ImpactsCoral vine (Antigonon leptop

Impacts
Coral vine (Antigonon leptopus) is regarded as an environmental weed in the Northern Territory, Queensland, Western Australia and on Christmas Island. This invasive plant is also listed as a priority environmental weed in at least one Natural Resource Management region in northern Australia. It can completely smother native plants, out-competing native vines and understorey vegetation. In the wet-dry climate of northern Australia, its leaves dry out and drop during the dry season thereby providing fuel for damaging fires.
Coral vine (Antigonon leptopus) is currently of most concern in the Northern Territory, where it is actively managed by community groups. It has spread from cultivation as a fence climber into nearby riparian vegetation and monsoon vine thickets. For example, this species is listed as a high priority weed in Aboriginal lands in the Northern Land Council area and is regarded as a significant weed in the Pine Creek bioregion.
In northern Queensland, coral vine (Antigonon leptopus) also inhabits wetter rainforest areas and the margins of mangrove forests. It is listed as a pest plant in the Townsville City local government area and as an environmental weed in the Thuringowa City region. It is also regarded as a high priority pest plant in the Mackay-Whitsunday region in central Queensland and is a locally invasive weed on coastal sand dunes on Bribie Island in south-eastern Queensland. Coral vine (Antigonon leptopus) is also becoming more common along waterways in suburban Brisbane.
In the Kimberley region of northern Western Australia, coral vine (Antigonon leptopus) often grows beside permanently wet inlets and in disturbed natural vegetation adjacent to creeks. It is not yet widespread or common in this area, but is reported to be spreading and is becoming a serious weed around the margins of Lake Kununurra. On Christmas Island, coral vine (Antigonon leptopus) is a widespread, but relatively minor, weed of sea cliffs and rehabilitation areas.
Coral vine (Antigonon leptopus) is also a problem species in other parts of the world, and is listed in the Global Invasive Species Database. It has become particularly invasive on several Pacific Islands, where it grows in disturbed areas and on dry coral cliffs. For example, it is extensively invading disturbed areas and forest edges on the northern half of Guam. It is also reported to be invasive on islands in the Atlantic (i.e. Virgin Islands) and Indian (e.g. Christmas Island and Timor) Oceans.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผลกระทบต่อเถาวัลย์ปะการัง (พวงชมพู) ถือว่าเป็นวัชพืชสิ่งแวดล้อม ในเขต ควีนสแลนด์ ออสเตรเลียตะวันตก และเกาะคริสต์มาส พืชรุกรานนี้จะยังแสดงเป็นวัชพืชสิ่งแวดล้อมสำคัญในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติภูมิภาคในภาคเหนือของออสเตรเลีย นอกจากนี้มันสมบูรณ์สามารถผลิตพืชพื้นเมือง ออกจากการแข่งขันเจ้าเถาวัลย์ และพืช understorey ในสภาพอากาศเปียกแห้งของภาคเหนือของออสเตรเลีย ใบแห้งออก และปล่อยช่วงฤดูแล้งให้น้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับความเสียหายไฟไหม้เถาโครอล (พวงชมพู) กำลังกังวลมากที่สุดในดินแดนเหนือ ที่ได้มีจัดการ โดยชุมชนกลุ่ม มีแพร่กระจายจากเพาะเป็นเถาวัลย์รั้วพืชพรรณ riparian ที่ใกล้เคียงและมรสุมเถาโกหก เช่น พันธุ์แสดงเป็นวัชพืชสำคัญในชนที่ดินในพื้นที่ภาคเหนือที่ดินสภา และถือว่าเป็นวัชพืชสำคัญในการศึกษาสนครีในรัฐควีนส์แลนด์ทางภาคเหนือ เถาวัลย์ปะการัง (พวงชมพู) ยังเตรียมขอบของป่าชายเลนและพื้นที่ป่าฝนควร มันอยู่ เป็นพืชและตั้งรัฐบาลท้องถิ่นของเมืองทาวน์สวิลล์ และ เป็นวัชพืชสิ่งแวดล้อมในเขตเมือง Thuringowa มันยังถือเป็นโรงงานและลำดับความสำคัญสูงในเขตแมคเคย์คระในควีนสแลนด์กลาง และเป็นวัชพืชในท้องถิ่นบนเนินทรายชายฝั่งบนเกาะ Bribie ในรัฐควีนส์แลนด์ตะวันออกเฉียงใต้ เถาโครอล (พวงชมพู) ยังเป็นทั่วไปตามแม่น้ำลำคลองในย่านชานเมืองบริสเบนในคิมเบอร์ลีย์ภูมิภาคของออสเตรเลียตะวันตกภาคเหนือ เถาวัลย์ปะการัง (พวงชมพู) มักจะเจริญเติบโต ข้างเวิ้งเปียกอย่างถาวร และพืชพรรณธรรมชาติถูกรบกวนอยู่ติดกับลำธาร มันยังไม่แพร่หลาย หรือทั่วไปในพื้นที่นี้ แต่มีรายงานจะแผ่กระจาย และกลายเป็น วัชพืชร้ายแรงรอบขอบของนู บนเกาะคริสต์มาส เถาวัลย์ปะการัง (พวงชมพู) เป็นวัชพืชแพร่หลาย แต่ค่อนข้าง น้อย ทะเลหน้าผาและฟื้นฟูพื้นที่เถาวัลย์ปะการัง (พวงชมพู) เป็นสายพันธุ์ปัญหาในส่วนอื่น ๆ ของโลก และอยู่ในฐานข้อมูลสายพันธุ์รุกรานโลก มันได้กลายเป็นรุกรานโดยเฉพาะอย่างยิ่งบนเกาะแปซิฟิกหลาย ซึ่งมันจะเติบโต ในพื้นที่ที่ถูกรบกวน และหน้าผาปะการังแห้ง เช่น มันคือแลนพื้นที่ถูกรบกวนและขอบป่าในภาคเหนือของกวมอย่างกว้างขวาง นอกจากนี้มันยังเป็นรายงานที่จะรุกรานหมู่เกาะในมหาสมุทรแอตแลนติก (เช่นหมู่เกาะเวอร์จิน) และมหาสมุทรอินเดีย (เช่นบรูไนและติมอร์ตะวันออก)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผลกระทบเถาปะการัง (พวงชมพู) ถือได้ว่าเป็นวัชพืชสิ่งแวดล้อมในดินแดนทางเหนือควีนส์แลนด์ออสเตรเลียตะวันตกและเกาะคริสต์มาส
พืชรุกรานนี้ยังระบุว่าเป็นวัชพืชสิ่งแวดล้อมมีความสำคัญอย่างน้อยหนึ่งภาคการจัดการทรัพยากรธรรมชาติในภาคเหนือของประเทศออสเตรเลีย มันสมบูรณ์สามารถปกปิดพืชพื้นเมืองออกจากการแข่งขันองุ่นและพืชผักพื้นเมือง understorey ในสภาพภูมิอากาศเปียกแห้งทางตอนเหนือของออสเตรเลียใบแห้งออกและวางในช่วงฤดูแล้งจึงให้น้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับไฟไหม้เสียหาย.
เถาปะการัง (พวงชมพู) กำลังเป็นกังวลมากที่สุดในดินแดนทางเหนือซึ่งจะมีการจัดการอย่างแข็งขันโดยชุมชน กลุ่ม มันได้แพร่กระจายจากการเพาะปลูกเป็นรั้วปีนเข้าไปในพืชชายฝั่งบริเวณใกล้เคียงและมรสุมดงเถาวัลย์ ตัวอย่างเช่นสายพันธุ์นี้ถูกระบุว่าเป็นวัชพืชลำดับความสำคัญสูงในดินแดนดั้งเดิมในพื้นที่ภาคเหนือของที่ดินสภาและถือได้ว่าเป็นวัชพืชที่สำคัญในไพน์ครี bioregion.
ในภาคเหนือของรัฐควีนส์แลนด์เถาปะการัง (พวงชมพู) นอกจากนี้ยังอาศัยอยู่เปียกพื้นที่ป่าฝนและ อัตรากำไรขั้นต้นของป่าชายเลน มันเป็นรายการที่เป็นพืชศัตรูพืชในพื้นที่ของรัฐบาลสวิลล์เมืองท้องถิ่นและเป็นวัชพืชสิ่งแวดล้อมในภูมิภาคทูริงเมือง มันได้รับการยกย่องยังเป็นพืชศัตรูพืชที่มีความสำคัญสูงในภูมิภาค Mackay-วิทซันเดย์ในภาคกลางของรัฐควีนส์แลนด์และเป็นวัชพืชที่แพร่กระจายไว้บนเนินทรายชายฝั่งบนเกาะ Bribie ในตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐควีนส์แลนด์ เถาปะการัง (พวงชมพู) นอกจากนี้ยังกลายเป็นเรื่องปกติมากขึ้นตามน้ำในย่านชานเมืองบริสเบน.
ในภูมิภาคทางตอนเหนือของคิมเบอร์ลีออสเตรเลียตะวันตกเถาปะการัง (พวงชมพู) มักจะเติบโตเวิ้งข้างเปียกอย่างถาวรและรบกวนพืชพรรณธรรมชาติที่อยู่ติดกับลำห้วย มันยังไม่เป็นที่แพร่หลายหรือที่พบในบริเวณนี้ แต่เป็นรายงานที่ได้รับการแพร่กระจายและกลายเป็นวัชพืชที่ร้ายแรงรอบขอบของทะเลสาบ Kununurra ในวันคริสต์มาสเกาะเถาปะการัง (พวงชมพู) เป็นที่แพร่หลาย แต่ค่อนข้างน้อยวัชพืชของหน้าผาริมทะเลและพื้นที่การฟื้นฟูสมรรถภาพ.
เถาปะการัง (พวงชมพู) นอกจากนี้ยังเป็นสายพันธุ์ที่มีปัญหาในส่วนอื่น ๆ ของโลกและเป็น บริษัท จดทะเบียนในทั่วโลก ฐานข้อมูลการแพร่กระจายพันธุ์ มันได้กลายเป็นรุกรานโดยเฉพาะอย่างยิ่งในหลายหมู่เกาะแปซิฟิกที่เติบโตในพื้นที่ที่ถูกรบกวนและบนหน้าผาปะการังแห้ง ยกตัวอย่างเช่นมันเป็นอย่างกว้างขวางบุกรุกพื้นที่ที่ถูกรบกวนและขอบป่าในครึ่งทางตอนเหนือของเกาะกวม มีรายงานว่าจะรุกรานบนเกาะในมหาสมุทรแอตแลนติก (เช่นหมู่เกาะเวอร์จิน) และอินเดีย (เช่นคริสมาสต์และเกาะติมอร์) มหาสมุทร