What does the literature tell us ab

What does the literature tell us about the elements of the organizational culture—or micro culture—in emergency departments that may impact the care provided to the older adult who presents in the emergency department with what is perceived by staff as a non-acute condition or complaint? In the U.S. and Canada, the population 65 years of age or older accounts for between 15% to 20% of all emergency admissions. Older adults stay in the emergency department longer than younger adults, and therefore potentially consume more of one of the limited resources in emergency departments—time. The older adult is also more at risk for adverse effects from admissions to emergency departments, and this can impact length of stay in hospital and levels of functioning at discharge. The aim of this scoping study is to map the presence of the three levels of culture (artifacts, values and beliefs, and assumptions) in Schein’s (2010) organizational culture assessment framework in the literature on organizational culture in emergency departments. The methodology used was the Arksey and O’Malley framework for scoping studies. The main finding on the artifact level was that emergency departments are not designed with the older adult in mind. The main findings on the values and beliefs level were that emergency departments are for urgent cases, that older adults do not receive the care and respect they should be given, that there is not enough time in the department, that teams are important, and that emergency nurses feel competent providing emergency nursing but were not focused on good nursing care, particularly not traditional bedside nursing care. The main assumptions underlying these values and beliefs were that older adults did not belong in the emergency department, most visitors to the department were not really critically ill and therefore could wait, and that staff needed to be available for acute cases at all times. A systematic review of a variety of literature on this topic is warranted in order to bring the findings from separate research efforts up to the evidence level of a summary. This review could then support changes to improve care provided to older adults in the emergency department through evidence.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วรรณคดีบอกอะไรเราเกี่ยวกับองค์ประกอบของวัฒนธรรมองค์กร — หรือไมโครวัฒนธรรม — ในแผนกฉุกเฉินที่อาจมีผลกระทบต่อการดูแลผู้ใหญ่รุ่นเก่าที่นำเสนอในแผนกฉุกเฉินมีอะไรเป็นที่รับรู้โดยเป็นสภาวะไม่เฉียบพลันหรือร้องเรียน ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ประชากร 65 ปีอายุ ตั้งแต่บัญชีสำหรับระหว่าง 15% ถึง 20% รับสมัครนักศึกษากรณีฉุกเฉินทั้งหมด อายุอยู่ในแผนกฉุกเฉินนานกว่าผู้ใหญ่อายุน้อย และดังนั้นจึง อาจใช้มากกว่าหนึ่งในทรัพยากรที่จำกัดในแผนกฉุกเฉิน — ครั้ง ผู้ใหญ่อายุยังมากกว่าที่มีความเสี่ยงผลกระทบจากการรับสมัครไปยังแผนกฉุกเฉิน และนี้อาจส่งผลต่อระยะเวลาเข้าพักในโรงพยาบาลและระดับของการทำงานที่ปล่อย จุดมุ่งหมายของการศึกษา scoping นี้เป็นการปรากฏตัวของสามระดับของวัฒนธรรม (สิ่งประดิษฐ์ ค่านิยม และความเชื่อ และสมมติฐาน) ในกรอบการประเมินวัฒนธรรมองค์กร (2010) ของไร Schein ในวรรณคดีวัฒนธรรมองค์กรในแผนกฉุกเฉิน วิธีการที่ใช้แก้ไขกรอบ Arksey และ O'Malley scoping การศึกษา การค้นพบหลักในระดับสิ่งประดิษฐ์ได้ที่แผนกฉุกเฉินจะไม่ได้ออกแบบกับผู้ใหญ่เก่าในใจ ประเด็นหลักการค่านิยมและความเชื่อระดับได้ว่า แผนกฉุกเฉินสำหรับกรณีเร่งด่วน ที่อายุไม่ได้รับการดูแลและความเคารพที่พวกเขาควรได้รับ ว่า ไม่มีเวลาเพียงพอในแผนก สำคัญ ทีมงาน และพยาบาลฉุกเฉินมีอำนาจรู้สึกว่า ให้พยาบาลฉุกเฉิน แต่ก็ไม่เน้นพยาบาลดี พยาบาลดูแลข้างเตียงที่ดั้งเดิมโดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่ สมมติฐานหลักพื้นฐานค่านิยมและความเชื่อเหล่านี้ได้ว่า อายุไม่ได้อยู่ในแผนกฉุกเฉิน นักกรมไม่ได้ป่วยจริง ๆ จึง อาจรอ และพนักงานต้องมีกรณีเฉียบพลันทั้งหมดเวลา ตรวจสอบระบบของความหลากหลายของวรรณกรรมในหัวข้อนี้การรับประกันเพื่อนำผลการวิจัยจากแยกวิจัยถึงระดับของการสรุปหลักฐาน รีวิวนี้แล้วสามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงเพื่อปรับปรุงการดูแลให้อายุในแผนกฉุกเฉินผ่านหลักฐาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อะไรวรรณคดีบอกเราเกี่ยวกับองค์ประกอบของหน่วยงานวัฒนธรรมหรือไมโครวัฒนธรรมในกรณีฉุกเฉินขององค์กรที่อาจส่งผลกระทบต่อการดูแลให้กับผู้ใหญ่ที่มีอายุมากกว่าที่นำเสนอในแผนกฉุกเฉินกับสิ่งที่เป็นที่รับรู้โดยพนักงานที่เป็นเงื่อนไขที่ไม่เฉียบพลันหรือ ร้องเรียน? ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาจำนวนประชากรอายุ 65 ปีหรือบัญชีเก่าระหว่าง 15% ถึง 20% ของการรับสมัครฉุกเฉิน ผู้สูงอายุที่อยู่ในแผนกฉุกเฉินนานกว่าผู้ใหญ่ที่มีอายุน้อยกว่าและดังนั้นจึงอาจบริโภคมากขึ้นของหนึ่งในทรัพยากรที่มี จำกัด ในแผนกฉุกเฉินเวลา ผู้ใหญ่ที่มีอายุมากกว่านอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงมากขึ้นสำหรับผลกระทบจากการรับสมัครไปยังหน่วยงานฉุกเฉินและนี้สามารถส่งผลกระทบต่อระยะเวลาในการเข้าพักในโรงพยาบาลและระดับของการทำงานที่ปล่อย วัตถุประสงค์ของการศึกษาการกำหนดขอบเขตนี้คือการปรากฏตัวของ map สามระดับของวัฒนธรรม (สิ่งประดิษฐ์ค่านิยมและความเชื่อและสมมติฐาน) ใน (2010) กรอบการประเมินวัฒนธรรมองค์กร Schein ในหนังสือที่เกี่ยวกับวัฒนธรรมองค์กรในแผนกฉุกเฉิน วิธีการที่ใช้เป็น Arksey และโอมอลลีกรอบในการกำหนดขอบเขตการศึกษา การค้นพบที่สำคัญในระดับสิ่งประดิษฐ์คือการที่แผนกฉุกเฉินจะไม่ได้รับการออกแบบที่มีผู้ใหญ่ที่มีอายุมากกว่าในใจ ผลการวิจัยหลักในค่านิยมและความเชื่อระดับอยู่ที่แผนกฉุกเฉินสำหรับกรณีเร่งด่วนที่ผู้สูงอายุที่ไม่ได้รับการดูแลและให้ความเคารพพวกเขาควรจะได้รับว่ามีเวลาไม่พอในแผนกที่ทีมงานที่มีความสำคัญและที่ พยาบาลฉุกเฉินรู้สึกมีอำนาจให้การพยาบาลฉุกเฉิน แต่ไม่ได้มุ่งเน้นไปที่การดูแลรักษาพยาบาลที่ดีโดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่ได้การดูแลรักษาพยาบาลข้างเตียงแบบดั้งเดิม ข้อสมมติฐานหลักที่อ้างอิงค่าเหล่านี้และความเชื่อที่พบว่าผู้สูงอายุที่ไม่ได้อยู่ในแผนกฉุกเฉินเข้าชมมากที่สุดไปยังแผนกที่ไม่ได้จริงๆที่ป่วยหนักและดังนั้นจึงสามารถรอและพนักงานที่จะต้องพร้อมใช้งานสำหรับกรณีเฉียบพลันตลอดเวลา ระบบตรวจสอบความหลากหลายของวรรณกรรมในหัวข้อนี้คือการรับประกันเพื่อที่จะนำผลการวิจัยจากการวิจัยแยกขึ้นไปถึงระดับหลักฐานของการสรุป รีวิวนี้ก็จะสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงเพื่อปรับปรุงการดูแลให้กับผู้สูงอายุในแผนกฉุกเฉินผ่านหลักฐาน