In addition to the industrial stand

In addition to the industrial standards and governmental legislations, there are two major enablers to facilitate the adoption of a green supply chain. As one of the main enablers, performance measurement frameworks were therefore developed (e.g., Godfrey, 1998 and Hervani et al., 2005). Not only as tools for the design and evaluation of green supply chain performance, these frameworks can also aim to ensure the associated benefits such as the reduction of disposed material, development of by-products from wastes, and systemic tracking on the hazardous substance generated, and less energy consumption. The other enabler, innovation and the use of technology seem to be under research from the managerial aspects. In fact, implementing performance control relies on information systems to aggregate operational figures. Unlike performance measurement, there were only very few studies reported in main stream journals from the information systems aspects in the past 10 years and all of them are conceptual (Melville, 2010). Nonetheless, innovation and technology are certainly seen in the industries as the main drivers of green supply chain. For example, Epson invests heavily on green product innovations. It adopted none-surface coating techniques for most of its printers that have saved 28,000 tonne painting materials between 2007 and 2011. Similar stories can be found in Panasonic and its white ware products which can detect and record the consumers' usage behaviors to decide the energy saving mode. Those products are designed and manufactured by its partners in the supply chain. Moreover, applying technology wisely to standardize and monitor the green supply chain activities is essential of ensuring the performance of green supply chain. Ford uses Radio Frequency Identification (RFID) chip to record logistic movements of its production line and inventories such as facilitate energy efficiencies and reduce unnecessary transportations. These actions can potentially create huge impacts on the reduction of CO2 emissions (Melville, 2010, as cited from Climate Group 2008 report).

In summary, Green Supply Chain is more than a passive strategy but can be implemented as a proactive strategy. Not only being followers, companies have started to utilize the concept and related framework for marketing their brands as well as enjoy the benefits by working with the trading partners in sourcing, product design, manufacturing, and delivery in order to form a green supply chain. In this connection, the objectives of this special issue are to reflect the most recent advances on green industrial marketing, green/sustainable supply chains and their interplay in green industrial branding, and to explore future research directions.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มาตรฐานอุตสาหกรรมและ legislations รัฐ มี enablers สองหลักเพื่ออำนวยความสะดวกของห่วงโซ่อุปทานสีเขียว เป็นหนึ่ง enablers หลัก กรอบประเมินประสิทธิภาพจึงจัดทำขึ้น (เช่น Godfrey, 1998 และ Hervani et al., 2005) ไม่เพียงแต่เป็นเครื่องมือสำหรับการออกแบบและการประเมินประสิทธิภาพโซ่อุปทานสีเขียว กรอบเหล่านี้สามารถยังมุ่งมั่นที่จะให้ผลประโยชน์เกี่ยวข้องเช่นการตัดจำหน่ายวัสดุ พัฒนาสินค้าพลอยเสีย และระบบการติดตามสารอันตรายที่สร้างขึ้น และน้อย กว่าการใช้พลังงาน สตัวเปิดใช้งานอื่น ๆ นวัตกรรม และการใช้เทคโนโลยีดูเหมือนจะ อยู่ภายใต้การวิจัยจากด้านบริหารจัดการ ในความเป็นจริง ใช้ควบคุมประสิทธิภาพอาศัยระบบข้อมูลการดำเนินงานภาพรวม ซึ่งแตกต่างจากการวัดประสิทธิภาพการทำงาน มีเพียงการศึกษาน้อยมากรายงานในสมุดรายวันกระแสหลักจากระบบสารสนเทศด้านใน 10 ปี และทั้งหมดเป็นแนวคิด (Melville, 2010) กระนั้น นวัตกรรมและเทคโนโลยีอย่างแน่นอนเห็นในอุตสาหกรรมที่เป็นไดรเวอร์หลักของห่วงโซ่อุปทานสีเขียว ตัวอย่าง Epson ลงทุนหนักในนวัตกรรมผลิตภัณฑ์สีเขียว ได้นำเทคนิคการเคลือบพื้นผิวไม่มีสำหรับส่วนใหญ่ของเครื่องพิมพ์ที่มีบันทึก tonne 28000 วัสดุจิตรกรรมระหว่าง 2007 และ 2011 เรื่องราวคล้ายกันสามารถพบได้ในผลิตภัณฑ์ของเครื่องสีขาวซึ่งสามารถตรวจพบ และบันทึกพฤติกรรมการใช้ของผู้บริโภคจะเลือกโหมดประหยัดพลังงาน และพานาโซนิค ผลิตภัณฑ์ออกแบบ และผลิต โดยเป็นคู่ค้าในห่วงโซ่อุปทาน นอกจากนี้ การใช้เทคโนโลยีอย่างชาญฉลาดเพื่อกำหนดมาตรฐาน และตรวจสอบกิจกรรมห่วงโซ่อุปทานสีเขียวเป็นสิ่งสำคัญมั่นใจประสิทธิภาพของห่วงโซ่อุปทานสีเขียว ฟอร์ดใช้ชิประบุคลื่นความถี่วิทยุ (RFID) บันทึกย้ายโลจิสติกของสายการผลิต และสินค้าคงคลังช่วยประสิทธิภาพพลังงาน และลดการคมนาคมไม่จำเป็นเช่น การกระทำเหล่านี้อาจสามารถสร้างผลกระทบอย่างมากในการลดการปล่อยก๊าซ CO2 (Melville, 2010 อ้างจากรายงานสภาพภูมิอากาศกลุ่ม 2008 เป็น)ในสรุป กรีนซัพพลายเชนกลยุทธ์แฝงมากกว่า แต่สามารถนำมาใช้เป็นกลยุทธ์เชิงรุก ไม่ เพียงเป็นผู้ติดตาม บริษัทได้เริ่มใช้แนวคิดและกรอบการทำงานที่เกี่ยวข้องสำหรับการตลาดตราสินค้าของตน รวมทั้งเพลิดเพลินกับสิทธิประโยชน์ โดยการทำงานกับคู่ค้าในการจัด หา การออกแบบผลิตภัณฑ์ ผลิต และการจัดส่งเพื่อสร้างห่วงโซ่อุปทานสีเขียว ต่อ วัตถุประสงค์ของปัญหาพิเศษนี้จะสะท้อนให้เห็นถึงความก้าวหน้าล่าสุดบนกรีอุตสาหกรรมการตลาด ห่วงโซ่อุปทานสีเขียว/ยั่งยืนและล้อของพวกเขาในสีเขียวอุตสาหกรรมตราสินค้า และสำรวจทิศทางการวิจัยในอนาคต

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นอกจากการกำหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม และกฎหมายของรัฐ มีอยู่สอง enablers ใหญ่เพื่อความสะดวกในการยอมรับของห่วงโซ่อุปทานสีเขียว . เป็นหนึ่งในความเป็นไปได้หลัก กรอบการวัดสมรรถนะได้ถูกพัฒนาขึ้นจึง ( เช่น ก็อดฟรีย์ ปี 1998 และ hervani    et al . , 2005 ) ไม่เพียง แต่เป็นเครื่องมือสำหรับการออกแบบและประเมินสมรรถนะของโซ่อุปทานสีเขียวกรอบเหล่านี้ยังสามารถมุ่งหวังที่จะให้แน่ใจว่าเกี่ยวข้องผลประโยชน์ เช่น การทิ้งวัสดุพัฒนาผลพลอยได้จากของเสีย และระบบการติดตามเกี่ยวกับสารอันตรายที่เกิดขึ้น และลดปริมาณการใช้พลังงาน การบน อื่น ๆ , นวัตกรรมและการใช้เทคโนโลยีดูเหมือนจะภายใต้การวิจัยด้านการจัดการ ในความเป็นจริงใช้ควบคุมการทำงานอาศัยระบบสารสนเทศเพื่อการรวมร่าง ) ซึ่งแตกต่างจากการวัดผลการปฏิบัติงาน มีเพียงการศึกษาน้อยมาก รายงานในวารสารกระแสหลักจากระบบข้อมูลด้านในอดีต 10  ปีและทั้งหมดของพวกเขามีแนวคิด ( Melville , 2010 ) อย่างไรก็ตามนวัตกรรมและเทคโนโลยีเป็นอย่างแน่นอนเห็นในอุตสาหกรรมเป็นโปรแกรมควบคุมหลักของห่วงโซ่อุปทานสีเขียว ตัวอย่างเช่น Epson ลงทุนอย่างมากในนวัตกรรมผลิตภัณฑ์สีเขียว มันใช้เทคนิคการเคลือบผิวไม่ได้สำหรับส่วนใหญ่ของเครื่องพิมพ์ที่ได้ 28 , 000 ตันจิตรกรรมวัสดุระหว่าง 2007 และ 2011เรื่องราวที่คล้ายกันสามารถพบได้ใน บริษัท พานาโซนิค และผลิตภัณฑ์เครื่องสีขาวของมันที่สามารถตรวจจับและบันทึกพฤติกรรมการใช้ของผู้บริโภค เพื่อตัดสินใจเลือกโหมดประหยัดพลังงาน . ผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบและผลิตโดยหุ้นส่วนในโซ่อุปทาน นอกจากนี้การใช้เทคโนโลยีอย่างชาญฉลาดเพื่อสร้างมาตรฐานและตรวจสอบห่วงโซ่อุปทานสีเขียว กิจกรรมสำคัญของมั่นใจประสิทธิภาพของห่วงโซ่อุปทานสีเขียว ฟอร์ดใช้คลื่นความถี่วิทยุ ( RFID ) ชิปเพื่อบันทึกการเคลื่อนไหวของโลจิสติกของสายการผลิตและสินค้าคงเหลือ เช่น ความสะดวก ประสิทธิภาพพลังงาน และลดการเดินทางที่ไม่จำเป็นของการกระทำเหล่านี้สามารถสร้างผลกระทบใหญ่ในการลดการปล่อย CO2 ( Melville , 2010 , โดยอ้างจากรายงานกลุ่มภูมิอากาศ 2551 ) .

สรุปแล้วห่วงโซ่อุปทานสีเขียวมากกว่ากลยุทธ์ เรื่อยๆ แต่สามารถใช้เป็นยุทธศาสตร์เชิงรุก ไม่เพียง แต่เป็นผู้ตามบริษัทได้เริ่มใช้แนวคิดและกรอบการตลาดแบรนด์ของพวกเขาเช่นเดียวกับเพลิดเพลินไปกับประโยชน์โดยทำงานร่วมกับคู่ค้าในการจัดหา ออกแบบผลิตภัณฑ์ การผลิต และการส่งมอบเพื่อสร้างห่วงโซ่อุปทานสีเขียว . ในการเชื่อมต่อนี้ มีปัญหาพิเศษนี้จะสะท้อนให้เห็นถึงความก้าวหน้าล่าสุดในอุตสาหกรรมการตลาดสีเขียวสีเขียว / ยั่งยืน และมีอิทธิพลในโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมสีเขียว ตราสินค้า และการสํารวจทิศทางการวิจัยในอนาคต