This study is designed by the actio

This study is designed by the action research technique from the qualitative research methods. This
approach facilitates transferring the research results toward application while putting together research and
application. The action research technique is process-oriented and the data is gathered into research environment
(YÕldÕrÕm and Simsek, 2005). In this context, a two-day long science and art workshop is organized for the Science
teachers in Buca, Izmir. It takes 16 hours and marbling art activity is used for some objects toward Science and
Technology Course (STC). On the first day, theoretical principles about marbling art activity, and on the second
day, the relationship between marbling art activity and STC and applications of marbling art activity are dealt with.
2.1. Participants
The participants in this study are 20 volunteer Science teachers working in Buca, Izmir. Among these
teachers five volunteer teachers are interviewed with a semi-structured interview form after getting their permission.
2.2. Data Collection
Data is collected with a semi-structured interview form consisting ten open-ended questions. This form
aims at getting Science teachers’ opinions through using marbling art activity in STC and in order to provide the
content validity, open-ended questions are arranged by proposals of nine experts in the department of Science
Education, Fine Arts Education and Educational Sciences. Data collecting process is designed by the workshop and
the interview. The interview process includes the statements about marbling art activity of the teachers. Interviewing
with five teachers, main qualitative data of study is gathered by semi- structured interview form and a digital voice
recorder.
2.3. Data Analysis
Data is analyzed with content analysis technique. The aim in content analysis is to reach common themes
from data and to find a relationship among themes. In content analysis, common themes are the gathering of similar
data under certain codes and commenting on these codes to help the readers understand them (Filbeck, 2005;
YÕldÕrÕm and Simsek, 2005; Gokçe, 2006). In this study, the recordings of the interviews are turned to written text.
Common themes are gotten after the interview texts are coded by three lecturers from Primary School Science
Department at Educational Faculty of Dokuz Eylul University and these common themes are grouped according to
the questions in the semi-structured interview form. The frequency of codes from the data in the texts are turned to
frequency tables and commented. Moreover, teachers’ expressions about the interview are given in these tables. The
names of the teachers are hidden by giving them codes like t1, t2.
The internal validity of the semi-structured interview form for the science and art workshop using marbling
art activity about the objects of STC is provided by the recommendations of two lecturers at from Primary School Science Department at Educational Faculty of Dokuz Eylul University. On the other hand, the external validity of
research data is constituted by the same experts coding them according to the content analysis technique and
describing in detail. In order to confirm the reliability of the negotiations towards the opinions of experts an
encoding key is composed.
The reliability of the interviews is provided by examining the conformity percentages and correlations among
the markings of the two experts’ for the coding key. Five coding keys are given to both experts separately. Experts
are requested to read the interview texts of each participant in order independently and mark the common themes in
the interview encoding key of each participant that match the themes of the interview text. After that, similar and
different frequencies for the themes are found according to the encoding key themes of the two experts for each
participant.
The percentage of conformity is calculated by rating the total selected theme number with the frequency of
common themes in the coding key of the experts for each participant. For each participant the mean of the
percentage of conformity is found as 81%. In addition, correlation values are calculated considering the total number
of signs of two experts for each participant, and this value is found as 0.84. Conformity over 70% is considered
adequate for reliability of the research (Paulson, Paulson and Mayer 1991). Furthermore, as the correlation values of
are over 0.70’s, it shows that the reliability of coding is highly correlated.
Sub-themes which are created by experts by coding after the validity and reliability studies, are grouped
under a common theme under semi-structured interview questions, and interpreted with the frequency tables with
some statements of the students.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การศึกษานี้ถูกออกแบบ ด้วยเทคนิคการวิจัยการดำเนินการจากวิธีการวิจัยเชิงคุณภาพ นี้วิธีการอำนวยความสะดวกในการถ่ายโอนผลวิจัยไปยังโปรแกรมประยุกต์ขณะวางร่วมกันวิจัย และแอพลิเคชัน เทคนิคการวิจัยดำเนินการเป็นกระบวนการที่มุ่งเน้น และข้อมูลรวบรวมมาเป็นงานวิจัยสิ่งแวดล้อม(YÕldÕrÕm และ Simsek, 2005) ในบริบทนี้ 2 วันยาววิทยาศาสตร์และศิลปะเชิงปฏิบัติการเรื่องจัดระเบียบสำหรับศาสตร์ครูใน Buca อิซมีร์ ใช้เวลา 16 ชั่วโมง และกิจกรรมศิลปะ marbling ใช้บางวัตถุไปทางวิทยาศาสตร์ และหลักสูตรเทคโนโลยี (STC) ในวันแรก หลักการทฤษฎี เกี่ยวกับกิจกรรมศิลปะ marbling และ ที่สองวัน ความสัมพันธ์ระหว่างงาน marbling กิจกรรมศิลปะ กิจกรรมศิลปะ marbling และ STC จะดำเนินการ2.1. ผู้เข้าร่วมผู้เรียนในการศึกษานี้มี 20 อาสาสมัครครูวิทยาศาสตร์ทำงานใน Buca อิซมีร์ ในหมู่เหล่านี้ครูอาสาครูห้ามีสัมภาษณ์ ด้วยแบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้างหลังการได้รับอนุญาต2.2 รวบรวมข้อมูลรวบรวมข้อมูล ด้วยแบบสัมภาษณ์กึ่งมีโครงสร้างที่ประกอบด้วยคำถามปลายเปิดที่สิบ แบบฟอร์มนี้มีวัตถุประสงค์ที่ได้รับความเห็นของครูผู้สอนวิทยาศาสตร์โดยใช้กิจกรรมศิลปะ marbling STC และ เพื่อให้การเนื้อหามีผลบังคับใช้ คำถามปลายเปิดจะจัดเรียงตามข้อเสนอของผู้เชี่ยวชาญ 9 ในภาควิชาวิทยาศาสตร์การศึกษา การศึกษาศิลปะ และวิทยาศาสตร์ศึกษา กระบวนการเก็บรวบรวมข้อมูลออกแบบ โดยประชุมเชิงปฏิบัติการ และบทสัมภาษณ์ กระบวนการสัมภาษณ์รวมถึงรายงานเกี่ยวกับ marbling กิจกรรมศิลปะของครู สัมภาษณ์ข้อมูลส่วนตัวมีครู 5 ข้อมูลเชิงคุณภาพหลักการศึกษารวบรวม โดยกึ่ง-โครงสร้างแบบสัมภาษณ์และเสียงดิจิตอลบันทึก2.3. ข้อมูลวิเคราะห์เป็นวิเคราะห์ข้อมูล ด้วยเทคนิคการวิเคราะห์เนื้อหา จุดมุ่งหมายในการวิเคราะห์เนื้อหาคือการ เข้าถึงรูปแบบทั่วไปจากข้อมูล และหาความสัมพันธ์ระหว่างรูปแบบการ ในการวิเคราะห์เนื้อหา ชุดรูปแบบทั่วไปจะรวบรวมของที่คล้ายกันข้อมูลภายใต้รหัสบางอย่างและให้ข้อคิดเห็นรหัสเหล่านี้จะช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจได้ (Filbeck, 2005YÕldÕrÕm และ Simsek, 2005 Gokçe, 2006) ในการศึกษานี้ ในการบันทึกการสัมภาษณ์จะถูกเขียนข้อความรูปแบบทั่วไปได้รับหลังจากข้อความสัมภาษณ์เข้ารหัส โดยอาจารย์ 3 จากโรงเรียนวิทยาศาสตร์แผนกที่ศึกษาคณะ Dokuz Eylul มหาวิทยาลัยและชุดรูปแบบทั่วไปเหล่านี้จะถูกจัดกลุ่มตามคำถามในแบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง ความถี่ของรหัสจากข้อมูลในข้อความที่เปิดให้ความถี่ในตาราง และแสดงความคิดเห็น นอกจากนี้ นิพจน์ของครูเกี่ยวกับการสัมภาษณ์จะได้รับในตารางเหล่านี้ ที่ชื่อของครูที่ถูกซ่อนไว้ โดยการให้รหัสเช่น t1, t2มีผลบังคับใช้ภายในของแบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้างสำหรับเชิงวิทยาศาสตร์และศิลปะที่ใช้ marblingกิจกรรมศิลปะเกี่ยวกับวัตถุของ STC ไว้ โดยคำแนะนำของอาจารย์ทั้งสองที่จากกรมวิทยาศาสตร์ประถมศึกษาคณะของ Dokuz Eylul มหาวิทยาลัย ในทางกลับกัน มีผลบังคับใช้ภายนอกของข้อมูลวิจัยจะทะลัก โดยผู้เชี่ยวชาญเหมือนที่กำหนดไว้ตามเทคนิคการวิเคราะห์เนื้อหา และอธิบายในรายละเอียด เพื่อยืนยันความน่าเชื่อถือของเจรจาต่อความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญการคีย์การเข้ารหัสจะประกอบด้วยความน่าเชื่อถือของการสัมภาษณ์โดยตรวจสอบเปอร์เซ็นต์การให้สอดคล้องและความสัมพันธ์ระหว่างร่องรอยของสองผู้เชี่ยวชาญของการคีย์รหัส คีย์รหัสห้าจะได้รับการผู้เชี่ยวชาญทั้งสองแยกต่างหาก ผู้เชี่ยวชาญร้องขอให้อ่านข้อความสัมภาษณ์ของผู้เข้าร่วมแต่ละลำดับอย่างเป็นอิสระ และรูปแบบทั่วไปในการทำเครื่องหมายการสัมภาษณ์เข้ารหัสคีย์ของแต่ละผู้เรียนที่ตรงกับชุดรูปแบบของข้อความการสัมภาษณ์ หลังจากนั้น คล้ายคลึงกัน และความถี่ที่แตกต่างกันสำหรับชุดรูปแบบที่พบตามรูปคีย์เข้ารหัสของผู้เชี่ยวชาญสองสำหรับแต่ละผู้เข้าร่วมเปอร์เซ็นต์ของให้สอดคล้องตามหมายเลขชุดรูปแบบที่เลือกรวมกับความถี่ของการจัดอันดับชุดรูปแบบทั่วไปในคีย์รหัสของผู้เชี่ยวชาญสำหรับแต่ละผู้เข้าร่วม สำหรับผู้เข้าร่วมแต่ละค่าเฉลี่ยของการพบเปอร์เซ็นต์ของให้สอดคล้องเป็น 81% นอกจากนี้ ความสัมพันธ์คำนวณพิจารณาจำนวนของสัญญาณสองผู้เชี่ยวชาญสำหรับแต่ละผู้เข้าร่วม และค่านี้จะพบเป็น 0.84 พิจารณาให้สอดคล้องมากกว่า 70%เพียงพอสำหรับความน่าเชื่อถือของการวิจัย (Paulson, Paulson และเมเยอร์ 1991) นอกจากนี้ เป็นค่าสหสัมพันธ์ของมีมากกว่าของ 0.70 แสดงว่า ความน่าเชื่อถือของการเขียนโค้ดเป็นสูง correlatedชุดย่อยที่สร้างขึ้น โดยผู้เชี่ยวชาญ โดยมีผลบังคับใช้และการศึกษาความน่าเชื่อถือ การเขียนโค้ด จะถูกจัดกลุ่มภายใต้รูปแบบทั่วไปภายใต้โครงสร้างกึ่งสัมภาษณ์คำถาม และแปลกับตารางความถี่ด้วยบางคำของนักเรียน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การศึกษาครั้งนี้ได้รับการออกแบบโดยใช้เทคนิคการวิจัยเชิงปฏิบัติการจากวิธีการวิจัยเชิงคุณภาพ นี้
วิธีการอำนวยความสะดวกในการถ่ายโอนผลการวิจัยไปสู่การประยุกต์ใช้ในขณะที่วางร่วมกันวิจัยและการ
ประยุกต์ใช้ เทคนิคการวิจัยเชิงปฏิบัติการเป็นกระบวนการที่มุ่งเน้นและข้อมูลที่มีการรวบรวมไว้เป็นสภาพแวดล้อมการวิจัย
(YÕldÕrÕmและ Simsek, 2005) ในบริบทนี้วิทยาศาสตร์นานสองวันและการประชุมเชิงปฏิบัติการศิลปะการจัดระเบียบสำหรับวิทยาศาสตร์
ครูใน Buca, Izmir มันต้องใช้เวลา 16 ชั่วโมงและกิจกรรมศิลปะหินอ่อนใช้สำหรับวัตถุบางอย่างที่มีต่อวิทยาศาสตร์และ
หลักสูตรเทคโนโลยี (STC) ในวันแรกของหลักการทางทฤษฎีเกี่ยวกับ marbling กิจกรรมศิลปะและที่สอง
วันความสัมพันธ์ระหว่างกิจกรรมหินอ่อนศิลปะและเอสทีซีและการประยุกต์ใช้กิจกรรมศิลปะ marbling จะจัดการกับ.
2.1 ผู้เข้าร่วมการ
มีส่วนร่วมในการศึกษาครั้งนี้มี 20 ครูอาสาสมัครวิทยาศาสตร์ที่ทำงานใน Buca, Izmir กลุ่มคนเหล่านี้
ครูห้าครูอาสาสมัครที่ได้รับการสัมภาษณ์กับแบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้างหลังจากที่ได้รับอนุญาต.
2.2 การเก็บรวบรวมข้อมูล
ที่เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยแบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้างประกอบด้วยสิบคำถามปลายเปิด แบบฟอร์มนี้
มีจุดมุ่งหมายที่ได้รับความคิดเห็นของครูวิทยาศาสตร์โดยใช้กิจกรรมศิลปะหินอ่อนในเอสทีซีและเพื่อให้
ตรงตามเนื้อหาคำถามปลายเปิดจะจัดโดยข้อเสนอของเก้าผู้เชี่ยวชาญในแผนกวิทยาศาสตร์
การศึกษาวิจิตรศิลปะการศึกษาและการศึกษาวิทยาศาสตร์ ขั้นตอนการเก็บรวบรวมข้อมูลที่ได้รับการออกแบบโดยการประชุมเชิงปฏิบัติการและ
การสัมภาษณ์ ขั้นตอนการสัมภาษณ์รวมถึงงบที่เกี่ยวกับ marbling กิจกรรมศิลปะของครู สัมภาษณ์
กับห้าครูข้อมูลเชิงคุณภาพหลักของการศึกษาคือการรวบรวมโดยแบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้างและเสียงดิจิตอล
บันทึก.
2.3 วิเคราะห์ข้อมูล
ข้อมูลจะถูกวิเคราะห์ด้วยเทคนิคการวิเคราะห์เนื้อหา โดยมีจุดมุ่งหมายในการวิเคราะห์เนื้อหาคือการเข้าถึงรูปแบบทั่วไป
จากข้อมูลและการที่จะหารูปแบบความสัมพันธ์ระหว่าง ในการวิเคราะห์เนื้อหารูปแบบทั่วไปที่มีการชุมนุมของที่คล้ายกัน
ภายใต้ข้อมูลรหัสบางอย่างและแสดงความคิดเห็นในรหัสเหล่านี้จะช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจพวกเขา (Filbeck 2005;
YÕldÕrÕmและ Simsek 2005; Gökce 2006) ในการศึกษานี้บันทึกการสัมภาษณ์จะหันไปข้อความที่เขียน.
รูปแบบทั่วไปจะอากาศหลังจากที่ตำราการสัมภาษณ์ที่เขียนโดยสามอาจารย์วิทยาศาสตร์โรงเรียนประถม
ศึกษาที่ภาควิชาคณะมหาวิทยาลัย Dokuz Eylul และรูปแบบที่พบบ่อยเหล่านี้จะถูกจัดกลุ่มตาม
คำถาม ในรูปแบบการสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง ความถี่ของรหัสจากข้อมูลในตำราจะหันไป
ตารางความถี่และแสดงความคิดเห็น นอกจากนี้การแสดงออกของครูเกี่ยวกับการสัมภาษณ์จะได้รับในตารางเหล่านี้
ชื่อของครูจะถูกซ่อนไว้โดยให้พวกเขาเช่นรหัส t1, t2.
ถูกต้องตามกฎหมายภายในของแบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้างสำหรับการประชุมเชิงปฏิบัติการวิทยาศาสตร์และศิลปะโดยใช้หินอ่อน
กิจกรรมศิลปะเกี่ยวกับวัตถุของเอสทีซีที่ให้ไว้โดยคำแนะนำของอาจารย์ทั้งสองที่ จากโรงเรียนประถมศึกษาภาควิชาวิทยาศาสตร์ที่ศึกษาคณะมหาวิทยาลัย Dokuz Eylul ในทางตรงกันข้าม, ความถูกต้องภายนอกของ
ข้อมูลการวิจัยเป็น constituted โดยผู้เชี่ยวชาญเดียวกันเข้ารหัสพวกเขาตามเทคนิคการวิเคราะห์เนื้อหาและ
อธิบายในรายละเอียด เพื่อที่จะยืนยันความน่าเชื่อถือของการเจรจาต่อความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ
ที่สำคัญประกอบด้วยการเข้ารหัส.
ความน่าเชื่อถือของการสัมภาษณ์มีให้โดยการตรวจสอบเปอร์เซ็นต์ตามมาตรฐานและความสัมพันธ์ระหว่าง
เครื่องหมายของทั้งสองผู้เชี่ยวชาญสำหรับคีย์การเข้ารหัส ห้าคีย์การเข้ารหัสจะได้รับที่ผู้เชี่ยวชาญทั้งสองแยกจากกัน ผู้เชี่ยวชาญ
ได้รับการร้องขอในการอ่านตำราสัมภาษณ์ของผู้เข้าร่วมแต่ละคนเพื่อเป็นอิสระและทำเครื่องหมายในรูปแบบที่พบบ่อยใน
คีย์การเข้ารหัสสัมภาษณ์ของผู้เข้าร่วมแต่ละคนที่ตรงกับรูปแบบของข้อความการสัมภาษณ์ หลังจากนั้นที่คล้ายกันและ
ความถี่ที่แตกต่างกันสำหรับรูปแบบที่พบตามการเข้ารหัสรูปแบบที่สำคัญของทั้งสองผู้เชี่ยวชาญสำหรับแต่ละ
ผู้เข้าร่วม.
ร้อยละของความสอดคล้องมีการคำนวณโดยการจัดอันดับจำนวนธีมที่เลือกทั้งหมดกับความถี่ของ
รูปแบบทั่วไปในคีย์การเข้ารหัสของ ผู้เชี่ยวชาญสำหรับผู้เข้าร่วมแต่ละคน สำหรับผู้เข้าร่วมแต่ละเฉลี่ยของ
ร้อยละของความสอดคล้องที่พบเป็น 81% นอกจากนี้ยังมีค่าสหสัมพันธ์คำนวณพิจารณาจำนวน
ของสัญญาณของสองผู้เชี่ยวชาญสำหรับผู้เข้าร่วมแต่ละคนและความคุ้มค่านี้จะพบเป็น 0.84 ตามมาตรฐานการกว่า 70% ถือว่า
เพียงพอสำหรับความน่าเชื่อถือของการวิจัย (Paulson, Paulson และเมเยอร์ 1991) นอกจากเป็นค่าความสัมพันธ์ของ
มีมากกว่า 0.70 ของมันแสดงให้เห็นว่าความน่าเชื่อถือของการเข้ารหัสมีความสัมพันธ์อย่างมาก.
รูปแบบย่อยซึ่งได้รับการสร้างขึ้นโดยผู้เชี่ยวชาญโดยการเข้ารหัสหลังจากที่ความถูกต้องน่าเชื่อถือและการศึกษาที่มีการจัดกลุ่ม
ภายใต้รูปแบบทั่วไปภายใต้กึ่ง โครงสร้างคำถามสัมภาษณ์และตีความด้วยตารางความถี่
งบบางส่วนของนักเรียน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การศึกษานี้ได้รับการออกแบบโดยการดำเนินการเทคนิคการวิจัยจากวิธีการวิจัยเชิงคุณภาพ วิธีการนี้
สะดวกโอนผลการวิจัยไปใช้ขณะที่ช่วยกันวิจัยและ
ใบสมัคร การวิจัยปฏิบัติการโดยใช้กระบวนการที่มุ่งเน้นและเก็บข้อมูลในสภาพแวดล้อมการวิจัย
( Y Õ LD Õ R Õ M และซิมเซค , 2005 ) ในบริบทนี้วิทยาศาสตร์และการประชุมเชิงปฏิบัติการศิลปะยาวสองวันจัดสำหรับครูวิทยาศาสตร์
Buca , Izmir . ใช้เวลา 16 ชั่วโมง และกิจกรรมศิลปะหินอ่อนใช้สำหรับวัตถุบางอย่างที่มีต่อวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
แน่นอน ( STC ) ในวันแรก หลักการ ทฤษฎี เกี่ยวกับกิจกรรมศิลปะหินอ่อน และวันที่ 2
,ความสัมพันธ์ระหว่างกิจกรรมศิลปะและ marbling STC และการประยุกต์ใช้กิจกรรมศิลปะหินอ่อนจะจัดการ
2.1 . ผู้เข้าร่วม
ผู้เข้าร่วมในการศึกษานี้มี 20 คน ครูทำงานใน Buca , Izmir . ของครูเหล่านี้
ครูอาสาสมัคร 5 คน ด้วยแบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้างรูปแบบหลังจากที่ได้รับอนุญาตแล้ว .
2.2 .
การเก็บรวบรวมข้อมูลเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยแบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง รูปแบบ ประกอบด้วย สิบ คำถามปลายเปิด
รูปนี้มีวัตถุประสงค์ที่ได้รับความคิดเห็นของครูวิทยาศาสตร์ โดยใช้กิจกรรมศิลปะหินอ่อนใน STC และเพื่อให้
เนื้อหาความถูกต้อง คำถามปลายเปิดจะจัดโดยข้อเสนอของเก้าผู้เชี่ยวชาญในแผนกของการศึกษาวิทยาศาสตร์
, การศึกษาศิลปะและการศึกษาวิทยาศาสตร์รวบรวมข้อมูลกระบวนการออกแบบ โดยการประชุม
สัมภาษณ์ การสัมภาษณ์รวมถึงข้อความเกี่ยวกับหินอ่อนศิลปะกิจกรรมของครู การสัมภาษณ์
5 ครู , ข้อมูลหลักคุณภาพของการศึกษาที่รวบรวมโดยการสัมภาษณ์แบบกึ่งมีโครงสร้าง และบันทึกเสียงดิจิตอล
.
2.3 การวิเคราะห์ข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูลด้วยเทคนิคการวิเคราะห์
ข้อมูลเนื้อหาเป้าหมายในการวิเคราะห์คือการเข้าถึงรูปแบบทั่วไป
จากข้อมูล และหา ความสัมพันธ์ระหว่างรูปแบบ ในการวิเคราะห์เนื้อหา แนวคิดทั่วไปคือการรวบรวมข้อมูลที่คล้ายกัน
ใต้รหัสบางอย่างและแสดงความคิดเห็นในรหัสเหล่านี้เพื่อช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจพวกเขา ( filbeck , 2005 ;
Y Õ LD Õ R Õ M และซิมเซค , 2005 ; กก 5 E , 2006 ) ในการศึกษานี้ ได้บันทึกการสัมภาษณ์หันไปเขียนข้อความ
กระทู้ทั่วไปจะได้รับหลังจากสัมภาษณ์ข้อความเขียนโดยสามอาจารย์จากภาควิชาวิทยาศาสตร์ ประถมศึกษา
โรงเรียนคณะการศึกษาของมหาวิทยาลัย eylul dokuz และรูปแบบเหล่านี้โดยทั่วไปจะถูกจัดกลุ่มตาม
คำถามในแบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้างรูปแบบ ความถี่ของรหัสจากข้อมูลในข้อความจะกลายเป็น
ตารางความถี่และแสดงความคิดเห็น นอกจากนี้ครูสำนวนเกี่ยวกับการสัมภาษณ์จะได้รับตารางเหล่านี้
ชื่อของครูที่ถูกซ่อนไว้ โดยการให้รหัสแบบ T1 , T2 .
ความตรงภายในของแบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้างแบบวิทยาศาสตร์และการประชุมเชิงปฏิบัติการศิลปะโดยใช้หินอ่อน
กิจกรรมศิลปะเกี่ยวกับวัตถุของ STC โดยคำแนะนำของ 2 อาจารย์ที่จากกรมวิทยาศาสตร์ระดับประถมศึกษา : การศึกษาของมหาวิทยาลัย eylul dokuz . บนมืออื่น ๆ , ความตรงภายนอกของการวิจัย
ข้อมูล constituted โดยผู้เชี่ยวชาญเหมือนกันนะครับ ตามการวิเคราะห์เนื้อหาและเทคนิค
อธิบายในรายละเอียดเพื่อยืนยันความน่าเชื่อถือของการเจรจาต่อความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญที่เป็นคีย์การเข้ารหัสประกอบด้วย
.
ความน่าเชื่อถือของการสัมภาษณ์โดยการตรวจสอบความสอดคล้องและค่าสหสัมพันธ์ระหว่าง
เครื่องหมายของทั้งสองผู้เชี่ยวชาญสำหรับการเข้ารหัสคีย์ 5 รหัสกุญแจให้ทั้งสองด้านแยกกัน ผู้เชี่ยวชาญ
ได้อ่านบทสัมภาษณ์ของผู้เข้าร่วมแต่ละข้อความเพื่ออิสระและเครื่องหมายรูปแบบทั่วไปในการเข้ารหัสคีย์
สัมภาษณ์ของผู้เข้าร่วมแต่ละที่ตรงกับรูปแบบของการสัมภาษณ์ข้อความ หลังจากนั้น ที่คล้ายกันและแตกต่างกันสำหรับธีม
ความถี่ที่พบตามคีย์การเข้ารหัสรูปแบบของทั้งสองผู้เชี่ยวชาญสำหรับผู้เข้าร่วมแต่ละคน

ค่าร้อยละของคะแนนรวม ( คำนวณโดยเลือกธีม ด้วย จำนวนความถี่ของ
รูปแบบทั่วไปในการเข้ารหัสคีย์ของผู้เชี่ยวชาญสำหรับผู้เข้าร่วมแต่ละ สำหรับผู้เข้าร่วมแต่ละที่ค่าเฉลี่ยของเปอร์เซ็นต์พบว่า
( 81 ) นอกจากนี้ ค่าความสัมพันธ์จะถูกคำนวณจากจำนวน
ป้ายสองด้านสำหรับผู้เข้าร่วมแต่ละและมูลค่านี้พบเป็น 0.84 . สอดคล้องกว่า 70% ถือว่า
เพียงพอสำหรับความน่าเชื่อถือของงานวิจัย ( พอลสัน พอลสัน และเมเยอร์ 1991 ) โดยมีความสัมพันธ์ของค่า
มากกว่า 0.70 , มันแสดงให้เห็นว่า ความเชื่อมั่นของการเขียนโปรแกรมเป็นระดับสูง .
ซับธีมที่สร้างขึ้นโดยผู้เชี่ยวชาญนะครับ หลังจากความน่าเชื่อถือและมีการจัดกลุ่ม
ศึกษาภายใต้ชุดรูปแบบทั่วไปภายใต้คำถามสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง และตีความกับความถี่ตาราง
งบบางส่วนของนักเรียน