิวเคลียร์แบบฟิซชั่น ( ฟิชชัน ) ซึ่งเกิดจากการแตกตัวของนิวเคลียสธาตุหนักเช่นยูเรเนียมพลูโทเนียมเมื่อถูกชนด้วยนิวตรอนหรือโฟตอน
2พลังงานนิวเคลียร์แบบฟิวชั่น ( ฟิวชั่น ) เกิดจากการรวมตัวของนิวเคลียสธาตุเบาเช่นไฮโดรเจน
3พลังงานนิวเคลียร์ที่เกิดจากการสลายตัวของสารกัมมันตรังสี ( รังสี ) ซึ่งให้รังสีต่างๆออกมาเช่นอัลฟาเบตาแกมมาและนิวตรอนเป็นต้น
4พลังงานนิวเคลียร์ที่เกิดจากการเร่งอนุภาคที่มีประจุอนุภาคเช่นอิเล็กตรอนโปรตอนดิวทีรอนและอัลฟาเป็นต้น
พลังงานนิวเคลียร์บางครั้งใช้แทนกันกับคำว่าพลังงานปรมาณูนอกจากนี้พลังงานนิวเคลียร์ยังครอบคลุมไปถึงนติฉบับที่ 2 พ . ศ .พ.ศ. ) พลังงานนิวเคลียร์สามารถปลดปล่อยออกมาเป็นพลังงานหลายรูปแบบเช่นพลังงานความร้อนรังสีแกมมาอนุภาคเบต้าอนุภาคอัลฟาอนุภาคนิวตรอนเป็นต้น
เอ็กซ์เรย์พลังงานด้วยพลังงาน ( ส่ง T
1 พลังงานนิวเคลียร์ใน fischan ( ฟิชชัน )ซึ่งเกิดจากการแตกของธาตุหนัก เช่น ยูเรเนียม พลูโตเนียม นิวเคลียส เมื่อมันหลงโดยนิวตรอนหรือโฟตอน
2 นิวเคลียร์ฟิวชัน ( Fusion ) เป็นพลังงานที่เกิดจากองค์ประกอบของแสง เช่น นิวเคลียสของไฮโดรเจน
3 พลังงานนิวเคลียร์ที่เกิดจากการสลายตัวของสารรังสี ( รังสี ) ซึ่งมีหลายชนิด เช่น อัลฟา เบตาแกมมาและการปลดปล่อยนิวตรอนฯลฯ
4พลังงานนิวเคลียร์ที่เกิดจาก rengonuphak กับแบตเตอรี่อนุภาคเช่นอิเล็กตรอนและโปรตอน อัลฟาโดย dio ไบรอน
. พลังงานนิวเคลียร์บางครั้งใช้แทนพลังงานอะตอม " กับคำ นอกจากนี้พลังงานนิวเคลียร์ยังครอบคลุมไปถึงปัญหาของ Nati 2 พลังงานนิวเคลียร์สามารถปลดปล่อยพ.ศ. ( 1965 ) ในรูปแบบต่างๆ เช่น พลังงาน พลังงานความร้อน รังสีแกมมา อนุภาคแอลฟา บีตาอนุภาคนิวตรอน ผู้บัญชาการภาค ฯลฯ