Research into the use of praise in

Research into the use of praise in the classroom has been ongoing since Brophy’s (1981)
seminal work outlined a functional analysis of teacher praise and feedback. Burnett (2001,
2002) conducted quantitative questionnaire-based studies that investigated primary students’
preferences for teacher praise as well as the relationships between teacher praise and feedback
and students’ perceptions of their relationship with their teacher and their classroom
environment. In these two studies data were collected about the use of general, non-targeted
praise (excellent, well done, that’s great), negative feedback (that’s not good enough, that’s
untidy work), ‘effort’ feedback (you’re working hard on your reading) and ‘ability’ feedback
(you’re really smart at maths).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วิจัยไปใช้สรรเสริญในห้องเรียนได้อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ของ Brophy (1981) งานบรรลุถึงอธิบายวิเคราะห์หน้าที่ของครูสรรเสริญและคำติชม Burnett (2001 2002) ดำเนินเชิงปริมาณโดยใช้แบบสอบถามศึกษาสอบสวนหลักนัก การกำหนดลักษณะสำหรับครูสรรเสริญตลอดจนความสัมพันธ์ระหว่างครูสรรเสริญและคำติชม และเข้าใจความสัมพันธ์ของตนกับครูและนักเรียน สภาพแวดล้อม ในสองการศึกษานี้ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ของทั่วไป ไม่มีเป้าหมาย สรรเสริญ (ดี ดีทำ ที่พัก) การป้อนกลับเชิงลบ (ไม่ดีพอ untidy งาน), 'ความพยายาม' คำติชม (ที่ทำงานหนักในการอ่าน) และ 'ความสามารถ' ข้อเสนอแนะ (คุณสมาร์ทจริง ๆ ที่คณิตศาสตร์)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

งานวิจัยในการใช้สรรเสริญในชั้นเรียนได้รับอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ใน ( 2524 )
งานวิจัยระบุการวิเคราะห์การทำงานของสรรเสริญครูและข้อเสนอแนะ เบอร์เน็ตต์ ( 2001 , 2002 )
) ปริมาณที่ใช้แบบสอบถามการศึกษาตามโรงเรียน '
ความชอบให้อาจารย์สรรเสริญ ตลอดจนความสัมพันธ์ระหว่างครูชม และติชม
และนักเรียนรับรู้ความสัมพันธ์ของตนกับครูของพวกเขาและสภาพแวดล้อมในห้องเรียน
. ในเหล่านี้สองการศึกษาเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ทั่วไปที่ไม่ใช่เป้าหมาย
สรรเสริญ ( ดีมาก ดีมาก ดีมาก ) , ลบความคิดเห็น ( ยังไม่ดีพอ นั่น
ไม่เรียบร้อย ) ' ความพยายาม ' ความคิดเห็น ( คุณทำงานหนักในการอ่านของคุณ ) และ ' ความสามารถ ' ติชม
( คุณฉลาดจริงๆที่คณิตศาสตร์ )