Once acquired, the data gathered us

Once acquired, the data gathered using PULSE Time Data Recorder was subsequently post-processed using B&K PULSE Reflex software, along with Microsoft Excel. These software were used together to process and analyze the recorded data. The measurements collected confirmed that the presence of intervening vehicles do have a significant role in hindering the effectiveness of emergency vehicle sirens. From the manufacturer of the e-Q2B electronic siren, the frequency range is stated to be from 725 to 1600 Hz. (Federal Signal: Safety and Security Systems, 2012) This range will also be the focus of the analysis for this study. All distances reported will be measured from the siren speakers to the HATS device. For the majority of the data, the Fast Fourier Transform (FFT) analysis was used to examine the frequency spectral of the siren signals. The primary focus of this study was to analyze the off-axis, or perpendicular shadowing scenario. This form of shadowing would occur at an intersection, and is believed to be a factor in many emergency vehicle collisions. The first experiment had the vehicles positioned with their front bumpers in line with one another to simulate them being stopped at the same point in adjacent lanes at an intersection. The data concluded that at a receiver distance of 17.8 m from the siren speakers, the recorded SPL was significantly lower. At the majority of the frequencies of interest, the SPL is 5 dB higher when the shadow vehicle is absent. It is also important to note that there are multiple data points where the SPL is 10 dB higher for the case of no shadow vehicle present. This correlates to a perceived change in loudness of a factor of 2. A summary of the data is illustrated in Figure 3.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เมื่อมา ข้อมูลที่รวบรวมไว้ใช้บันทึกข้อมูลเวลาชีพจรต่อมาหลังการประมวลผลโดยใช้บีแอนด์เคพัลส์สะท้อนซอฟต์แวร์ พร้อมกับ Microsoft Excel ซอฟต์แวร์เหล่านี้ถูกใช้ร่วมกันเพื่อประมวลผล และวิเคราะห์ข้อมูลที่บันทึก การวัดการรวบรวมข้อมูลยืนยันว่าการปรากฏตัวของยานพาหนะที่แทรกแซงมีบทบาทสำคัญในการขัดขวางประสิทธิภาพของยานพาหนะฉุกเฉินไซเรน จากผู้ผลิตของไซเรนอิเล็กทรอนิกส์ e-Q2B ช่วงความถี่ที่ระบุมาจาก 725 ไป 1600 Hz. (รัฐบาลกลางสัญญาณ: ความปลอดภัยและระบบรักษาความปลอดภัย 2012) ช่วงนี้จะมุ่งเน้นการวิเคราะห์สำหรับการศึกษานี้ รายงานระยะทั้งหมดวัดได้จากลำโพงไซเรนอุปกรณ์หมวก สำหรับส่วนใหญ่ของข้อมูล การวิเคราะห์อย่างรวดเร็วฟูริเยร์แปลง (พวก) ถูกใช้เพื่อตรวจสอบความถี่สเปกตรัมของสัญญาณไซเรน โฟกัสหลักของการศึกษานี้ได้วิเคราะห์ปิดแกน หรือฉากสถานการณ์สมมติ shadowing แบบนี้ทำแชโดว์จะเกิดขึ้นที่แยก และเชื่อว่าจะเป็นปัจจัยในหลายชนยานพาหนะฉุกเฉิน ทดลองครั้งแรกในรถถังในตำแหน่งของกันชนด้านหน้าสอดคล้องกับคนอื่นเพื่อจำลองให้หยุดที่จุดเดียวในเลนติดกับที่แยกได้ ข้อมูลสรุปที่ระยะรับสัญญาณจากลำโพงไซเรน 17.8 เมตร SPL บันทึกไว้ว่าต่ำกว่าอย่างมีนัยสำคัญ เวลาส่วนใหญ่ของความถี่ที่น่าสนใจ SPL เป็น 5 dB สูงขึ้นเมื่อรถเงาจะขาด โปรดทราบว่า มีข้อมูลหลายจุดที่ตัว SPL เป็น 10 dB สูงสำหรับกรณีที่รถไม่เงาอยู่ได้ นี้คู่กับการเปลี่ยนแปลงการรับรู้ในความดังของตัวคูณของ 2 สรุปข้อมูลจะแสดงในรูปที่ 3

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ที่ได้มาเมื่อข้อมูลที่รวบรวมโดยใช้เวลา PULSE บันทึกข้อมูลต่อมาหลังการประมวลผลโดยใช้ B & K PULSE ซอฟต์แวร์ Reflex พร้อมกับ Microsoft Excel ซอฟแวร์เหล่านี้ถูกนำมาใช้ร่วมกันในการประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมูลที่บันทึกไว้ วัดที่เก็บรวบรวมได้ยืนยันว่าการปรากฏตัวของการแทรกแซงยานพาหนะจะมีบทบาทสำคัญในการขัดขวางประสิทธิภาพของรถไซเรนฉุกเฉิน จาก บริษัท ผู้ผลิตไซเรนอิเล็กทรอนิกส์ E-Q2B ช่วงความถี่ดังกล่าวจะ 725-1,600 เฮิรตซ์ (สหพันธ์สัญญาณ: ความปลอดภัยและการรักษาความปลอดภัยระบบ 2012) ช่วงนี้จะมุ่งเน้นการวิเคราะห์สำหรับการศึกษาครั้งนี้ ระยะทางทั้งหมดรายงานจะมีการวัดจากลำโพงไซเรนไปยังอุปกรณ์หมวก สำหรับส่วนใหญ่ของข้อมูล, ฟูริเยร์ได้อย่างรวดเร็ว (FFT) การวิเคราะห์ถูกใช้ในการตรวจสอบสเปกตรัมความถี่ของสัญญาณไซเรน เป้าหมายหลักของการศึกษาครั้งนี้คือการวิเคราะห์ออกแกนหรือสถานการณ์แชโดว์ในแนวตั้งฉาก รูปแบบของการแชโดว์นี้จะเกิดขึ้นที่สี่แยกและเชื่อว่าจะเป็นปัจจัยในหลายรถชนฉุกเฉิน การทดลองครั้งแรกที่ได้รถในตำแหน่งที่กันชนด้านหน้าของพวกเขาอยู่ในแนวเดียวกันกับอีกคนหนึ่งเพื่อจำลองพวกเขาจะถูกหยุดอยู่ที่จุดเดียวกันในเลนที่อยู่ติดกันที่สี่แยก ข้อมูลที่ได้ข้อสรุปว่าในระยะทางที่รับ 17.8 เมตรจากลำโพงไซเรนที่บันทึก SPL ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ที่ส่วนใหญ่ของความถี่ที่น่าสนใจที่ SPL คือ 5 เดซิเบลที่สูงขึ้นเมื่อรถเงาขาด ยังเป็นสิ่งสำคัญที่จะทราบว่ามีจุดข้อมูลหลายที่ SPL คือ 10 เดซิเบลที่สูงขึ้นสำหรับกรณีที่ไม่มียานพาหนะเงาปัจจุบัน นี้มีความสัมพันธ์ไปสู่การเปลี่ยนแปลงการรับรู้ในความดังของปัจจัย 2. สรุปของข้อมูลที่จะแสดงในรูปที่ 3

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เมื่อได้รับ ข้อมูลที่รวบรวมการใช้ชีพจรเวลาบันทึกข้อมูลและการประมวลผลการโพสต์ B & K ชีพจรสะท้อนซอฟต์แวร์พร้อมกับ Microsoft Excel ซอฟต์แวร์เหล่านี้มาใช้ร่วมกันเพื่อประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมูลที่บันทึกไว้ การวัดเพื่อยืนยันว่ามีการแทรกของยานพาหนะจะมีบทบาทในขัดขวางประสิทธิภาพของไซเรนยานพาหนะฉุกเฉิน จากผู้ผลิตของ e-q2b อิเล็กทรอนิกส์ไซเรน ช่วงความถี่ระบุให้จาก 725 ไป 1 , 600 Hz . ( Federal Signal : ความปลอดภัยและระบบรักษาความปลอดภัย , 2012 ) ช่วงนี้จะยังเป็นจุดสนใจของการวิเคราะห์โครงการ ระยะทางทั้งหมดที่รายงานจะถูกวัดจากไซเรนลำโพงกับหมวกอุปกรณ์ สำหรับส่วนใหญ่ของข้อมูล การแปลงฟูเรียร์อย่างรวดเร็ว ( FFT ) และใช้ในการตรวจสอบความถี่ของสเปกตรัมของไซเรนสัญญาณ เน้นหลักของการศึกษานี้ก็เพื่อวิเคราะห์นอกแกน หรือตั้งฉากตามสถานการณ์ รูปแบบของเงาจะเกิดขึ้นที่แยก และเชื่อว่าจะเป็นปัจจัยในหลายฉุกเฉินรถยนต์การชนกัน การทดลองที่ 1 มียานพาหนะวางกับกันชนด้านหน้าของพวกเขาในบรรทัด กับอีกแบบหนึ่งซึ่งพวกเขาได้หยุดอยู่ที่จุดเดียวกันในติดกันเลนที่แยก ข้อมูลสรุปได้ว่าตัวรับ ระยะทาง 17.8 เมตรจากไซเรนลำโพง , บันทึก SPL ลดลง . ที่ส่วนใหญ่ของความถี่ของดอกเบี้ย , 5 dB SPL ที่สูงเมื่อเงารถขาด นอกจากนี้ยังเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องทราบว่ามีหลายจุดข้อมูลที่ 10 dB SPL ที่สูงสำหรับกรณีที่ไม่มีเงารถปัจจุบัน นี้เกี่ยวข้องกับการรับรู้การเปลี่ยนแปลงความดังของปัจจัย 2 สรุปข้อมูลจะแสดงในรูปที่ 3